ตำรวจแฉ 2 รูปแบบกลโกง "คนละครึ่ง" จับได้แล้ว 4 คน เล็งตรวจสอบอีกกว่า 700 ราย

ตำรวจแฉ 2 รูปแบบกลโกง "คนละครึ่ง" จับได้แล้ว 4 คน เล็งตรวจสอบอีกกว่า 700 ราย

ตำรวจแฉ 2 รูปแบบกลโกง "คนละครึ่ง" จับได้แล้ว 4 คน เล็งตรวจสอบอีกกว่า 700 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเผย 2 รูปแบบกลโกงในโครงการ "คนละครึ่ง" จับผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คน เตรียมขยายผลตรวจสอบเพิ่มอีกกว่า 700 ราย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงการจับกุมขบวนการที่ ทุจริตโครงการคนละครึ่งพบมีการกระทำผิดใน 2 รูปแบบ รูปแบบแรก มีลักษณะร้านค้าที่ร่วมโครงการคนละครึ่ง จะรับแลกเงินสด โดยมีการโอนเงินให้กับประชาชนที่ใช้แอปพลิเคชั่นเป๋าตังโดยตรงผ่านทาง mobile banking/ATM/เงินสด ซึ่งรูปแบบนี้ไม่ได้มีการซื้อ-ขายสินค้าจริงแต่ไปรับเงินโดยตรง

ส่วนรูปแบบที่ 2 คือ ลักษณะเป็นเจ้ามือ โดยให้ประชาชนที่ต้องการแลกเงิน นำข้อมูลการ Login เข้าแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง มอบให้แก่ร้านค้าเพื่อใช้สิทธิคนละครึ่งแทน โดยวิธีนี้ร้านค้าจะหาลูกค้าผ่านทางออนไลน์ เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก ซึ่งหากมีประชาชนสนใจ จะมีการตกลงแบ่งผลประโยชน์ และจะกระทำการเสมือนมีการค้าขายจริง โดยผู้ต้องหาจะแสดงตนเป็นทั้งร้านค้า และ ประชาชนผู้ใช้สิทธิ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้พบผู้กระทำผิดในรูปแบบที่ 2 จำนวน 4 ราย ในข้อหา ฉ้อโกง และข้อหา ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น พร้อมเรียกสอบปากคำประชาชน 14 คน ที่นำข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับรหัสเข้าแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ส่งให้กับร้านค้าผู้กระทำความผิด

โดยพบมีประชาชน 200 ราย ที่เข้าข่ายร่วมกระทำผิด และรัฐได้โอนเงินให้กับร้านค้าแห่งนี้ไปแล้วกว่า 220,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งการซื้อ-ขายแบบสุจริต และการทุจริตโดยลูกชายเจ้าของร้าน หนึ่งในผู้ต้องหาที่จับกุมได้ ส่วนวิธีโกงนั้น ผู้ต้องหาอาศัยช่องโหว่เชิงเทคนิค เช่น การไม่ต้องสแกนสินค้าก็ซื้อของได้ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ สามี-ภรรยา ทำหน้าที่เป็นนายหน้าระหว่างร้านค้ากับประชาชน พบว่าได้เงินส่วนต่างจากการกระทำผิด 10 วัน ประมาณ 10,000 บาท

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มที่อาจจะเข้าข่ายกระทำความผิดในลักษณะนี้อีกกว่า 700 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook