ชดใช้ด้วยชีวิต! ผู้ต้องหาคดีแทงเด็ก 18 ผูกคอตายแล้ว เขียนจดหมายเตือนสติวัยรุ่น

ชดใช้ด้วยชีวิต! ผู้ต้องหาคดีแทงเด็ก 18 ผูกคอตายแล้ว เขียนจดหมายเตือนสติวัยรุ่น

ชดใช้ด้วยชีวิต! ผู้ต้องหาคดีแทงเด็ก 18 ผูกคอตายแล้ว เขียนจดหมายเตือนสติวัยรุ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ต้องหาแทงเด็ก 18 ผูกคอตาย เขียนฝากถึงวัยรุ่นศักดิ์ศรีกินไม่ได้ ยันถูกทำร้ายก่อน เปิดวงจรปิดดูได้

(20 ธ.ค.63) เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ. มาโนช รัตนะโชติ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ. เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ นพ.อังกูร แก่นจำปา แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ศรีสะเกษ และหน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน ออกตรวจที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งว่า มีคนผูกคอตัวเองเสียชีวิต ที่กลางทุ่งนาบ้านซำ หมู่ 1 ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตซึ่งญาติได้นำลงมานอนกับพื้นข้างล่างแล้ว ทราบชื่อคือ นายกิตติ หรือ อาร์ม อายุ 29 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีใช้มีดแทงวัยรุ่นอายุ 18 ปี เสียชีวิตที่หน้าตลาดร่วมฤดี ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.20 คืนวันที่ 16 ธ.ค. 63 และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ขอศาลจังหวัดศรีสะเกษออกหมายจับแล้ว อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี สภาพศพไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาประมาณ 3-4 ชั่วโมง มีเชือกในล่อนสีขาวพาดอยู่บนกิ่งต้นมะม่วง ใต้ต้นมะม่วงมีถังพลาสติกสีขาวล้มอยู่ มีหัวไฟฉายติดหน้าผาก 1 อัน รองเท้าแตะหนังวางอยู่ 1คู่

ตำรวจที่เกิดเหตุและในตัวผู้ตาย พบจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือ 2 ฉบับพร้อมปากกาอยู่ในกระเป๋ากางเกง จดหมายมีใจความว่า “อาร์มต้องขอโทษทุกคนด้วย ที่ทำให้ผิดหวังในตัวอาร์ม กราบขอโทษพ่อแม่ พี่หญิงด้วย ที่ทำให้ลำบากใจมาตลอด อาร์มก็ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องนี้ ขึ้น เพราะอาร์มไม่ได้จะไปหาเรื่อง และไปตีน้องเขาเลย แค่ตบบ่าน้องเขา ถามว่าอยู่บ้านไหน แค่นั้น น้องอีกคนไม่พอใจ ก็พากันมาต่อย อาร์มก่อน (ไปดูกล้องวงจรปิดหน่อยเด้อ) ตอนนี้อาร์มเหนื่อยมากด้วย ไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรอีกแล้ว อาร์มรักและคิดถึงทุกคนมากๆ ต่อไปนี้ไม่มีอีกแล้วนะ คนชื่อกิตติ (อาร์ม)”

อีกฉบับ เขียนข้อความว่า “ชีวิตใครใครก็รัก ผมเข้าใจ ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต คงพอใจนะ ฝากบอกวัยรุ่นทั้งหลายด้วยว่า เวลามีเพื่อนเยอะไม่ใช่จะไปรุมตีเขา อย่าเอาเพื่อนและอารมณ์เป็นใหญ่ สุดท้ายมีแต่เสียกับเสีย ผู้ชายฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้ ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก

นายองอาจ อายุ 61 ปี พ่อของนายกิตติ ให้การว่า ตนทำงานอยู่ในตัวเมืองศรีสะเกษ และไปพักอยู่ที่บ้านโนนดั่ง ส่วนลูกชายก็ไปๆ มาๆ ไปนอนกับตนที่บ้านโนนดั่งบ้างมานอนกับแม่เขาที่บ้านซำบ้าง ส่วนเรื่องที่ลูกไปก่อเหตุก่อเรื่องอะไรนี่ตนไม่รู้เพราะไม่ได้เจอกับลูกมาหลายวันแล้ว ตอนนี้ตนผ่าตัดตาจึงได้หยุดงานก็ไม่ได้เจอกับลูก จนกระทั่งเช้านี้ได้รับแจ้งว่าลูกผูกคอตายจึงรีบเดินทางมา พอมาถึงเข้าใจว่าลูกยังไม่เสียชีวิตจึงได้ตัดเชือกนำร่างลงมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ด้าน น.ส.หญิง พี่สาวของนายกิตติ ผู้ตายเล่าว่า ตนทำงานอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่บ้าน กลับมาบ้านเพื่อมาเลือกตั้ง มาถึงบ้านเมื่อวานนี้ก็ได้คุยกับน้องชาย เขาเล่าให้ฟังว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น น้องบอกว่าไม่ตั้งใจทำน้องเขาไม่ได้ตั้งใจฆ่าน้องเขา แต่น้องชายถูกรุมตีจึงต้องป้องกันตัว ตนก็ตั้งใจว่าจะพาน้องชายไปมอบตัว แต่จะต้องรอให้เสร็จงานศพฝ่ายโน้นก่อน แต่น้องก็มาด่วนคิดสั้นปลิดชีวิตตัวเองไปก่อน

พ.ต.อ. มาโนช รัตนะโชติ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า คาดว่าผู้เสียชีวิตจะนำถังน้ำมาตั้งรองขึ้นไปใช้เชือกผูกติดกับกิ่งมะม่วงแล้วใช้ปลายเชือกอีกด้านผูกคอตัวเองก่อนที่จะถีบถังน้ำให้ล้มลงเชือกรัดคอตัวเองเสียชีวิต ชุดสืบสวนยืนยันว่า ผู้ตายคือ นายกิตติ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุแทง นายปรินทร อายุ 18 ปีนักศึกษาชั้น ปวช.3 สาขาช่างยนต์ ว.เทคนิคศรีสะเกษ ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 63 หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจที่เกิดเหตุแล้ว แพทย์จะได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปผ่าชันสูตรโดยละเอียดที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ และจะได้สรุปสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการดำเนินการต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook