"โย ทัศน์วรรณ" ขึ้นแท่นเน็ตไอดอลสูงวัย รวมเพื่อนแก๊งนางพญาทำคอนเทนต์ออนไลน์

"โย ทัศน์วรรณ" ขึ้นแท่นเน็ตไอดอลสูงวัย รวมเพื่อนแก๊งนางพญาทำคอนเทนต์ออนไลน์

"โย ทัศน์วรรณ" ขึ้นแท่นเน็ตไอดอลสูงวัย รวมเพื่อนแก๊งนางพญาทำคอนเทนต์ออนไลน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับว่าเป็นนักแสดงอาวุโสที่ฝีมือชั้นครู สำหรับ โย-ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา เพราะนอกจากจะเป็นนักแสดงเล่นภาพยนตร์ ละครอยู่เบื้องหน้าเป็นระยะเวลาหลาย 10 ปีแล้ว แถมยังเป็นแอคติ้งโค้ช ที่คอยสอนการแสดงให้กับดารา นักแสดงรุ่นลูกรุ่นหลานในวงการบันเทิงอีกมากมาย เรียกว่ามีลูกศิษย์ลูกหาไม่น้อยเลยทีเดียว ล่าสุดออกมาเยือน รายการต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย  CHANGE2561 แอบเขินถูกยกให้เป็นเน็ตไอดอลสูงวัย รวมเพื่อนนักแสดง แก๊งนางพญา บุกทำคอนเทนต์ออนไลน์ เผยยังคงรับงานละคร 7 วันเพราะเป็นคนที่ชอบทำงาน

ขึ้นแท่นเป็นเน็ตไอดอลอีกคนสำหรับ อาโย ทัศน์วรรณ

อาโย : "ลูกทำค่ะ ตอนแรกก็นำเสนอโน้น นี่ นั่น ไปกินของอร่อยไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไปช้อปปิ้งย่านที่เก่าแก่อย่างลูกสาวเขาพาเราไปที่สยามสแควร์เราก็จะเล่าย้อนให้เขาฟังว่าเมื่อก่อนเป็นยังไง แตกต่างจากสมัยนี้ยังไง ให้คนดูฟัง แล้วก็แตกยอดออกไปมีเพื่อนๆเข้ามาแจมอีกอย่าง คุณติ๋ว-อรสา คุณก้อย แล้วก็พี่จิ๋ม แล้วเราก็จะนัดกันแต่งตัวอย่างนี้อย่างนั้น"

มีชื่อ แก๊งค์ ไหม

อาโย : "แก๊งค์นางพญา ไปที่ไหนก็จะเสียงดัง เฮฮาปาร์ตี้มาก แม้กระทั่ง Live ขายเสื้อผ้ากันตอนแรกก็ขายเสื้อผ้ากองถ่าย กองของที่ลูกสาวทำไปๆ มาๆ คนโน้น คนนี้ ก็เอาเสื้อผ้ามาพอเราขายคนดูบอกว่าเราชอบมากเพราะไม่เคยเห็นลุคนี้ของแม่ๆ เลย โดนเฉพาะคุณดวงใจ เขาจะเป็นคนเรียบร้อยพอทุกคนเห็นก็จะบอกว่าไม่เคยเห็นลุคนี้ของคุณดวงใจเลย (แต่เขาเป็นคนเรียบร้อยจริงๆ นะคะ) แต่พออยู่กับเพื่อนๆ เพื่อนทำอะไรเขาก็ทำด้วยไปด้วยกับเพื่อน จนเราตั้งชื่อให้เขาว่ามิสอนามัย เพราะเขาเป็นคนสะอาดมากเพราะเขาจะมีกล่องอยู่หนึ่งกล่องที่ไปไหนต้องไปด้วยจะมีสำลีชุบเดทตอลคือ อย่างเมื่อก่อนมีโทรศัพท์ตู้สาธารณะเขาจะเช็คตั้งแต่ประตูไปถึงโทรศัพท์เช็คหมดทุกอย่าง อย่างถ้าเราไปหาเขาแล้วเขามายืนคุยกับเราไม่ถึง 5 นาที แล้วพอเรากลับเขาต้องไปอาบน้ำใหม่เลย"

อาโย : "ส่วนพี่ติ๋ว อรสา เป็นคนที่ขาสวยมาก หุ่นเขาจะคือหุ่นนางงาม เขาจะเป็นคนแต่งตัวดีเลือกเสื้อผ้าได้เก๋มากตั้งแต่สาวๆ แต่เขาเป็นคนที่คิดดังมากเพราะอย่างเราถ้าเราคิดจะคิดในใจใช่ไหม (อย่างปวดหัวจังเลยถ้าเป็นเราเราจะคิดในใจแต่กับคุณอรสา เขาจะพูดออกมาเลยว่าปวดหัวจังเลยต้องหายากินๆ) เพราะทุกอย่างที่เขาคิดเขาจะพูดออกมาหมด แล้วคือ คุณอรสา เคยโดนขโมยปีนเข้าบ้านด้วยแล้วคือ เขาก็ลงมาเจอแล้วถามขโมยว่ามาทำไม ขโมยมันก็บอกว่าหิว เขาก็เลยเอาน้ำให้ขโมยดื่มอีก แล้วยังแถมจะเปิดประตูให้ขโมยมันออกไปอีก แต่ขโมยบอกว่าไม่เป็นไรครับผมมาทางไหนก็จะไปทางนั้นมันก็ปีนต่างหน้าออกไป (หัวเราะ)"

อาโย : "ส่วนคุณก้อย นะคะ ตอนนี้เขาเป็นสายธรรมะธรรมโม เขาสนิทกับพระเยอะมาก มีเบอร์พระเยอะมาก คุณก้อย จัดอีเว้นท์งานบุญได้เลยนะคะ เก่งมากถ้าทำเกี่ยวกับวัดอะไรเหล่านี้"

อาโย : "พี่จิ๋ม จะเป็นพี่ใหญ่ของพวกเรา จะเป็นคนที่ช้ากว่าเพื่อน จะเรียบร้อยจะช้าๆเป็นผู้ใหญ่ แล้วพี่จิ๋ม เป็นคนที่ทำอาหารอร่อยมากชอบทำอาหารให้พวกเราทานกัน แต่จะเป็นคนที่เต้นแอโรบิก หรือ เล่นโยคะ เขาจะเป็นคนที่ค่อมจังหวะตลอดเวลา"

อาโย : "(แต่เราจะเป็นคนที่เสียงดังที่สุดในกลุ่ม) แล้วจะเป็นนักเลงถ้ามีหนุ่มๆเข้ามาจะจีบเพื่อนเราจะถามเพื่อนก่อนว่าชอบไหม ถ้าเพื่อนไม่ชอบเราจะเข้าไปขว้างเลย"

แต่ช่วงที่ผ่านมาต้องบอกว่าทุกคนยังงานเยอะ แต่ในช่วงโควิดละคร 7 วัน ยังมีเวลาไปทำอาหารขาย

อาโย : "คือแบบนี้ค่ะ ลูกสาวเป็นผู้จัดตอนช่วงโควิดเขาห้ามออกจากบ้าน ต้องยกกอง เราก็นึกถึงว่าพวกรายวันที่อยู่ในกองเขาจะเอาอะไรกินกัน พวกแม่ครัวกองถ่ายก็ไม่ได้ออกกองก็เลยคิดกับลูกสาวช่วยแม่ครัวกองถ่าย เพราะเขาทำน้ำพริกอร่อยมากเขาทำน้ำพริกกากหมู ปลาย่าง น้ำพริกเผา เข้าก็ทำมาให้แล้วเราก็ขายออนไลน์ปรากฏว่าขายดีมาถึงทุกวันนี้ จนแม่ครัวต้องจ้างคนมาช่วยทำเขาก็มีรายได้"

คือ มีเมนูที่แม่โย ทำอร่อยมากจนมีรถมารับของแล้วต้องไปส่งลูกค้าแล้วไม่ไปส่ง

อาโย : "ไข่พะโล้ค่ะ คือ เป็นสูตรของเราเองเราจะไม่ใส่เครื่องพะโล้ เราจะไม่ใส่ เราจะใส่แค่รากผักชี กระเทียม พริกไท ส่วนน้ำที่เป็นสีดำเราใส่ซีอิ้วค่ะ ตอนแรกเราที่เราเริ่มทำพอมีคนได้ชิมก็บอกว่าอร่อย ก็บอกว่าจะซื้อเราก็เลยทำขาย แล้วที่บอกว่าของส่งไม่ถึงลูกค้าเพราะมีลูกค้าสั่งซื้อทางออนไลน์มาแล้วก็มีมอเตอร์ไซค์มารับแล้วมอเตอร์ไซค์หายไปเลย แล้วลูกค้าที่สั่งเขาก็บอกเราว่ายังไม่ได้รับของ (เราก็เช็คไปตอนแรกเพราะคิดว่ามอเตอร์ไซค์เป้นอะไรหรือเปล่า) ปรากฏว่าไม่ได้เป็นอะไรแต่เขาหายไปเลยไม่ติดต่อกลับมาเลยแล้วไม่ได้มาทำงานอีกเลย"

ทุกวันนี้ อาโย ยังทำงาน 7 วันเป็นความตั้งใจไหม

อาโย : "เป็นคนชอบทำงานชอบถ่ายละครแต่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีถึง 7 วันมันเป็นแบบนั้นมาเอง"

ตลอด 50 ปีที่อยู่ในวงการบันเทิง

อาโย : "ไม่เคยงานขาดเลยค่ะ สูงสุดที่รับพร้อมกันทีเดียวคือ 9 เรื่องเราจัดคิวเองไม่เคยมีปัญหาเลยค่ะ ไม่มีผู้จัดการ ขับรถก็ขับเองเพราะเราเป็นคนที่แข็งแรงด้วยไม่ค่อยป่วย ไม่ค้อยเหน็ดเหนื่อย"

ปัจจุบันยังสอนนักแสดงอีกด้วย

อาโย : "ที่เราสอนจริงๆก็ไม่ได้ตั้งใจจะสอนนะ อันนี้ก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อเหมือนกันเพราะเราเคยเจอหมอดูขึ้นชื่อว่าดูแม่น แล้วเขาก็ทักเราว่าวันหนึ่งเราต้องไปสอนคนนะ เราก็ตกใจเพราะเราไม่ได้เป็นครูและไม่เคยคิดว่าอยากเป็นเลย แต่เขาบอกว่าเราพูดเก่งนะ (เราก็คิดว่าเพราะเราเป็นนักแสดงเราต้องพูดเก่งอยู่แล้ว) เขาก็บอกว่าไม่ใช่ครับสอนคน และหลังจากที่เขาทักเราก็ไม่นานมีผู้จัดทักเรามาว่า พี่โย พี่โย มาสอนน้องๆเด็กๆหน่อยได้ไหมคะ ก็ได้ไปสอนเด็กๆที่จะมาเล่นละคร หรือ นักแสดงที่เขาเข้าไม่ถึงบท เขาก็ให้เรามาสอนตอนแรกเราก็ยังไม่มั่นใจเพราะเราไม่เคยแล้วอยู่ๆก็มีที่ที่หนึ่งเขาเปิดสอนการแสดงใหญ่เขาก็มาเชิญไปสอน เพราะเราเป็นคนชอบเด็กไงคะ ก็มีมาให้สอนเรื่อยๆแล้วพอเวลาเรื่องไหนที่มีบทยากหรือนักแสดงไปไม่ถึงเขาก็จะมาเรียกเราไปเป็นโค้ชในกอง"

บทอะไรยากสุด

อาโย : "มันยากทุกบทนะคะ ถ้าคุณไม่เข้าใจ ต่อให้บทง่ายๆถ้าคุณไม่เข้าใจไม่ค้นคว้าไม่ทำความเข้าใจให้ดีคือ ยาก"

 และลูกศิษย์คนล่าสุดคือ น้องพลอยเจ ลูกของคุณเจจินตัย เขาบอกว่าแม่โยเป็นคนบอกว่าเอามาเรียน

อาโย : "เราก็บอกว่าเอาลูกสาวมาเรียนๆ เจเขาก็ถามเราว่าๆได้เหรอครับ เราก็บอกว่าลองเอามาดู น้องพลอยเจ เป็นเด็กเล็กที่สุดในห้องเรียนแต่นางมีจินตนาการมาก ถ้าให้เวลาอีกหน่อยต้องเป็นนักแสดงแน่นอน"

ความถึงเรื่องแฟนเรื่องความรักของ แม่โย มีบ้างไหม

อาโย : "ไม่มีเลยจะเป็นคนไม่ใส่ใจเรื่องนี้ ตั้งแต่สาวๆแล้วไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ คือ ถ้าสมมุติว่าคบเล่นๆแก้เหงาไม่เอาไม่ได้"

มีคนมาจีบเยอะไหม

อาโย : "ก็มีมานะคะ แต่ก็ไม่ได้เยอะเพราะเราเป็นคนไม่เปิดแล้วก็ไม่ได้สนใจ คือ ถ้าไม่ชอบแล้วมาเล่นๆสนุกๆไม่ได้ แล้วเราก็ไม่มีมาจนถึงตอนนี้ก็ไม่เป็นไร อยู่ได้แล้วสบายๆ เพราะมีน้องขวัญ ลูกสาวมาเติมเต็มเราทุกอย่างแล้วมีอะไรให้เราทำเยอะแยะไปหมดเลย ไหนจะอยู่กับเพื่อน เล่นละคร เราก็ไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่นแล้ว และที่ทำให้เรามีความสุขทุกวันนี้ คือเราไม่คิดลบเลยอะไรที่ทำแล้วเป็นสาเหตุของปัญหาเราจะตัดตั้งแต่ต้น เราก็จะได้ไม่เป็นทุกข์"

อาโย : "สิ่งที่อยากฝากท่านผู้ชมทุกท่านนะคะ ทุกข์ สุข มันอยู่ที่ใจเรามันอยู่ที่ความคิดของเรา อยู่ที่ใจของเราว่าเราจะไปคิดให้มันทุกข์ หรือ ให้มันสุข มันอยู่ที่ตัวคุณเองทั้งนั้น อย่าไปคิดลบ ให้คิดบวกเอาไว้ ปัญหาที่หาทางแก้ไม่ได้เราก็ทิ้งมันไปเลยไม่ต้องไปสนใจมัน เราเอาเวลาไปทำมาหากินอย่างอื่นดีกว่า"

สามารถรับชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ย้อนหลังได้ทางยูทูป 

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ "โย ทัศน์วรรณ" ขึ้นแท่นเน็ตไอดอลสูงวัย รวมเพื่อนแก๊งนางพญาทำคอนเทนต์ออนไลน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook