เลขาฯ สมช.มั่นใจ โควิด-19 รอบนี้ ไม่ระบาดหนักซ้ำรอยสนามมวย

เลขาฯ สมช.มั่นใจ โควิด-19 รอบนี้ ไม่ระบาดหนักซ้ำรอยสนามมวย

เลขาฯ สมช.มั่นใจ โควิด-19 รอบนี้ ไม่ระบาดหนักซ้ำรอยสนามมวย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการต่างๆ ร่วมกับนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายจาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงสุลโดยมีเรื่องสำคัญหารือในที่ประชุมติดตามสถานการณ์การติดเชื้อจากบุคคลที่กลับมาจากแม่สาย จังหวัดเชียงราย และการผ่อนคลายมาตรการออกวีซ่าของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้การเดินทางเข้าประเทศสะดวกมากยิ่งขึ้น

ด้าน นพ.โอภาส ยืนยันถึงสถานการณ์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ตัวเลขที่รายงานเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศและอยู่ในระบบกักกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข ในไทยถือว่าน้อยมากและย้ำว่าจะไม่มีปัญหาเพราะมีการตรวจอย่างเข้มข้น ซึ่งขณะนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อในประเทศที่เดินทางกลับจาก อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียร์มา 32 ราย แบ่งเป็นจ.เชียงราย20, เชียงใหม่5 และอื่นๆจังหวัดละ 1 รายและเดินทางกลับภูมิลำเนา มีที่จังหวัดเชียงใหม่, พิจิตร, ราชบุรี, กรุงเทพมหานคร และสิงห์บุรี จากนั้นจึงมีอาการป่วยและตรวจพบภายหลัง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและสัมผัสใกล้ชิดจะถูกกักตัวทุกคนจนครบ 14 วันตามมาตรการและตรวจหาเชื้ออย่างละเอียด

สำหรับมาตราการของสมช. ได้?สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง และผู้ว่าราชการจังหวัด ให้คนไทยที่อยู่ฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาเข้ามาช่องทางถูกกฎหมายและนำเข้าสู่สถานที่กักกันที่ จ.เชียงราย ในลักษณะ Local Quarantine เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยยืนยันว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อ 32 รายมีเพียง 2 รายที่ติดเชื้อในประเทศ ที่ จ.เชียงใหม่, สิงห์บุรี และไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติม ย้ำควบคุมสถานการณ์ได้ไม่ซ้ำรอยกรณีสนามมวย โดยนพ.โอภาส เน้นย้ำให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยเว้นระยะห่าง และเชื่อมั่นสถานการณ์จะคลี่คลายก่อนเข้าปีใหม่

ทั้งนี้ประชาชนที่เป็นเจ้าของบ้านเช่า และคอนโดที่มีผู้ที่พบว่ามีคนเดินทางมาจากท่าขี้เหล็กโดยไม่กักตัว 14 วันหรือ 1 เดือนให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook