ฆ่าโหดทุบหัวเมียซี 8 รฟท.ยัดท้ายรถเก๋ง
ฆ่าโหดเมียสารวัตรเครื่องจักรกล รฟท.ลำปาง ซี8 คนร้ายฆ่ารัดคอและทุบหัว ก่อนนำศพยัดไว้ท้ายรถเก๋งอำพรางคดี สามีและลูกพยายามโทรศัพท์หาแต่ไม่คนรับสาย ก่อนพบถูกฆ่าขึ้นอืดท้ายรถ ตำรวจมุ่งประเด็น ฆ่าชิงทรัพย์และแค้นเรื่องส่วนตัว คาดเป็นฝืมือคนงานชาวลาว เพราะหายตัวลึกลับ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 2 ต.ค. 2552 พนักงานวิทยุสภ.ห้างฉัตรลำปาง รับแจ้งว่า มีคนถูกฆ่ายัดท้ายรถเก๋ง ภายในบ้านสวนไม่มีเลขที่ เขตบ้านดอน ม.10 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง หลังรับแจ้งจึงรายงาน ให้ผู้บังคับบังคัญชาทราบตามลำดับชั้น นำโดยพ.ต.อ.เจตนา คุ้มวงศ์ ผกก.สภ.ห้างฉัตร พ.ต.ท. วีระยุทธ มานพ รองผกก.สส.ฯ พ.ต.ท. จำนง ศรีคำวัง พนักงานจสอบสวนเวรฯ พ.ต.ท. สืบสกุล ขุนเพิ่ม สว.สสฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการเขต 31 ลำปาง ชุดสืบสวนสภ.ห้างฉัตร แพทย์เวรฯโรงพยาบาล อำเภอห้างฉัตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยตำบลเวียงตาล เดินทางไปชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ
จุดเกิดเหตุเข้าทางลูกรัง ด้านหลังที่ว่าการอำเภอห้างฉัตร เข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง ซึ่งเป็นบ้านสวน พบว่าศพผู้หญิง ถูกฆ่ายัดไว้ท้ายรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรน่า สีดำ ทะเบียน ก-7059 ลำปาง ซึ่งจอดอยู่ในโรงรถข้างบ้านในสวน โดยฝาท้ายถูกเปิดทิ้งไว้ ในชุดเสื้อยืดสีดำ และมีเสื้อสีลาย ชมพู-ขาว สวมทับด้านนอก กางเกง สีเทา ส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วบริเวณ โดยมีรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 626 สีน้ำเงิน ทะเบียน วต 3763 กทม. จอดขวาง ทราบภายหลังเป็นรถของนาย ธัญญา มีทอง ซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย และเป็นสารวัตรฝ่ายเครื่องกล การรถไฟแห่งประเทศไทยรถไฟลำปาง ระดับ 8
จากนั้นเจ้าหน้าที่จังนำศพออกมาชันสูตรพลิกศพ พบว่าศพเริ่มขึ้นอืด ปากเจ่อ จำเค้าโคลงหน้าเดิมไม่ได้ เบื้องต้น ทราบว่าผู้ตาย ชื่อ นางประกาย มีทอง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ถนนนาก่วมเหนือ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ชันสูตรเบื้องต้น พบว่าผู้ตายถูกตีด้วยของแข็ง เข้าที่ใบหน้า นอกจากนี้ยังพบผ้าสีขาวติดมัดอยู่ที่ลำคอ คาดว่าถูกทุบที่ใบหน้าและฆ่ารัดคอ จากตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยรื้อค้น ส่วนทรัพย์ สินของมีค่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ ก่อนจะนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปางอีกครั้ง
จากการสอบสวนนายธัญญา สามีของนางประกาย ก่อนที่จะมาพบศพนางประกาย ภรรยา ถูกฆ่ายัดท้ายรถเก๋ง ตนเพิ่งกลับจากประชุมที่กรุงเทพฯ และตลอดเวลาที่ไปประชุม เมื่อวันพุธที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา พยายามโทรศัพท์เข้ามือถือ ภรรยา แต่มงปรากฏว่าไม่มีใครรับสาย จึงสงสัยว่าทำไมไม่มีใครรับสาย ต่อมาได้โทรศัพท์มหาลูกสาว ที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ให้โทรหานางประกาย ปรากฏว่า ก็ไม่มีใครรับสายอีก ซึ่งตนคิดว่าคงไม่มีอะไร เกิดขึ้น
พอมาถึงลำปาง ในวันที่ 2 ต.ค.2552 จึงรีบขับรถเข้ามาที่สวน ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสวนของตนที่ซื้อไว้ทันที พอมาถึงในสวน ก็พบรถเก๋งของภรรยา จอดอยู่ตามปกติ จึงตะโกนเรียกและเดินตามหารอบๆบ้าน พอเดินมาใกล้กับรถ ตนก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าออกจากท้ายรถ จากนั้นตนจึงหากุญแจมาเปิดที่ท้ายรถ พอเปิดประตู ตนถึงกับผงะ และตกใจทำอะไรไม่ถูก เมื่อพบนางประกายภรรยา ถูกฆ่าอยู่ในท้ายรถ ก่อนจะรับโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเดินทางมาตรวจสอบดังกล่าว
จากการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่าปกติ นายธัญญา กับนางประกาย มักจะพากันมานอนที่สวนเป็นประจำ แต่เนื่องจากสองวันที่ผ่านมา นายธัญญา ต้องเดินทางไปประชุมที่กรุงเทพฯ นางประกายจึงขับรถเก๋งคันดังกล่าว มาที่สวนเพียงคนเดียว โดยมีคนงานชาวลาว ซึ่งนางประกายจ้างไว้ทำงานในสวน และเป็นผู้ต้องสงสัย ที่เป็นฆาตกรที่ฆ่านางประกาย อย่างโหดเหี้ยม โดยการใช้ของแข็งที่ใบหน้า และผ้ารัดคอ ก่อนจะนำศพนางประกายยัดไว้ท้ายรถเก๋งเพื่ออำพรางคดี และทราบว่าไม่อยู่ที่สวนและหายไปหลายวันแล้ว
นอกจากนี้ยังมีพยานเห็นคนงาน เมื่อวันพุธ ที่ผ่านมาด้วย มีรูปร่างอ้วยเตี้ย ผิวขาว และเห็นว่าจะไปขึ้นรถเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ จากการสันนิษฐาน เจ้าหน้าที่มุ่งประเด็น ฆ่าชิงทรัพย์และแค้นเรื่องส่วนตัว เนื่องจากนาง ประกาย เป็นคนปากร้าย และชอบพูดจาเสียงดัง คนร้ายอาจจะแค้นและอาจจะเป็นฉนวนในการสังหารโหดครั้งก็เป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ห้างฉัตร ได้แจ้งรูปร่างลักษณะรูปพรรณสันฐานของผู้ต้องสังสัย ซึ่งเป็นชาวลาว ให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.ต่างๆ ไว้แล้ว ส่วนความคืบหน้าคาดว่าด้านคดี คาดว่าหลังรวบรวมพยานหลักฐานน่าจะออกหมายจับผู้ต้องสังสัยมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
