"เจนนิเฟอร์ คิ้ม" เคลียร์ข่าวลือ เตรียมลางานในวงการ เปิดใจมุมมองความรักในวัย 53 กะรัต
ทำเอาแฟนๆ แอบใจหายไปตามๆ กัน เมื่อมีข่าวลือออกมาหนาหูว่านักร้องเสียงทรงพลัง เจนนิเฟอร์ คิ้ม เตรียมลางานในวงการเพื่อเกษียณอายุการทำงานของตัวเองไปใช้ชีวิตบั่นปลายแบบเงียบๆ
ล่าสุด เจนนิเฟอร์ คิ้ม ได้ออกมาเคลียร์ข่าวทั้งหมดในงาน คอลลาเคนโกะ พลัส ซีเค โดยเผยว่าเป็นความคิดเมื่อ 3 ปีก่อนที่เจอปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่พอดูแลตัวเองดีขึ้นก็ยังยืนยันว่าทำงานต่อไปได้ปกติ พร้อมเปิดใจถึงมุมมองความรักในวัย 53 ปีให้ฟังอีกด้วย
มีข่าวว่าเราเตรียมจะลางานในวงการบันเทิง ?
"บางทีเวลาเราออกข้างนอกคนจะมองว่าเราดูดีเนอะ ดูมีความสุข สุขภาพแข็งแรง บางทีเราก็ไม่ได้แข็งแรงอย่างที่คิดเนอะ เราก็เป็นนู่นเป็นนี่ ไม่ใช่วิสัยของคนมีชื่อเสียงหรือคนในแวววงบันเทิงที่จะนำเสนอเรื่องราวที่ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ มันเป็นเรื่องของสังขารจริงๆ ใส่ส้นสูงเดินก็เจ็บขา เดินขึ้นบันไดก็เจ็บ คือข้อเข่ามันมีแนวโน้มว่ากำลังจะเสื่อม"
"คือนึกในใจว่า ตายแล้ว ฉันจะทำยังไงต่อดี ตั้งแต่ร้องเพลงมาตอนอายุ 21 จนถึงทุกวันนี้ 53 มันก็ 30 กว่าปีแล้ว หรือเราจะพักสัก 1-2 ปีดี หรือจะพักไปเลย 3 ปี ฉันก็ไหวนะ โอเค ไม่ต้องร้องเพลง ไม่ต้องรับงานอะไร อยู่บ้านเฉยๆ พักผ่อนและรักษาไป หรือจะผ่าเข่า หรือจะยังไง คิดนู่นคิดนี่ และคิดในใจว่าถ้าเป็นนักร้องก็ต้องเป็นนักร้องจนวันตายนั่นแหละ จนกว่าเราจะไม่อยากร้องเอง"
มันเป็นความคิดช่วงไหน ?
"เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตรงหัวเข่าถ้ายืนแล้วเห็นตรงข้างๆ ที่มันย่นๆ เข้าไป คือน้ำในเข่ามันหายไปแล้ว มันเริ่มฟีบ แสดงว่าที่ผ่านมาเราใช้น้ำในข้อเข่าเยอะเกินไป เพราะพี่ใส่ส้นสูงร้องเพลง พี่ร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 21 แล้วร้องเพลงใส่ส้นสูงวันละ 5-6 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ มันก็ไม่ได้เนอะ เราก็ไม่ได้คิดหรอกตอน 20 กว่า ตอน 30 กว่าก็ยังเฉย 40 กว่าก็ยังเฉย จนเมื่อ 3 ปีที่แล้วพี่ไปหาหมอแล้วต้องฉีดน้ำในเข่าเพิ่มบ่อยมาก แล้วมันก็เจ็บ หมอก็บอกอีกหน่อยไม่นานหรอก จะไปถึงขั้นผ่าเข่า เราก็ ห่ะ ไม่เห็นอยู่ในหัวฉันเลย คนแก่ๆ ที่เขายืนอยู่และขาโก่งๆ เคยเห็นไหม ฉันต้องไปถึงจุดนั้นจริงๆ เหรอ มันจริงถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง"
ที่ตอนนั้นตัดสินใจจะออกจากวงการ เพราะอิ่มตัวแล้วด้วยหรือเปล่า ?
"พี่ไม่เคยอิ่มตัวกับเรื่องของวงการนะ ถ้าสมมติหมดแพสชั่นอยากจะร้องเพลง ฉันก็ทำยูทูป ทำรายการ เราคิดว่าไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ ศักยภาพในตัวเราจะมีหลายๆ อย่าง เพียงแต่เราอย่าไปยึดมั่นว่าถ้าเป็นนักร้องต้องร้องเพลงอย่างเดียว"
อยากจะทำอะไรเพิ่มเติมอีกไหม ?
อยากจะมีผัวรวย ซึ่งขอทุกปี ถ้าผู้ชายอายุน้อยกว่าเราก็ต้องวิ่งเอาตังค์โปรย"
ทุกวันนี้ยังรอความหวังนั้นอยู่ไหม ?
"ไม่รอแล้ว พอแล้ว"
มีคิดไว้ไหมอยากจะเกษียณอายุการทำงานของตัวเองตอนไหน ?
"คำว่าเกษียณอายุมีไว้สำหรับคนที่ตั้งเป้าของตัวเองว่าทำงานพอแล้ว เหนื่อยแล้ว แต่เรารู้สึกว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ทำงานชิ้นหนึ่งสำเร็จ เราจะไม่ยึดติดกับงานชิ้นนั้นเพราะคิดว่าเสร็จไปแล้ว หาชิ้นใหม่มาทำอีก เมื่อมันสำเร็จนั่นคือรางวัลของเรา จริงๆ แล้วก็อยากจะมีชื่อเสียงตลอดเวลา ไม่อยากให้ใครลืม แต่มันเป็นแบบนั้นไม่ได้"
ตอนช่วงงานน้อยๆ มีแอบท้อบ้างไหม ?
"มี แต่พอดูเงินในบัญชีแล้ว เอาเถอะน่า เอาเถอะ คือหามาเยอะแล้วจะหาอะไรอีกนักหนา ถ้าสิ่งที่เรามีอยู่แล้วพอใจกับมันแล้ว มันอาจจะไม่ได้เยอะเท่าคนอื่นๆ แต่ฉันพอใจ ดีกว่าสมัยที่ฉันเป็นเด็ก ดีกว่าตอนที่ฉันคิดไว้"
"สมมติตอน 20 กว่าฉันคิดไว้ว่ามีแค่นี้ก็พอแล้ว พอแก่มามีเหลือให้ครอบครัว ให้ลูกหลานไว้เท่านี้ฉันก็โอเค ความเสื่อมในความนิยมมันเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ถามว่าน้อยใจไหม ทุกคนจะต้องผ่านจุดนี้ให้ได้นะ มันเหมือนหกล้มแล้วแผลถลอกเลือดออก มันแสบนะ และเดี๋ยวพอแผลตกสะเก็ดมันก็หายนะ เราเข้าใจได้แค่นี้ก็จบเลย"
ทุกวันนี้ไม่ได้มองถึงเรื่องของความรักเลยใช่ไหม ?
"ตายแล้ว เธอต้องให้ฉันหาฮวงซุ้ยแล้ว หาโรงศพแล้ว เธอกล้าพูดว่าจะให้ไปหาความรัก (หัวเราะ)"
แต่โลกมันหมุนด้วยความรักนะ ?
"(หัวเราะ) เธอยังไม่อายุเลข 4 เลข 5 เท่าฉัน เธอจะรู้ว่าโลกมันหมุนด้วยเงิน ผู้ชายหมุนรอบตัวเราด้วยเงิน"
แสดงว่าเราปิดตายเรื่องความรักไปเลย ?
"ฉันไม่เคยบอกนะว่าฉันปิดตาย ฉันเปิดอ้าไว้จนแห้งแล้วมันก็ไม่เห็นมา ประตูนะที่มันแห้งอ่ะ คือเวลาเราผ่านอะไรมาเยอะแยะจนเรามองว่าเมื่อเรารู้สึกว่าเรารักตัวเองเป็น เรารู้สึกว่าแค่นี้พอแล้ว และเราก็มองเห็นด้วยว่าเวลามีคนคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็แล้วแต่ ความดีเรารับได้ ส่วนความเตี้ยของมันต่างๆ บางทีเราต้องแบกไว้ เรื่องครอบครัวของมัน ปัญหาทุกอย่างของมัน ทำไมไม่ได้แบกแค่พ่อแม่เรา แต่เราแบกทั้งโคตรเง้าของมันด้วย เคยคิดไหมว่าจะต้องเจอเรื่องนี้ คนคนหนึ่งอาจจะไม่ได้ดีเหมือนที่เราคิดไว้ในระยะยาว ถ้าเราคิดที่จะเป็นแบบนั้น เราต้องแบกรับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาด้วย"
"แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่บ้างาน ชอบทำงาน คิดว่าไม่มีเวลาที่จะต้องไปนั่งบอกเรื่องของมึงสิ ปัญหาของมึง มึงเข้ามาในชีวิตแล้วกลายเป็นว่าทำให้กูอ้วนก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้ อันนั้นก็ไม่ได้ อยู่เฉยๆ ของกูก็ดีแล้ว เลยไม่ได้คิดเรื่องพวกนั้น พี่ว่าเป็นไปตามวัย คือเราอายุ 50 แล้วจะให้ตอบว่าฉันก็ยังมองหารักแท้อยู่ ระหว่างรักแท้กับไม่มีกินเลือกเอานะคะ"
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ