เจ้าของร้านทอง เผยจุดสังเกต "โจรผ้ากันเปื้อน" หน้าตาดี แต่งตัวดี ใช้ปืนแพงชุบทอง

เจ้าของร้านทอง เผยจุดสังเกต "โจรผ้ากันเปื้อน" หน้าตาดี แต่งตัวดี ใช้ปืนแพงชุบทอง

เจ้าของร้านทอง เผยจุดสังเกต "โจรผ้ากันเปื้อน" หน้าตาดี แต่งตัวดี ใช้ปืนแพงชุบทอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณีเหตุการณ์บุกชิงทอง จากกล้องวงจรปิดในร้านทองซีกวง สาขานาหลวง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. วานนี้ คนร้ายได้เข้ามาในร้านในชุดเสื้อเชิ้ต คอปก สีขาว สวมผ้ากันเปื้อนและหมวก สวมหน้ากากอนามัย เข้าทำทีขอดูทองรูปพรรณ และเมื่อพนักงานนำสร้อยคอทองคำรูปพรรณ 2 เส้นน้ำหนักรวม 4 บาทให้ดู คนร้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาแล้วเล็งเข้าใส่พนักงานที่กำลังตกใจและวิ่งหลบหนี ก่อนที่จะยิงเข้าใส่พนักงานแล้วชิงทองหลบหนีเหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

ความคืบหน้าวานนี้ 8 ธันวาคม 2563 เจ้าของและผู้บริหารร้านทองซีกวงกรุ๊ป ตัดสินใจปิดให้บริการร้านที่เกิดเหตุชั่วคราวเนื่องจากพนักงานร้านอยู่ในสภาพหวาดผวา โดยพนักงานสองคนที่อยู่ในร้านขณะเกิดเหตุ คือ น.ส.รัตติกาล และ น.ส.ระวิวรรณ ได้บาดเจ็บเล็กน้อย จากการล้มระหว่างวิ่งหนีกระสุนปืน โดย น.ส.ระวิวรรณ ได้มาทำงานอยู่ที่สาขาโรบินสันโอเชียน ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ชั่วคราว ส่วน น.ส.รัตติกาล ซึ่งได้รับบาดเจ็บและต้องเข้าโรงพยาบาล หลังจากที่ปัสสาวะเป็นเลือด เนื่องจากความเครียดและตระหนกสุดขีดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกันการเร่งสืบสวน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้ส่งกำลังชุดสืบสวนลงติดตามสืบสวนข้อมูลคนร้ายอย่างเร่งด่วนเนื่องจากคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ

โดยการขยายผลรูปพรรณลักษณะคนร้ายพบว่า มีหน้าตาดี ผิวค่อนข้างขาว สวมใส่นาฬิกาคาสิโอ จีช็อค และอาวุธปืนที่ใช้เป็นยี่ห้อชื่อดัง ชุบทองมีราคาแพง ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนอยู่ในสารบบ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ไม่ละเลยในการสืบสวนขยายผลลักษณะการใช้ผ้ากันเปื้อนและหมวกผ้ายี่ห้อไก่ย่างชื่อดัง ซึ่งพบว่าข้อมูลว่าผู้ที่ได้ของใช้เหล่านี้จะเป็นผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ มาเท่านั้น แต่ยังไม่มั่นใจว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้ประกอบการซื้อแฟรนไชส์รายใดรายหนึ่งหรือไม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวน ทั้งยังเร่งขยายผลไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้าย โดยมีกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ได้หลายตัว

 นางสาวณัฐกานต์ รัษฐปานะ เจ้าของและผู้บริหารร้านทองซีกวงกรุ๊ป เปิดเผยว่ามูลค่าทรัพย์สินที่สูญเสียไปนั้น เฉพาะทองคำ 4 บาท ประมาณ 110,000 บาท และกระจกบานประตู ตู้โชว์ทองรวมแล้วน่าจะอีกหลายหมื่นบาท โดยนางสาวรัฐกานต์ ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เนื่องจากเป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจ ใช้อาวุธปืนยิงใส่พนักงาน ซึ่งโชคดีที่กระสุนไม่โดน และอยู่ในระหว่างการพิจารณาลดเวลาทำงานลง เพื่อความปลอดภัย ลดจำนวนทองในตู้ และอาจต้องให้ลูกค้าถอดแมส ถอดหมวกก่อนเข้าร้าน เพื่อแสดงเจตนาว่าไม่ใช่คนร้าย โดยให้พนักงานเป็นฝ่ายสวมถุงมือ และสวมแมส ระมัดระวังเรื่องโควิด-19 ด้วยตัวเอง

ขณะที่นางสาวระวิวรรณ พนักงานร้านที่ถูกคนร้ายยิงไล่หลังไปนั้น เปิดเผยว่าผิดสังเกตตั้งแต่บอกให้ถอนหมวกและเปิดแมส และผิดสังเกตที่คนร้ายถือถุงผ้าที่ไม่มีอะไรมาในนั้นเลยและเมื่อหยิบอาวุธปืนออกมา จึงบอกให้เพื่อนอีกคนวิ่งแล้วหลบเข้าหลังร้าน ขณะที่คนร้ายยิงตามมากระสุนทะลุตู้ไปตกหลังร้าน นางสาวระวิวรรณ ยังบอกด้วยว่าจนถึงขณะนี้ยังผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับคนร้ายนั้นสวมผ้ากันเปื้อนยี่ห้อไก่ย่างแต่ไม่มีกลิ่นอาหารใดๆติดตัวมาเลย

สำหรับร้านทองซีกวงกรุ๊ป เคยถูกคนร้ายก่อเหตุบุกจี้ชิงทองคำ ที่สาขาหมู่บ้านเมืองทอง มาแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ได้ทองคำไปกว่า 100 บาท เมื่อ 5 ปีก่อนแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมได้ ครั้งนั้นมีประกันภัย แต่ครั้งนี้ร้านได้ลดค่าใช้จ่ายประกันเห็นว่าร้านที่เกิดเหตุเป็นร้านที่เล็กที่สุดในเครือเก็บทองคำไว้น้อยที่สุด ทั้งยังไม่ได้ประกันภัยไว้แต่มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดี แต่ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซึ่งลูกกรงสแตนเลสเป็นสิ่งกีดขวางทำให้คนร้ายไม่ได้ทองไปเป็นจำนวนมาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook