"เจ๊ปากแดง" เจ้าแม่เงินกู้โหด มอบตัว ปฏิเสธไม่ได้กระทืบลูกหนี้ ทำอาชีพค้าขายอย่างเดียว

"เจ๊ปากแดง" เจ้าแม่เงินกู้โหด มอบตัว ปฏิเสธไม่ได้กระทืบลูกหนี้ ทำอาชีพค้าขายอย่างเดียว

"เจ๊ปากแดง" เจ้าแม่เงินกู้โหด มอบตัว ปฏิเสธไม่ได้กระทืบลูกหนี้ ทำอาชีพค้าขายอย่างเดียว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2563 ที่ สภ.บ้านแพง จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณี คดีเจ้าแม่เงินกู้ดอกเบี้ยโหดทำร้ายร่างกาย นายสกุล ศรีรักษา อายุ 49 ปี ส.อบต.บ้านคำนกกก ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายหลังมาแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับกลุ่มเจ้าแม่เงินกู้ที่ชาวบ้านรู้จักในชื่อ เจ๊ปากแดง ตั้งแต่คืนวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ตำรวจจึงได้มีการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย

ล่าสุดทางด้าน นายสุวพรรดิ์ อายุ 46 ปี พร้อมภรรยาคือ นางสาวมาลี อายุ 40 ปี และลูกน้องคือ นายอารยะ อายุ 32 ปี ผู้ถูกกล่าวหา ได้เข้ามาติดต่อขอมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นฐานความผิด รวม 4 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 2.ร่วมกันทวงหนี้โดยการข่มขู่การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น 3.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ และ 4.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วน

เบื้องต้นทั้ง 2 สามีภรรยา ให้การปฏิเสธ ทุกข้อกล่าวหา อ้างว่า มีการให้ยืมเงินจริงในวงพนัน จำนวน 20,000 บาท แต่ไม่ได้ทำธุรกิจปล่อยกู้ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกทำร้าย เกิดจากการทะเลาะวิวาทกันกับลูกน้องในวงพนัน คือ นายอารยะ อายุ 32 ปี และสารภาพว่า ลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหายคนเจ็บเพียงคนในงานศพ ที่ไปเล่นพนันไฮโล อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จะต้องมีการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียดประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถาม นางสาวมาลี อายุ 40 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเจ๊ปากแดง เปิดเผยว่า ตนขอให้การฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ได้ทำธุรกิจปล่อยกู้ตามที่เป็นข่าว และตาม ที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ส่วนตนมีเพียงอาชีพค้าขาย และไม่ขอให้ข้อมูลรายละเอียด ขอต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย

ด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.สภ.บ้านแพง เปิดเผยว่า ตำรวจจะได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีตามขั้นตอน พร้อมแจ้งข้อหาหลัก รวม 4 ข้อหา พร้อมได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และจะได้คุมตัวไปเสนอขอฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนมภายในวันนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook