Sanook คลุกข่าวเช้า 8 ธ.ค. 63 "เยาวชนปลดแอก" ประกาศ "RT MOVEMENT" - ดีเดย์ห้ามขายเหล้าเบียร์ออนไลน์

Sanook คลุกข่าวเช้า 8 ธ.ค. 63 "เยาวชนปลดแอก" ประกาศ "RT MOVEMENT" - ดีเดย์ห้ามขายเหล้าเบียร์ออนไลน์

Sanook คลุกข่าวเช้า 8 ธ.ค. 63 "เยาวชนปลดแอก" ประกาศ "RT MOVEMENT" - ดีเดย์ห้ามขายเหล้าเบียร์ออนไลน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งกับ Sanook คลุกข่าวเช้า ประจำวันอังคารที่ 8 ธันวาคม 2563 ที่จะมารายงานข่าวที่น่าสนใจให้คุณฟังได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยฟังก์ชั่น Text to Speech ซึ่งระบบ AI ของเราจะทำหน้าที่อ่านข่าวให้คุณฟัง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่ก็ตาม เพียงมองหาสัญลักษณ์รูปลำโพงสีเขียว และกดฟังได้เลย

ข่าวแรกเริ่มที่ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” ที่ได้มีการประกาศผ่านเฟซบุ๊ก เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH เปิดตัวการเคลื่อนไหวรูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อ “RT MOVEMENT” โดยระบุว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อ Restart Thailand โดยไม่มีแกนนำ ไม่มีการ์ด ไม่มีเวที และไม่มีการเจรจาต่อรอง พร้อมทั้งกล่าวว่า RT MOVEMENT เป็น “ทีมข้อเดียว” ซึ่งจะปลุกสำนึกทางชนชั้นของเหล่าแรงงานผู้ถูกกดขี่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงานออฟฟิศ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ชาวนา หรือข้าราชการ ก็ล้วนเป็นแรงงานผู้ถูกกดขี่ทั้งสิ้น และหลังจากนั้นจะมีการเปิดช่องทางในการรณรงค์เร็วๆ นี้ เพื่อสร้างสังคมที่มีความเท่าเทียมต่อไป

ต่อกันที่ข่าวที่สอง ได้แก่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยน.พ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สคอ.) ได้เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่าการประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้เป็นการควบคุมวิธีการขาย โดยลดและควบคุมการเข้าถึงการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อลดผลกระทบระยะยาวในการเข้าถึงสื่อออนไลน์ของเด็กและเยาวชนที่ปัจจุบันเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากกฎหมายฉบับเดิม หากเป็นการซื้อขายโดยตรงที่ร้านและทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์สามารถทำได้ โดยไม่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่หากมีการจำหน่ายสู่ผู้บริโภค ผ่านเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์ ถือว่าผิดกฎหมาย ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันทั้งบริษัทเล็กและบริษัทใหญ่ ไม่ได้เป็นการปิดกั้นช่องทางโฆษณา แต่เป็นการมุ่งเน้นไปที่การควบคุมวิธีการจำหน่ายเท่านั้น

ปิดท้ายกันที่สถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มน่ากังวลอีกครั้ง เนื่องจากมีผู้ที่ติดเชื้อเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติหลายราย ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการต่างๆ ร่วมกับนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายจาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงสุลโดยมีเรื่องสำคัญหารือในที่ประชุมติดตามสถานการณ์การติดเชื้อจากบุคคลที่กลับมาจากแม่สาย จังหวัดเชียงราย และการผ่อนคลายมาตรการออกวีซ่าของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้การเดินทางเข้าประเทศสะดวกมากยิ่งขึ้น

นพ.โอภาส ยืนยันถึงสถานการณ์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ตัวเลขที่รายงานเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศและอยู่ในระบบกักกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข ในไทยถือว่าน้อยมากและย้ำว่าจะไม่มีปัญหาเพราะมีการตรวจอย่างเข้มข้น ซึ่งขณะนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อในประเทศที่เดินทางกลับจาก อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียร์มา 32 ราย แบ่งเป็นจ.เชียงราย 20 ราย, เชียงใหม่ 5 ราย และอื่นๆ จังหวัดละ 1 รายและเดินทางกลับภูมิลำเนา มีที่จังหวัดเชียงใหม่, พิจิตร, ราชบุรี, กรุงเทพมหานคร และสิงห์บุรี จากนั้นจึงมีอาการป่วยและตรวจพบภายหลัง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและสัมผัสใกล้ชิดจะถูกกักตัวทุกคนจนครบ 14 วันตามมาตรการและตรวจหาเชื้ออย่างละเอียด

สำหรับมาตรการของ สมช. ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง และผู้ว่าราชการจังหวัด ให้คนไทยที่อยู่ฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เข้ามาช่องทางถูกกฎหมายและนำเข้าสู่สถานที่กักกันที่ จ.เชียงราย ในลักษณะ Local Quarantine เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยยืนยันว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อ 32 รายมีเพียง 2 รายที่ติดเชื้อในประเทศ ที่ จ.เชียงใหม่, สิงห์บุรี และไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติม ย้ำควบคุมสถานการณ์ได้ไม่ซ้ำรอยกรณีสนามมวย โดยนพ.โอภาส เน้นย้ำให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยเว้นระยะห่าง และเชื่อมั่นสถานการณ์จะคลี่คลายก่อนเข้าปีใหม่

ทั้งนี้ประชาชนที่เป็นเจ้าของบ้านเช่า และคอนโดที่มีผู้ที่พบว่ามีคนเดินทางมาจากท่าขี้เหล็กโดยไม่กักตัว 14 วันหรือ 1 เดือนให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook