ผลชันสูตรชี้ ไมเคิล ไม่ป่วยหนักอย่างที่คิด

ผลชันสูตรชี้ ไมเคิล ไม่ป่วยหนักอย่างที่คิด

ผลชันสูตรชี้ ไมเคิล ไม่ป่วยหนักอย่างที่คิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลชันสูตรศพพบราชาเพลงป๊อปมีสุขภาพค่อนข้างดี ตรงข้ามกับรายงานของสื่อก่อนหน้านี้

สำนักข่าวเอพีนำรายงานการชันสูตรศพ ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป๊อปผู้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ออกเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.) พบว่า ขณะที่เสียชีวิต ราชาเพลงป๊อปมีสภาพร่างกายแข็งแรงดีกว่าที่คิด ไม่ใช่โครงกระดูกเดินได้ที่กำลังป่วยหนักอย่างที่หนังสือพิมพ์แทบลอยด์บางฉบับพากันตีข่าวไปก่อนหน้านี้

รายงานชันสูตรศพของเขตลอสแองเจลิสพบว่า ถึงแม้ว่าแขนของไมเคิลจะพรุนไปด้วยรอยเข็มฉีดยา ใบหน้ากับลำคอมีแผลเป็นซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการทำศัลยกรรมพลาสติก ตลอดจนมีรอยสักถาวรสีดำที่คิ้วและรอบดวงตา รอยสักสีชมพูที่ริมฝีปาก แต่ไมเคิลเป็นชายวัย 50 ปีที่มีสุขภาพค่อนข้างดี เขามีน้ำหนักตัว 61.7 กิโลกรัม ซึ่งถือว่ารับได้สำหรับผู้ที่มีความสูง 175 เซนติเมตร นอกจากนี้ หัวใจของไมเคิลยังแข็งแรง ไต และอวัยวะสำคัญส่วนใหญ่ก็เป็นเป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม ราชาเพลงป๊อปก็มีปัญหาสุขภาพหลายอย่างเช่นกัน อาทิ เป็นโรคข้อต่ออักเสบที่นิ้วบางนิ้ว และที่กระดูกสันหลังตอนล่าง กับเริ่มมีคราบแบคทีเรียอ่อนๆ ในเส้นเลือดแดงที่ขา แต่อาการป่วยรุนแรงที่สุดของไมเคิลอยู่ที่ปอดทั้งสองข้างที่มีอาการติดเชื้อเรื้อรัง ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงจนอาจทำให้ไมเคิลหายใจหอบถี่ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นที่จะเป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เสียชีวิตได้

นอกจากปัญหาที่ปอดแล้ว ผลชันสูตรไม่ได้ระบุว่าไมเคิลมีปัญหาสุขภาพอื่นที่อาจจำกัดขีดความสามารถในการแสดงของเขาได้ ทั้งยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพของราชาเพลงป๊อปเอาไว้หมดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า รวมทั้งระบุว่าไมเคิลกำลังจะมีอาการหัวล้านในบริเวณด้านหน้าของศีรษะ โดยผมที่เหลืออยู่สั้นและหยิกขอด บริเวณศีรษะที่ล้านมีรอยสักสีดำยาว เขามีอาการผิวหนังเปลี่ยนสีที่หน้าอก ท้อง แขน และใบหน้า รวมทั้งพบด้วยว่าร่างกายของไมเคิลมีความสามารถในการผลิตสเปิร์มเป็นปกติ

ส่วนประเด็นของการใช้ยานั้น พบยาที่มีฤทธิ์ทำให้สลบอย่าง โพรโพฟอล และยากดประสาทอีก 4 ชนิดในร่างกายไมเคิล แต่ไม่พบในกระเพาะอาหาร ทั้งยังไม่พบยาเสพติดผิดกฎหมาย หรือแอลกอฮอล์ด้วย แต่สามารถชี้ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิตของไมเคิลได้ว่าเป็นการฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเพราะพบว่า มีการใช้ยาโพรโพฟอล นอกสถานพยาบาล และยังดำเนินการโดยปราศจากการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสมอีกด้วย และมีเรื่องของความพยายามกู้ชีพ ที่มีร่องรอยฟกช้ำที่หน้าอก และกระดูกสันอก รวมถึงซี่โครงหักหลายซี่อีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook