ที่สุดของวลีเด็ดแห่งปี 2020 ต้องยกให้ "การ์ดอย่าตก" กระตุ้นคนไทยสู้วิกฤตโควิด-19

ด้วยความที่ปีนี้เป็นปีที่โลกต้องเผชิญกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ดังนั้นวลีเด็ดแห่งปี หรือที่ภาษาอังกฤษใช้ว่า Quote of the Year นั้น ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องเลือกเอาคำที่เกี่ยวพันกับสถานการณ์ดังกล่าวมานำเสนอ

และวลีที่ว่านั้นก็คือ "ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก"

เดิมทีคำว่า การ์ดอย่าตก ใช้ในแวดวงหมัดมวย ที่พี่เลี้ยงข้างเวทีมักจะตะโกนบอกนักมวยในสังกัดให้ยกการ์ดของตัวเองขึ้นมาเพื่อปกป้องปลายคางจากการถูกคู่ชกปล่อยหมัดเข้าใส่จนเสี่ยงต่อการถูกน็อกคาสังเวียน

แต่ในปี 2020 คำๆ นี้กลับถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในบริบทที่เป็นการกระตุ้นให้คนไทยเฝ้าระวังตนเองและคนรอบข้างจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ก่อนที่จะกลายเป็นคำที่แทบจะทุกคนคุ้นชินจนติดหูติดตาติดปาก คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นเพราะถูกนำเสนอผ่าน นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้มีบทบาทเป็นโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.

หลังจากได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประจำวัน รวมไปถึงการถ่ายทอดนโยบาย มาตรการ คำแนะนำต่างๆ จากภาครัฐผ่านไปถึงพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ เราสามารถมองอย่างใจเป็นธรรมได้ว่า นพ.ทวีศิลป์ พยายามที่จะสื่อสารให้คนไทยตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดออกมา และในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้ผู้คนเกิดความตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

การที่คุณหมอเลือกหยิบคำที่แพร่หลายในโลกออนไลน์ระดับหนึ่งอย่างคำว่า "ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก" มาส่งต่อผ่านจอทีวีไปยังผู้ชมทางบ้านนับล้านคนที่ติดตามการแถลงอัปเดตข้อมูลข่าวสารประจำวันนั้น ส่งผลให้เกิดความรับรู้ในวงกว้างจนเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยของเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

อย่างไรก็ตาม ในรอบปีนี้คนไทยได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงสาธารณสุขอีกหลายคำทีเดียว เช่น การกักตัว (Quarantine) ที่มีความหมายว่าการจำกัดการเคลื่อนย้ายตัวเองออกนอกพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายออกไปยังบุคคลอื่น, การล็อกดาวน์ (Lockdown) หมายถึง การปิดสถานที่ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อไม่ให้เกิดการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก เป็นต้น

ในขณะที่อีกวลีที่อยากจะยกให้เป็นที่สุดแห่งปีเช่นกันก็คือ "สู้ไปด้วยกัน ประเทศไทยต้องชนะ!" ซึ่งเป็นคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ออกมาแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ซึ่งเปรียบเสมือนการรับหน้าที่แม่ทัพนำพาประเทศเข้าสู่สมรภูมิรบที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมแรงใจกันของทุกองคาพยพในการเอาชนะกับศัตรูอย่างไวรัสร้ายให้จงได้

นอกจากนั้น ในช่วง 4-5 เดือนหลังของปี มีการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองที่นำโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งความสนใจในบ้านเมือง แน่นอนว่ามีประโยคหรือวลีที่เกิดขึ้นในที่ชุมนุมมากมาย แต่เราขอเลือกวลีที่ว่า "สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส" ซึ่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นผู้ถ่ายทออดออกมา

แม้นายธนาธรจะไม่ใช่แกนนำผู้ชุมนุม แต่อีกด้านหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่พร้อมสนับสนุนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ออกมาส่งเสียงเรียกร้องอนาคตที่ฝันอยากจะเป็น

และวลีที่ว่านั้นเป็นหนึ่งในคำพูดที่ทายาทเครือไทยซัมมิทใช้เพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มนักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่สิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าจะดีขึ้น

และทั้งหมดคือ สุดยอดวลีเด็ดแห่งปี 2020 ที่ Sanook เลือกมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านครับ