เตือนภาคใต้ระวังพายุลูกใหม่"ป้าหม่า"

เตือนภาคใต้ระวังพายุลูกใหม่"ป้าหม่า"

เตือนภาคใต้ระวังพายุลูกใหม่"ป้าหม่า"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แผ่นดินไหวซ้ำที่สุมาตราอีก 7.0 ริกเตอร์ คาดเหยื่อสูงกว่าพันศพ เตือนภาคใต้ระวังพายุใหม่ "ป้าหม่า"

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงได้ปกคลุมบริเวณ จ.นครราชสีมา แล้ว คาดว่าจะเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ตามแนวร่องความกดอากาศต่ำเข้าสู่ภาคกลางในระยะต่อไป

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่

จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มบริเวณ จ.กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ระนอง และพังงา ระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะ 1-2 วันนี้

สำหรับทะเลอันดามัน และอ่าวไทยยังมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้


ระวังพายุลูกใหม่ "ป้าหม่า"

นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สสนก. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวว่า จากการสำรวจปริมาณน้ำล่าสุดภายหลังที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุกิสนา พบว่า ภาคอีสานที่ จ.อุบลราชธานี มีปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ 100 มิลลิเมตร ซึ่งยังไม่วิกฤติมากหนัก แม้จะมีน้ำท่วม เนื่องจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ 200 มิลลิเมตร

ภาคเหนือ ที่เขื่อนภูมิพล พบปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 56 จากปกติมีเพียงร้อยละ 50 ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอสำหรับการใช้น้ำในยามแล้ง แต่จากพายุฝนดังกล่าวทำให้น้ำมากขึ้น นับเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม ภาพรวมปีนี้จะมีน้ำมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,400-1,500 มิลลิเมตร ซึ่งไล่เลี่ยจากปี 2551 ที่ปริมาณ 1,520 มิลลิเมตร แต่ไม่ถึงกับก่อให้เกิดน้ำท่วมหนักเหมือนปี 2549

"นอกจากพายุกิสนาแล้ว อยากให้จับตามองพายุอื่นๆ ที่กำลังก่อตัวในฟิลิปปินส์ คือ พายุป้าหม่า(Parma) และพายุอื่นๆ อีกประมาณ 2 ลูก เพราะจากทิศทางพายุเหล่านี้จะพัดผ่านขึ้นไปยังตอนใต้ของจีน ซึ่งหมายความว่าจะส่งผลต่อภาคอีสานและภาคเหนือของไทย แต่จากข้อมูลพบว่าไม่รุนแรงเท่าพายุกิสนา สิ่งที่ต้องกังวลนอกจากพายุเหล่านี้ ต้องระวังพายุฝนจากมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งจะพัดเข้าทางภาคใต้ของไทย บริเวณ สตูล ภูเก็ต พังงา ระนอง โดยจะพัดเข้ามาตั้งแต่คืนวันที่ 1 ตุลาคม ไปอีกประมาณ 2-3 วัน ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะรุนแรงหรือไม่" นายรอยล กล่าว

แผ่นดินไหวซ้ำที่สุมาตราอีก 7.0 ริกเตอร์

 เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.0 ริกเตอร์ ขึ้นนอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ตุลาคม ภายหลังจากเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ 7.6 ริกเตอร์ ไปเมื่อวันพุธ ซึ่งคาดว่ามีผู้เสียชีวิตหลายพันคน เพราะสำนักการบริหารจัดการหายนภัยแห่งชาติอิเหนาได้ประกาศบนเว็บไซต์ว่ายังมีคนอีกหลายพันคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

 แผ่นดินไหวระลอกใหม่ ซึ่งแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ไกลถึงสิงคโปร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.52 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่ระดับความลึก 10 เมตร บริเวณนอกชายฝั่งห่างจากเมืองปาดัง ซึ่งได้รับความเสียหายหนักจากแผ่นดินไหวลูกแรก ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 225 กิโลเมตร

 นายซูฮาร์โยโน ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของกรมอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซีย กล่าวว่า มีเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมากในพื้นที่เกิดแผ่นดินไหว แต่ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย และว่าแผ่นดินไหวลูกล่าสุดนี้อาจเป็นอาฟเตอร์ช็อกของเมื่อวันก่อน เพราะแรงกดดันจากการที่แผ่นโลก 2 แผ่นชนกันอาจทำให้ส่วนหลังแตกออก และทำให้เกิดแผ่นดินไหวลูกนี้ตามมา

 ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นประกาศว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่แผ่นดินไหวลูกใหม่นี้จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่ร้ายแรงในมหาสมุทรอินเดียตามมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook