เซ่น 2 ศพ สาววูบหลับในซิ่งเก๋งยาริสชนกลางกรุง รถเสียหาย 6 คัน เจ็บอีก 2
ตำรวจ สน.ทองหล่อ แจ้ง 3 ข้อหา หญิงหลับในขับรถเก๋งยาริสพุ่งชนรถ 6 คัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
จากกรณีอุบัติเหตุ เมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) เวลา 18.00 น. บริเวณหน้าสวนเบญจกิติ ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย นางสาวปาริฉัตร อายุ 32 ปี ขับรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีแดง หมายเลขทะเบียน 6632 กทม. มาด้วยความเร็วสูง ก่อนพุ่งเข้าชนท้ายรถจักรยานยนต์ ที่มี นายสาคร เป็นคนขับ จากนั้นแรงชนกระเด็นไปถูก นายธีรพงษ์ อายุ 29 ปี พนักงานเดลิเวอรี่แอปฯ ดัง ที่นั่งคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่ริมทางเท้า จนทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิตทันที ก่อนที่ไปชนรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน และรถยนต์อีก 2 คัน คือรถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร่ สีเทา และรถเก๋งนิสสันเทียน่า สีขาว อีกคัน เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ระบุว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำหญิงสาวรายดังกล่าวแล้ว โดยยอมรับว่าเกิดอาการเพลียเนื่องจากปวดประจำเดือน ทำให้วูบหลับในจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยผู้ก่อเหตุระบุว่ายินดีรับผิดชอบค่าเสียหายให้ทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบสารเสพติด และแอลกอฮอล์ ในร่างกาย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และในวันนี้ (11 ธ.ค.) ได้นัดผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมจะส่งตัวไปให้แพทย์เจาะเลือดตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสารเสพติดอื่นๆ ว่ามีหรือไม่ ส่วนรถคันเกิดเหตุนั้นมีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 วงเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมค่าเสียหายทั้งหมด
ขณะที่ นางสาวจิตตราภรณ์ แฟนของ 1 ในผู้บาดเจ็บ ที่ถูกหญิงสาวขับรถพุ่งชน ขณะจอดจักรยานยนต์รอรับงานเดลิเวอรี่ ด้านหน้าสวนเบญจกิติ ถนนรัชดาภิเษก เดินทางมารับเอกสารเกี่ยวกับประกัน ที่ สน.ทองหล่อ ระบุ แฟนหนุ่มบาดเจ็บที่บริเวณแผ่นหลัง ยังคงนอนรอดูอาการที่โรงพยาบาล พร้อมเรียกร้องคนขับให้แสดงตัวและแสดงความรับผิดชอบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากตั้งแต่เกิดเหตุก็ยังไม่ได้รับการติดต่อ
ซึ่งตนเองก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะจากที่แฟนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังน่าเชื่อว่าเกิดจากความประมาทของคนขับเอง โดยตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย ซึ่งใช้ขับแกร๊บฟู๊ดในการทำมาหากินเป็นอาชีพหลัก เมื่อรถเสียหายจึงทำให้ขาดรายได้
