ทอนผิดจนได้! พ่อค้าฉะเชิงเทราลืมดูแบงก์ร้อยใหม่ นึกว่าเป็นแบงก์พันขณะลูกค้าแน่นร้าน
![ทอนผิดจนได้! พ่อค้าฉะเชิงเทราลืมดูแบงก์ร้อยใหม่ นึกว่าเป็นแบงก์พันขณะลูกค้าแน่นร้าน](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1663/8315798/100-banknote-confused.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
นายพิสิฐ แก้วคง อายุ 47 ปี สามีของผู้ค้าโจ๊กหมูทรงเครื่องใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เผยวันนี้ (14 ธ.ค.) ว่าเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. เศษ วานนี้ (13 ธ.ค.) มีลูกค้านำแบงก์ร้อยรุ่นใหม่ ที่มีสีออกเทาๆ คล้ายกันกับธนบัตร 1,000 บาท มาใช้จ่ายซื้อโจ๊กจากร้านค้าของตน ทำให้ตนเองนั้นทอนเงินผิดให้แก่ทางลูกค้าไป ก่อนที่จะมารู้ตัวในภายหลังในช่วงสายเวลาประมาณ 08.30 น. หลังจากภรรยากำลังจะนำเงินจากเอี๊ยมออกมาซื้อของกินด้วยความหิว
สามีของผู้ค้าโจ๊กหมูรายนี้ เล่าต่อไปว่า ก่อนปิดร้านภรรยาของตนพบว่าเงินที่ทำการค้าขายไปในวันนั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นมาเลย และมีแบงก์ 100 บาท ที่มีลายพิมพ์รูปร่างแปลกใหม่ และมีสีออกเทาคล้ายกันกับแบงก์พันปนอยู่ในเงินจำนวนนี้ด้วย
นายพิสิฐ เล่าต่อไปว่า หลังจากนั้น จึงจำขึ้นมาได้ว่า ทอนเงินให้แก่ลูกค้าที่มาซื้อโจ๊กจำนวน 2 ถุง ในราคาถุงละ 35 บาท รวม 70 บาท ไปถึง 930 บาท แทนที่จะต้องทอนเงินคืนเพียง 30 บาทเท่านั้น จึงทำให้ภรรยาของตนขาดทุนอย่างหนัก และเป็นการทำงานฟรีไปหนึ่งวัน
ปกติแล้ว ภรรยาของนายพิสิฐจะเปิดร้านในช่วงเช้ามืดระหว่าง 05.00- 09.00 น. ในทุกๆ วันและจะมีรายได้เป็นกำไรเพียงแค่ 800-1,000 บาทในวันทำงานปกติ และจะมีกำไรสูงขึ้นเฉพาะในช่วงเช้าของวันหยุด ที่จะมีลูกค้าเข้ามาซื้อมากกว่าปกติ ประมาณกว่า 1,000 บาทเท่านั้น เหตุการณ์นี้จึงทำให้คนค้าขายรู้สึกท้อไปบ้าง
เปลี่ยนใจไม่เอาผิดหลังไร้หลักฐานชัดเจน
ต่อมา นายพิสิฐจึงโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อติดตามหาตัวลูกค้าที่นำแบงก์ร้อยรุ่นใหม่ ที่ดูแล้วน่าสับสนมาใช้ และยังได้รับเงินทอนเกินกลับไปด้วยอย่างหน้าตาเฉย โดยไม่ได้มีการทักท้วงหรือนำเงินมาคืนให้ พร้อมกับขู่ว่าจะเปิดกล้องวงจรปิดภายในบริเวณตลาดดู เพื่อติดตามหาตัวในช่วงแรก แต่หลังจากไปไล่ดูภาพในกล้องแล้ว ไม่สามารถเห็นเงินในขณะที่ลูกค้าแต่ละรายจ่ายค่าสินค้าให้ได้อย่างชัดเจน จึงเปลี่ยนใจ และทำใจว่าส่วนหนึ่งนั้นก็เป็นเพราะความผิดพลาดของตนเองด้วยที่ไม่ตรวจสอบ หรือดูให้ดีก่อนที่จะทอนเงินให้แก่ลูกค้าไป
นายพิสิฐ เผยว่าตนมีอาชีพหลักเป็นพนักงานขับรถให้แก่ทางธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาที่ตั้งอยู่ด้านฝั่งตรงข้ามของตลาด ริมถนนบางนา-ตราด ด้านฝั่งขาออกนี้เอง และจะมาช่วยภรรยาขายโจ๊กแค่เฉพาะในช่วงของวันหยุด ที่จะมีลูกค้ามารุมล้อมร้านเพื่อรอซื้อโจ๊กกันเป็นจำนวนมากเท่านั้น ส่วนวันธรรมดาอย่างเช่นเช้าวันนี้ จะมาช่วยเพียงแค่ตั้งร้านเท่านั้น
ไม่เห็นด้วยเปลี่ยนสีแบงก์ 100
สามีแม่ค้าโจ๊กหมูรายนี้ ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตนเองส่วนหนึ่งด้วย ที่ไม่ยอมตรวจสอบดูให้ดีถี่ถ้วนก่อน และไม่ได้ติดตามข่าวสารที่มีการออกข่าวเพื่อแจ้งเตือนกันมาก่อนล่วงหน้าแล้ว 1 วัน ถึงความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้นได้เกี่ยวกับสีและความคล้ายคลึงกันของแบงก์ร้อยรุ่นใหม่ กับแบงก์ 1,000 บาท
นายพิสิฐ ในฐานะผู้ค้า เห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนสีของแบงก์ให้ออกมามีสีที่คล้ายคลึงกันขนาดนี้ ทั้งที่แบงก์ร้อยรุ่นเก่า ที่ใช้กันมานานในหลายยุคสมัยนั้น ก็ดีและมีความแตกต่างกันอยู่แล้วว่าสีแดงนั้นคือแบงก์ร้อย เนื่องจากคนค้าขายที่กำลังมีลูกค้าเข้ามารุมล้อมร้านและกำลังวุ่นอยู่นั้น อาจจะไม่มีเวลาที่จะตรวจสอบอย่างละเอียดเช่นเดียวกันกับตน จนทำให้ตนนั้นทอนเงินผิด และเมื่อเช้าวานนี้ยังเป็นวันอาทิตย์และเป็นวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน จึงมีลูกค้าเข้ามารุมซื้อจำนวนมากในช่วงเวลา 07.00 น. จึงทำให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น
ผู้ค้ารายนี้ ระบุว่า ส่วนลูกค้าที่นำแบงก์ร้อยรุ่นใหม่ออกมาใช้เป็นวันแรก และถือเป็นครั้งแรกในพื้นที่นั้น น่าจะเป็นหญิงสาววัยประมาณ 30 ปีเศษ แต่เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น อาจจะไม่ชัดเจนนัก ขณะที่ร้านค้าต่างๆ ส่วนใหญ่ที่ทำการค้าขายอยู่ในบริเวณเดียวกันนี้ ล้วนต่างก็ยังไม่เคยเห็นแบงก์ร้อยรุ่นใหม่ ที่เพิ่งถูกนำออกมาใช้เช่นเดียวกันกับตน
นำเลขแบงก์ไปเสี่ยงโชค
นายพิสิฐ ทิ้งท้ายว่าในครั้งนี้จึงถือว่าฟาดเคราะห์ไป จึงได้นำตัวเลขท้ายบนแบงก์หรือธนบัตรฉบับใหม่ดังกล่าว คือเลข 9ธ6735608 มาชื้อลอตเตอรี่เอาไว้แล้ว จำนวน 3 ใบ เพื่อหวังที่จะได้โชคลาภจากคราวเคราะห์ ที่ต้องมาเสียทรัพย์สินจากเงินที่ทอนผิดเกินไปให้กลับลูกค้าได้กลับคืนมาเป็นโชคที่ใหญ่กว่า