"พีเค" เปิดมุมชีวิตรัก เจ้าชู้มากใช้วิธีนอกใจเป็นการบอกเลิก ก่อนจะหยุดที่ "โยเกิร์ต"

"พีเค" เปิดมุมชีวิตรัก เจ้าชู้มากใช้วิธีนอกใจเป็นการบอกเลิก ก่อนจะหยุดที่ "โยเกิร์ต"

"พีเค" เปิดมุมชีวิตรัก เจ้าชู้มากใช้วิธีนอกใจเป็นการบอกเลิก ก่อนจะหยุดที่ "โยเกิร์ต"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก่อนถึงจุดนี้ได้ ดีเจพีเค-ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร ต้องผ่านเรื่องราวขรุขระมามากมาย คุณแม่สอนเสมอว่า "ถ้าอยากได้ก็ต้องหาเอาเอง เพราะพ่อกับแม่ให้ได้แค่การศึกษา" ซึ่ง พีเค ที่ได้มาเป็นแขกรับเชิญใน รายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 เปิดใจแบบหมดเปลือกจากชีวิตที่ติดลบจนประสบความสำเร็จ พร้อมเล่าทุกเรื่องราวความรักที่ผ่านมาของตัวเองที่เป็นทั้งแฟนน้อย โดนตบหน้า โดนทุบรถ ใช้วิธีนอกใจเป็นการบอกเลิก ก่อนมาเจอรักแท้กับภรรยาแสนสวย โยเกิร์ต คือความสุขที่สุดของชีวิต แต่ไม่คิดจะมีลูก 

พีเค : "ขออนุญาตบอกก่อนเลยว่าเรื่องที่จะเล่าทั้งหมดคือ เกิดก่อนเมื่อ 8 ปีมาแล้วนะครับ"

เข้าวงการมากี่ปีแล้ว

พีเค : "20 ปีครับ และที่ต้องเลี้ยงอาหารบริษัททุกครั้งเพราะว่าในใจนอกจากทีมงานของเราที่แกรมมี่แล้ว อยากเลี้ยงพี่ฉอดด้วยทุกปีเพราะว่าชีวิตของเรามีวันนี้ได้เพราะแม่คนที่สองคนนี้เลยครับ เพราะถ้าไม่มี พี่ฉอด ก็ไม่มีผมวันนี้"

แต่กว่าจะมาเป็น พีเค ในวันนี้ที่เป็น #MCRockstar เยอะแยะมากมายที่เราเห็นกัน ขับซุปเปอร์คาร์ ดูหรูหราไฮโซตลอดเวลาจริงๆแล้วต้องบอกว่าย้อนกลับไปเราก็เริ่มต้นมาอย่างยากลำบาก

พีเค : "บ้านผมเป็นครอบครัวที่ฐานะปานกลาง พ่อรับเงินเดือน แม่เปิดร้านขายของชำ แม่ตั้งใจว่าอยากให้ลูกเข้าบดินทรเดชาให้ได้เพราะพี่ชายคนโตกับคนกลางเขาเข้าโรงเรียนดี ซึ่งพี่ๆของเราคือเข้าวชิราวุธวิทยาลัยได้ทั้งคู่ แต่ด้วยความที่โง่ของผมคือผมสอบเข้าไม่ได้ แต่เพราะว่าบ้านเราไม่มีเงินพอที่เราจะเข้าไปเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่ๆ แม่เลยบอกว่าถ้าเข้าโรงเรียนที่เราตั้งใจไม่ได้แล้วก็ไปลองเสี่ยงชีวิตไปอยู่ที่อเมริกา"

พีเค : "เราไม่มีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษเลยซึ่งมีอยู่น้อยมาก วันแรกที่เราถึงก็คือช็อกเลยเพราะว่าน้าน้องสาวพ่อเขาเปิดร้านอาหารแล้วพ่อกับแม่ไปทำงานเหมือนคนเสิร์ฟ คนทำครัวที่นั่นด้วยแล้วที่เรานอนคือชั้นใต้ดิน เวลาอาบน้ำเราถามแม่ว่าอาบน้ำที่ไหน ปรากฏว่าเขาอาบน้ำกันในอ่างล้างจานเราก็ตกใจแต่ลุยก็ลุยเพราะพ่อแม่มาอยู่ได้ เราก็ต้องอยู่ได้ พอเราไปอยู่ได้ 2 อาทิตย์เราเรียนเลยทันที ตอนนั้นก็โดนบูลลี่หนักเหมือนกันครับ แต่ก็ต้องขอบคุณที่เขาบูลลี่เราเพราะถ้าเราไม่เก่งไม่แกร่งมาตั้งแต่เด็กๆก็จะไม่มีชื่อ พีเค มาเลยนะ เพราะว่าชื่อเล่นจริงๆของเราชื่อ นัท แล้ว Nut ภาษาอังกฤษแปลว่า บ้า เด็กพวกมันรู้ว่านี่คือชื่อเล่นของเราก็เอาไปล้อ มาแกล้ง มาต่อย มาตบหัว จนเพื่อนฟิลิปปินส์สงสารเขาเลยเปลี่ยนชื่อให้เราตอน 10 ขวบนิดๆก็เป็นที่มาของชื่อ พีเค"

แล้วเคยไหมที่ทำให้เราร้องไห้กลัว ทำไมเราต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้

พีเค : "ไม่เลยครับเพราะเราเห็นพ่อแม่ลำบาก เราจะรู้สึกว่ายังไงก็ได้ยังไงก็รับได้" 

แต่ก็หาเงินได้ตั้งแต่อายุยังน้อย

พีเค : "แม่จะสอนตลอดเลยว่าอยากได้อะไรในชีวิตนี้หาเอาเองฉันไม่มีให้ พอเราอายุ 13 เราก็เริ่มทำงานเลยได้เงินมา 5-10 เหรียญ ถือว่าเยอะแล้วในสมัยก่อน จน 16 ปี ทำงานที่แรกแบบว่าทำงานจริงจังที่เราทำคือ ล้างส้วมก่อนเลย คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่า พีเค ล้างส้วมจริงเหรอ จะบอกเลยว่าทุกคนที่เข้ามาทำงานร้าน Wendy’s Burgers อาทิตย์แรกล้างส้วม อาทิตย์ถัดมาเก็บขยะ เราไม่รู้สึกอะไรเลยเพราะแม่จะสอนให้เราติดดินเสมอ แม่จะสอนว่าเรามีเท่านี้ อยากได้มากกว่านี้หาทำเอา แล้วเราจะรู้เลยว่าเราเหนื่อยขนาดไหนเราก็จะได้เงินกลับมาเท่านั้น ผมทำจนมีรายได้เป็นแสนคืองาน Computer networking ของธนาคารงานนั้นได้ตอนจบมหาวิทยาลัยแล้วจำได้เลยว่าแม่ดีใจมากเงินเดือนเดือนละแสน ใส่สูท ผูกไท ขับรถสปอร์ตไปทำงาน แม่มีความสุขมาก"

พีเค : "แต่ความตั้งใจที่จะกลับมาเมืองไทยคือตั้งแต่อายุ 13 อยากเป็นนักร้อง เพราะว่าทุกร้านอาหารไทยที่อเมริกาจะมีคาราโอเกะแล้วเพลงที่จะมีแต่ของแกรมมี่ เพลงพี่เบิร์ด เพลงพี่ใหม่ เพลงติ๊นา มันเลยฝังอยู่ในสมองว่าถ้าจะเป็นนักร้องต้องที่แกรมมี่เท่านั้น แม่บอกว่าถ้าอยากเป็นนักร้องต้องเอารับปริญญามา 1 ใบ พอเราได้รับปริญญาเราบอกว่าเราจะกลับมาเป็นนักร้องแม่บอกว่าทำงานก่อน แต่พอเราบอกว่าเราจะกลับจริงๆแล้วนะ ทะเลาะกันร้องไห้เพราะแม่เสียดายงานที่เราทำ" 

ทิ้งเงินเป็นแสนกลับมาเมืองไทย แล้วจะไปใกล้ความฝันของเรายัง

พีเค : "เอาเดโมมายื่นที่แกรมมี่ artist ตอนนั้นพี่ปั๋ง เป็นหัวหน้าอยู่ที่นั่นเอาเราก็เอาเดโมมาให้เจอผู้หญิงคนหนึ่งให้เรากรอกใบสมัครพอเรากรอกเสร็จเขาก็ขอบคุณค่ะ เราก็คิดว่าแค่นี้เหรอ แต่วันนั้นเราโชคดีที่มาเจอพี่นิคเพราะเราโตมาด้วยกันที่เมืองนอก วันนั้นผมเลยได้รู้จักพี่ฉอด พี่อั๋น พี่อ้อย ค่อยๆรู้จักทุกคนในช่วงนั้นตลอด 1 ปี ถึงแม้ไม่มีงานเรายังมีเงินเก็บติดตัวมา 25,000 บาท ที่เราเหลือเท่านี้เราจะมีกลับมาเท่าไหร่ไม่ว่าแต่หนี้ที่โน้นต้องเป็นศูนย์"

ทิ้งทุกอย่างแถมทิ้งความรักมาด้วย

พีเค : "คือ ซินดี้ คบมา 4 ปี ตอนนี้เขาแต่งงานแล้ว เขาสวยมาก ถ้าไม่นับคุณโย เขาคือแฟนที่สวยที่สุด เราคบกันมา 4 ปี แล้วก็มาเที่ยวเมืองไทยด้วยกันสองครั้ง เขาบอกเราว่ารู้ว่าเราอยากเป็นนักร้องเรามาอยู่ที่นี่ด้วยได้นะ มาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่นี่ก็ได้ แต่ด้วยความที่เราไม่มีทุน ไม่รู้จักใครเลยลากเขามาถ้าเรือล่มคือตายคู่ เลยตัดสินใจว่า เลือกเอาระหว่างความรักกับความฝัน ผมเลือกความฝัน ที่ต้องเลิกกับเขาเพราะเราไม่สามารถที่จะไปยื้อที่เขาจะไปต่อได้ เราไม่รู้ว่าบนเส้นทางของความฝันจะสำเร็จไหม จะใช้เวลานานเท่าไหร่ เราตัดสินใจเลิกเสียใจมาก ร้องไห้หนักมากแต่มันต้องทำเพื่อที่จะกลับมาเมืองไทย" 

ซึ่งตอนที่กลับมาเมืองไทย คือ เหลือเงินอยู่เท่าไหร่

พีเค : "25,000 บาทครับ แต่สำหรับผมไม่ใส่ใจ เพราะเราขอแค่เรามาทำ ไม่ใช่ไม่มาทำเพราะคนอื่นบอกทำไม่ได้เพราะจะมีคำว่า แกเคยดูตัวเองบ้างหรือเปล่าในกระจก แกทำไม่ได้ เราได้ยินแบบนี้มาเยอะมากเราเลยขอเลือกทำเอง ถ้ามันทำไม่ได้ก็จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เงินเล็กเงินใหญ่ไม่ใช่สำหรับผมในตอนนั้น ขอให้ได้มาตอกบัตรที่แกรมมี่ทุกวัน พี่เราโชคดีที่ได้รู้จักพี่ฉอด แล้วบอกว่าเราพูดภาษาอังกฤษได้ลองทำเทปดีเจดีไหม เราก็คิดว่าลองเป็นดีเจ"

พีเค : "แต่ยังคงส่งเดโมต่อไปจนมาเจอค่ายอังกอร์ ทำเพลงให้เป็นแนว R&B ปรากฏว่าเพลงดังทุกคนในประเทศร้องได้แต่ไม่มีใครรู้ว่าผมร้อง เราก็ไปทัวร์คอนเสิร์ตขึ้นไปร้อง 4 คน แต่ไม่มีคนรู้จักเราเลยจนร้องเพลงนี้ขึ้นมาทุกคนถึงร้องอ๋อ! พอมันเกิดแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกมันน่าเบื่อ แล้วมีอยู่วันหนึ่งเรารู้เลยว่าเราจะยึดหน้าที่พิธีกร เกิดขึ้นในวันที่มีคอนเสิร์ตเกาหลี-ไทย วันนั้นผมเป็นพิธีกรด้วย วง Sane ที่ผมอยู่ก็ขึ้นร้องด้วยพองานจบรับเช็ค 1 ใบของพิธีกร อีก 1 ใบนักร้องเปิดมาดูจากนั้นต่อไปเรารู้เลยว่าเราต้องเป็นพิธีกรอย่างเดียว เพราะเราได้ทำตามความฝันแล้วนะจากนี้ไปเราจะเป็นพิธีกรเต็มตัวแล้ว"

พอมาถึงเรื่องความรักวันหนึ่งจะเข้าใจคำว่า PK ย่อมาจากปีครึ่งทำไมความรักถึงมีวงจรแค่ปีครึ่ง

พีเค : "ตั้งแต่ที่ผมกลับมาเมืองไทยคนที่ผมคบลูกน้องพี่ฉอดสองคนคือสองคนในนั้น เรื่องมันเกิดขึ้นก่อน 8 ปี เพราะเราเป็นคนที่รักคนง่าย เพราะในหัวผมผู้หญิงที่เพอร์เฟกต์ที่สุด คือ สวย เก่ง ฉลาด รักผมฝากชีวิตไว้ได้แล้วที่ผมคบมาคืออาจจะมีความเพอร์เฟกต์นี้ 2 ใน 5 หรือ 3 ใน 5 มันเลยคบได้พักหนึ่งแล้วเรารู้สึกเบื่อ แล้วพอเราเจอคนใหม่ที่เขามีคาแรคเตอร์ที่เขาไม่มีก็เลยมาชอบคนนี้แทน"

แล้วทำไมไม่หาคนที่คาแรคเตอร์คบตามที่เราต้องการก่อนแล้วค่อยคบ หรือเพราะว่ามันไม่เจอเลยแก้ขัดไปก่อน

พีเค : "ใช่ เพราะมันไม่เจอด้วย มันก็ไม่ผิดนะครับเพราะเราเห็นเสน่ห์ของแต่ละคนเรารู้สึกว่าผู้หญิงทุกคนสวยและเก่งเพียงแต่ว่าเขาสวยและเก่งจนวันหนึ่งเราต้องยอมขอเขาแต่งงานหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาเราแค่ชอบแล้วก็จีบเขาแล้วพอคบกันมาได้สักพักก็จะเริ่มเห็นจุดด้อยๆ"

พีเค : (ถามว่าคบซ้อนไหม) "ตลอดครับ จะบอกว่าคบซ้อนเพราะผมเป็นคนที่รู้สึกว่าเพราะผมไม่ชอบเป็นคนที่อยู่คนเดียว ถึงแม้ชอบเอาตัวเองออกมาอยู่คนเดียวข้างนอกจากครอบครัว แต่คนที่เลือกเป็นคนรักผมไม่ชอบอยู่คนเดียว สมมุติว่าเราอยู่กับคนที่หนึ่งพอรู้ว่าไม่ใช่แล้วเราก็จะหาที่สองมาเสียบ แล้วทำให้คนที่หนึ่งเขาจับได้พอเขาจับเราได้เขาก็จะเลิกกับเรา คนที่สองเขาก็จะขึ้นมาเป็นที่หนึ่งแล้วพอเกิดอาการเดิมๆเราก็ทำแบบเดิม มันก็เหมือนงูกินหางไปเรื่อยๆ (คบมากที่สุดที่คบซ้อน 7 – 8 คน แต่แค่คุย ไปทานข้าวแค่นั้นนะครับ) ซึ่งในการที่วางแผนให้เขาจับได้คือ เราตั้งใจที่จะทำให้เขาจับได้ แต่เขานึกว่าเขาจับเราได้เอง เพราะเราไม่อยากขอเลิกกับเขามันดูเป็นผู้ร้ายมากเกินไป อีกอย่างคือเราจิตใจไม่แข็งพอในการเลิก คือจีบจีบได้บอกเลิกลำบาก กล้านอกใจเพื่อให้เขาเลิก แต่เราไม่ได้บอกเลิกเขาอย่างเดียวนะ เราก็มีอกหัก โดนทิ้ง โดนหลอก มีสลับกันมาตลอด"

ดีเจพีเค รายการคลับฟรายเดย์

ในทุกความรักปีครึ่งของ พีเค คือ โดนทุกอย่างเลยทั้งทุบรถ ตบหน้า

พีเค : "ช่วงที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นคือช่วงที่เป็นดีเจแรกๆเลยคบกับ AE สวย เปรี้ยวเลยแล้วสักพักเขาออกไปเป็นแอร์โฮสเตสเราก็แอบไปคบกับนักร้องแล้วพอเขาบินกลับมา เขามาที่บ้านเจอผมกับนักร้องพอดี เขาเข้ามาตบเปรี้ยง !! แล้วเดินออกประตูไปเลย (ซึ่งนักร้องเขาก็ไม่รู้ว่าเราคบซ้อน แต่เขายังคบกับเราต่อ)จนกระทั่งเขามาเจอเรากับพริตตี้เขาก็เลยทุบรถแล้วก็ไป"

แล้วเคยอกหักบ้างไหม

พีเค : "จะบอกว่าในชีวิตมีอกหักสองครั้งที่อกหักแรงๆ เลย รักครั้งแรกที่อกหักคือ ตอนอยู่อเมริกาคบกันมา 1 ปีเขียนจดหมายหากันทุกวัน เจอกันทุกเดือนเมษายน เจอกันปีละ 1 ครั้ง เจอกันครั้งแรกเราชอบเลยพยายามจีบเป็นแฟน โทรศัพท์หาบ่อยๆ จีบ 1 ปี เราได้ไปเจอเขาที่ลานจอดรถ เพราะเขานัดที่นั่นเราก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงนัดที่นั่นเราก็เอาของขวัญวันเกิดไปให้เขา เขาบอกว่าขอบคุณนะ "เราเป็นเพื่อนกันเถอะ" แล้วเขาก็เดินไปขึ้นรถสปอร์ตสีดำแล้วขับออกไปเพราะมีคนมารอรับเขาอยู่แล้ว เราก็นั่งร้องไห้อยู่ 4 ชั่วโมงร้องจากเวอร์จิเนียจนนั่งรถตู้กลับไปนิวยอร์กร้องจนถึงบ้านจำได้เลยว่าเจ็บ แค้น เสียใจ เสียดายทุกความรู้สึกมันวนเข้ามาอยู่ในหัวนั่นคือรักครั้งแรก"

"แต่ต้องขอบคุณเขานะเพราะวันนั้นทำให้ผมมีวันนี้เพราะจากที่เราไม่รู้ว่าไฮโซคืออะไร ไม่รู้เลยว่าหนังสือ GQ คืออะไรทำให้ผมศึกษาทุกอย่างและผมต้องมีรถคันนั้น Nissan 300zx twin turbo สีดำ วันหนึ่งผมต้องมีคันนี้ให้ได้เพื่อไปรับเขาและอีก 2 ปีต่อมาผมก็มีคันนี้และไปรับเขา และเราต้องทำให้เขารักเราให้ได้แล้วก็พอทำทุกอย่างเสร็จวันนั้นเลิก คืนนั้นเลิก ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราชนะ (เขาก็ร้องไห้) แต่ต้องขอบคุณเขามากนะทำให้ผมมีทุกวันนี้ เพราะรถสปอร์ตกลายเป็นส่วนหนึ่ง สำคัญที่สุดในชีวิตเรา"

พีเค : "และอีกครั้งกับการอกหักเราคบมา 3 ปี คาแรคเตอร์คือทุกอย่างที่เราต้องการในแบบของผู้หญิงเลยคนหนึ่ง (ตอนนี้เขาแต่งงานแล้ว) แต่เพราะเขามีแฟนอยู่แล้วเป็นฝรั่งและรวยมาก เราจะไปรับเขาทุกครั้งที่แฟนเขาไปเมืองนอก พาเขาไปเที่ยวแล้วเราก็บอกทุกคนว่าคนนี้คือแฟน สำหรับเราเรารักเขาเหมือนแฟน เวลาที่แฟนตัวจริงเขากลับมาเราเสียใจตลอด ซึ่งเราก็คิดตลอดเลิกดีไหมๆแต่พอเขากลับมาคือเราเซ็ตศูนย์ใหม่ตลอดมีความสุขเหมือนเดิม ผมคบอยู่กับคนนี้ 3 ปี อย่าเรียกว่าอดทนครับเพราะผมมีความสุข แต่สำหรับคนนี้แม่กับพี่ชายบอกว่าเลิกเถอะ"

"แต่ทุกคนมองว่าประสบความสำเร็จในชีวิตมีเงิน ขับรถดี มีภรรยาสวย แต่ก่อนหน้านี้ถ้าผมไม่เจอเรื่องพวกนี้ผมจะไม่เข้าใจเลยว่าการที่เรามีภรรยาที่ดีที่สุดคืออะไร ที่หยุดกับคนนี้ได้เพราะเขาจะเป็นคนที่ขี้โมโหแล้วเวลาที่เขาโกรธเขาจะเก็บของแล้วออกจากห้องแล้วเขาก็หายไปเลยเป็นอาทิตย์ๆแต่พอเขาอารมณ์ดีเขาจะกลับมา แต่มีวันหนึ่งทะเลาะกันแล้วเราขอร้องว่าอย่าเก็บของไม่อยากเลิกแต่เขาก็เก็บของแล้วไป แล้ววันนั้นผมมีอีเว้นท์แล้วเป็นวันแรกที่ผมเจอ โย แล้วผมก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะทำให้ผมหลุดออกจากบ่วงนี้ได้ โดยไม่ได้คิดว่าจะแต่งงานกับน้องโยด้วย ความลับนี้ โย ไม่เคยรู้ถ้าโย (ดูอยู่ตอนนี้คงรู้แล้ว) ซึ่งพอหลังจากวันนั้นเขาก็กลับมาแต่เราไม่คืนดีแล้ว และเขาก็ไป เราเริ่มมองเห็นความสวยของน้องโย เขามีคาแรคเตอร์ครบทุกอย่างที่เราต้องการ"

พีเค : "ขอเบอร์มาแต่ไม่กล้าโทรไปเองให้น้าเน็ก โทรไปให้เพราะวันที่เราได้เบอร์มาเราไปทำงานกับน้าเน็ก พอน้าโทรให้ถามว่าน้องโย มีแฟนหรือยังเขาก็บอกว่ามีแล้ว แต่เพราะใจเราชอบไปแล้วอย่างไรก็ตามก็ขออยู่รอบๆผู้หญิงคนนี้ (เพราะเรารู้สึกว่าวันหนึ่งต้องเป็นเขาจริงๆ) เพราะเรามั่นใจว่าเขาจะเลิกกับแฟนเขา แต่เราจะรอเราจะเสียเวลาเท่าไหร่ก็ได้ครายที่เสียกับคนคนนี้ เรารอแบบโสดๆเลยครับ และเก็บข้อมูลของเขาไปพร้อมว่าชอบอะไร เรียนที่ไหน เพื่อนเขาคือใครทุกครั้งที่เราได้มีโอกาสไปทานข้าว หรือไปเจอเขาเราจะได้คุยในสิ่งที่เขาชอบได้ เพราะน้องโย คือผู้หญิงที่สวยที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยเจอมา ผมไม่ชอบนางเอก ผมชอบนางร้ายเพราะนางร้ายเขามีเป้าหมายในชีวิตเพราะเขาอยากได้พระเอก เหมือนเราที่เป็นอยู่ (แล้วเขาก็เลิกกับแฟนเขาจริงๆ) โดยไม่เกี่ยวกับเรา"

"แต่เขาไม่ได้เลือกเรานะ เขามีความลังเลเพราะว่าตอนนั้นเขาเป็นนางแบบแถวหน้าของเมืองไทยมีพระเอกมีคนเข้ามาคุยกับเขาเยอะ เราก็ปล่อยเขาเพราะเรารู้ว่าเราเป็นลำดับล่างของเขาเลย นัดเขาไปกินข้าวที่ฮิลตันข้างแม่น้ำเจ้าพระยา เราก็บอกว่าเรารู้ตัวว่าเราไม่ใช่เบอร์ต้นๆ ถ้ามื้อนี้เป็นมื้อสุดท้ายเราขอมอบตุ๊กตาหมีให้เขาชื่อ น้องฮัลโหล (เพราะเขาเป็นคนสะสมตุ๊กตาหมี) ที่ชื่อนี้เพราะไม่อยาก Say Goodbye ครับ ซึ่งข้อมูลที่เราเก็บมาเป็นของเขาสิ่งที่เราชนะใจเขาเลยอันดับหนึ่งคือ ตุ๊กตาหมี เพราะพอเขาเห็นตุ๊กตาหมีหน้าตา คำพูดมันเปลี่ยนไปหมดเลยเปลี่ยนแบบว่าชื่อเราอยู่ล่างๆเด้งขึ้นมาข้างบนเลย"

"พอเราเริ่มรู้ว่าเขามีใจเราก็เริ่มมัดใจเขาด้วยการซื้อ น้องหมา เพราะคือลูกเราไม่มีอยู่แล้วเพราะเราไม่อยากมีเลยซื้อ French Bulldogมาให้ตัวแรกพออยู่ด้วย 2 วัน เขารักมากขึ้นความสัมพันธ์ของผมกับเขาก็สนิทกันมากขึ้น แล้วผมซื้ออีกตัวคือสีขาวความรักตอนนี้คือ คูณน้อง หมาของเขาให้ชื่อว่า โมย่า ส่วนอีกตัวชื่อ มัทน่า"

ในเรื่องของความเจ้าชู้ที่ใครๆรอบตัวเขาก็เตือน เราหยุดได้จริงๆ???

พีเค : "หยุดครับ หยุดได้จริงๆเพราะว่าผู้หญิงคนนี้ คือมีทุกอย่างในตัวของผู้หญิงที่เราต้องการมีความสวย มีความฉลาด มีความเซ็กซี่ มีความรักใส่ใจในตัวเอง แล้วเรามองเห็นอนาคตแล้วด้วยนะ (แต่ถามว่าคนเจ้าชู้หยุดได้จริงๆเหรอ) คือ จะบอกว่าตอนนี้ผมทำงานเยอะมากเจอทั้งหล่อ ทั้งสวย แต่มันอยู่ที่ว่าเราหยุดไหม หรืออยู่ที่ว่าเรามีภรรยาที่รักเรามากไหม เป็นเพราะว่า โยเกิร์ต ด้วยที่ทำให้เราเลิกได้ และเราก็ผ่านชีวิตมากเยอะด้วย ซึ่งเพราะเราผ่านจุดนั้นมาหมดตอนนี้เราทำงานเสร็จกลับบ้านมาหาภรรยา ตอนเย็นไปกินข้าวด้วยกัน"

"แต่การที่ผมเคยเจ้าชู้มาผมรู้สึกผิดตลอด แต่ความรู้สึกผิดของผมมันสั้นกว่าความรู้สึกถูก ผมบอกแฟนรายการคลับฟรายเดย์โชว์เลยว่าผมไม่ใช่คนดีแต่ผมเรียนรู้ชีวิตผมมาตลอดว่ามันต้องผ่านความผิดมากี่ครั้ง มันถึงจะมาถูกตอนนี้ ซึ่งไม่เลยเพราะว่ามันก็มีอีกหลายคนที่ทำผมเสียใจและเราก็ไม่เคยขอโทษซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นผ่านมาก็ขอให้มันผ่านไปแต่นั้นเอง" 

กับ โยเกิร์ต อายุห่างกัน 14 ปี มีอะไรที่ห่างกันบ้างในชีวิต

พีเค : "ไม่มีเลยครับ เพราะ โย เป็นผู้ใหญ่ในร่างเด็ก ส่วนผมเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่มันเลยเจอกันครึ่งทางเป๊ะ !! ผมว่ามันมีความสุขนะ"

 มีอะไรที่ โย เป็นห่วง พีเค ที่สุด

พีเค : "เรื่องกินเหล้า เพราะว่าผมชอบดื่มไวน์เหมือนคนชอบกินอาหารหวาน ผมชอบกินรสชาติขององุ่นเน่า เขาก็ห่วงสุขภาพเราเพราะเราไปตรวจสุขภาพมาไขมันก็ขึ้นพอกตับเขาเลยตั้งกฎว่าวันธรรมดาให้ดื่ม 3 แก้ว วันเสาร์ อาทิตย์ เขาจะไม่พูด แต่ว่าเราหนีออกจากบ้านมาเพราะว่าเราถูกตีกรอบ แต่พอแต่งงานเราโดนตีกรอบแบบนี้ แต่ไม่เป็นไรเพราะเขาเป็นห่วงเราถ้าไม่มีเขาคอยเตือนเราวันนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง ส่วนเรื่องมีทายาทเราคงไม่มีเพราะเราไม่อยากมีลูกตั้งแต่เด็ก โย ก็ด้วยเพราะเราไม่อยากให้ลูกเกิดมาเหมือนเราเพราะเราไม่ชอบการถูกตีกรอบแต่ถ้าเรามีลูกเราต้องรักลูกเรามากแน่ๆเราจะเกิดการตีกรอบเขาโดยไม่รู้ตัว เราเลยคิดว่าเราอยู่กันสองคนสบายๆเราคือมีหน้าที่ดูแลซึ่งกันและกัน"

เรียกได้ว่าเส้นทางของ พีเค ทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องเจอแต่ละบททดสอบและคำสบประมาท แต่เขาเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทำไม่ได้ก็จะหาความรู้เพิ่มแล้วฝึกฝน ในที่สุดกลายเป็น ดีเจพีเค ปิยะวัฒน์ ยืนหยัดบนเส้นทางดีเจและพิธีกรชื่อดังมาจนปัจจุบัน ติดตามชมเรื่องราวของ พิธีกร คนเก่ง พีเค ได้ใน รายการ Club Friday Show ทางยูทูบ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ "พีเค" เปิดมุมชีวิตรัก เจ้าชู้มากใช้วิธีนอกใจเป็นการบอกเลิก ก่อนจะหยุดที่ "โยเกิร์ต"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook