จับแล้วคนร้ายแทงสาวแกร็บฟู้ด กลางเมืองอุดรฯ อ้างระบายอารมณ์สั่งของออนไลน์แล้วไม่ได้รับ

จับแล้ว หนุ่มคลั่งแทงสาวพนักงานส่งอาหาร อ้างสั่งของออนไลน์แล้วไม่ได้รับนึกว่าแกร็บฟู้ดเป็นบริษัทส่งพัสดุ

จากกรณีได้มีคนร้าย ใช้อาวุธมีดดักแทงแขนสาวเดลิเวอรี่ขณะขี่รถจักรยานยนต์นำอาหารไปส่งให้กับลูกค้า บริเวณซอยกิจขยันทะลุ สี่แยกไฟแดงศรีเทพ ถนนอุดรดุษฎี  เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังส่งอาหารเสร็จ จึงรู้ว่าตนเองถูกแทงที่ต้นแขนขวา ได้รับบาดเจ็บเย็บ 2 เข็ม ตำรวจได้ออกติดตามไล่ล่า แต่ก็ไร้วี่แวว เหตุเกิดเวลา 21.00 น วันที่ 12 ธันวาคม 2563 

ซึ่งข่าวโซเชียลได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวเมืองอุดรธานี ต่างตื่นตระหนกและหวาดกลัวว่า จะเป็นการเลียนแบบไอ้คลั่ง ก่อเหตุแทงผู้หญิงและเด็ก เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 6 คน แต่ตำรวจเชื่อว่าเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ หรืออย่างอื่น เพราะไทม์ไลน์ผู้บาดเจ็บขับเข้ามาในทางลัดซึ่งเป็นซอย ไม่ใช่ทางหลัก  จึงไม่ใช่พฤติกรรมเลียนแบบ และได้ออกสืบสวนหาตัวคนร้าย โดยเก็บภาพวงจรปิดภายในซอยที่เกิดเหตุ และตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีแล้ว

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เวลา 13.30 น. ที่ห้อง ศปก.สภ.เมืองอุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี พ.ต.อ.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป. สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ และ พ.ต.ท.วทัญญู ขาวไชยมหา สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับ นายตรีภพ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาใช้มีดดักแทงต้นแขนขวา น.ส.สายฝน อายุ 37 ปี พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ ได้รับบาดเจ็บภายในซอยกิจขยัน ถนนอุดรดุษฎี

และใช้ไม้ดักตี นายจักรนารายณ์  อายุ 24 ปี  และนายอภิรักษ์ อายุ 23 ปี  ได้รับบาดเจ็บ ที่หน้าสวนน้ำยูโซเทล ซอยโนนพิบูลย์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี คืนวันที่ 12 ธันวาคม 2563 โดยตำรวจจับกุมได้ที่ถนนสี่ศรัทธา เขตเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกูปปี้ไอ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ยาบ้า 105 เม็ด ,ท่อนไม้ยาว 50 ซม. และ ใบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 10 ซม.

พ.ต.อ. อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พ.ต.ท.อรรพล ยี่เกาะ พ.ต.อ.วทัญญู ขาวไชยมหา สารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้นำกำลังออกสืบสวนหาคนร้าย โดยตรวจสอบจากภาพวงจรปิดภายในซอยที่เกิดเหตุ และร้านค้าตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นรายเดียวกัน เพราะตำหนิรูปพรรณ ยานพาหนะ ระยะเวลาที่ก่อเหตุไล่เลี่ยกัน จนทราบว่าคนร้ายคือนายตรีภพ ตำรวจจึงไปควบคุมตัวขณะขี่รถจักรยานยนต์มาหาเพื่อนที่ ถนนสี่ศรัทธา เขตเทศบาลนครอุดรธานี มาสอบสวนที่โรงพัก

ซึ่งนายตรีภพ ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดักแทงสาวแกร็บฟู้ด และใช้ไม้หน้าสามตีชาวบ้านจริง ส่วนสาเหตุอ้างว่าแค้นที่สั่งสินค้าทางออนไลน์จากบริษัทส่งของแห่งหนึ่งไม่ได้ ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว รวมถึงเครียดจากตกงาน และทะเลาะกับแฟน จึงเสพยาบ้าก่อนไปดักแทงพนักงานเดลิเวอรี่ จึงตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วง

ตำรวจจึงควบคุมตัวไปที่บ้าน เพื่อตรวจยึดของกลาง  มีเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ไม้หน้าสาม และยังพบยาบ้า 105 เม็ด ในกระเป๋า ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เคยทำงานส่งน้ำแข็ง และเป็นพนักงานร้านทำป้ายไวนิล ร้านแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี  แต่ได้ลาออกจากงานช่วงกลางเดือนตุลาคม หลังตกงานได้นอนอยู่ที่บ้านจึงซื้อยาบ้ามาเสพ ก่อนเกิดเหตุ ช่วงกลางวันได้ขี่รถจักรยานยนต์แฟนสาว แต่มีปากเสียงทะเลาะกัน แฟนสาวได้ไล่ตน จึงขี่รถกลับมาบ้านเล่าให้แม่ฟัง ตกค่ำได้พกมีดปลายแหลมขี่รถเข้ามาจอดภายในซอยกิจขยัน พบพนักงานเดลิเวอรี่ผ่านมา จึงถือมีดปรี่เข้าแทงระบายแค้น เพราะนึกว่าเป็นพนักงานบริษัทส่งสินค้าออนไลน์ หลังก่อเหตุได้ขี่รถหนีกลับไปบ้านในซอยโนนพิบูลย์ แล้วก่อเหตุใช้ท่อนไม้ตีชาวบ้านที่ขี่รถผ่านไปมา ระบายแค้นที่ตกงานและสั่งสินค้าไม่ได้ ก่อนจะเข้าบ้านนอน แต่ไม่ได้ก่อเหตุเลียนแบบไอ้คลั่งไล่แทงชาวบ้าน แต่อย่างใด

พ.ต.ท.อรรพล ยี่เกาะ สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี กล่าวว่า อยากแจ้งไปทางประชาชน ที่มีการแชร์ข่าวในระบบออนไลน์ อยากให้ใช้ดุลยพินิจในการเผยแพร่ ถ้าสิ่งใดเป็นแค่ประโยคบอกเล่า ได้รับฟังมา มีเหตุเกิดขึ้น อยากให้วิจารณญาณในการแชร์ เพราะจะเข้าค่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) ที่ลงข้อความอันเป็นเท็จทำให้ให้ประชาชนตื่นตกใจ ให้ใช้ดุลยพินิจไตร่ตรองในการลงข้อมูลในโลกโซเชียล

ส่วนยาบ้า 105 เม็ดที่พบ ผู้ต้องหาอ้างว่าซื้อมาเสพไม่ได้ซื้อมาขาย แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จะได้ขยายผลว่าซื้อมาจากไหน ขายให้ใครบ้าง โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่น พกอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณโดยไม่มีเหตุอันควร เสพและมีเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป