เปิบเกาเหลาชามใหญ่! ดาว-ฮาย-ยิ่งยง
ข่าวคราวเกาเหลาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สร้างความตกใจแกมฉงนให้แก่คนในวงการลูกทุ่งและแฟนเพลงไม่น้อย เมื่อ ดาว มยุรี ประกาศตัดตายเพื่อนสาว ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ หลังมีข่าวซุบซิบหนาหูว่า สองสาวกินเกาเหลากันมาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะสาเหตุเรื่องเงินๆ ทองๆ
ย้อนหลังไปถึงการเข้าวงการของนักร้องสาว ดาว มยุรี ไต่เต้ามาจากนักร้องคาเฟ่ย่านฝั่งธนบุรี เช่นเดียวกับเอกชัย ศรีวิชัย ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันและให้ความรักเคารพเหมือนพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน
"ช่วงที่ดาวมาร้องเพลงที่ปาลาติโน่คาเฟ่ สามแยกไฟฉาย เอกชัยออกมาแล้วและเริ่มมีคนรู้จัก เห็นว่าเขามีแววเลยช่วยส่งเสริมดาวมาตลอด มาอัดเพลงนายห้างประกิต อดีตเป็นเจ้าของวงดนตรีระพิน ภูไท ในชื่อยุพยงค์ ยอดอุบล เป็นชื่อเข้าวงการครั้งแรก ตอนหลังนายห้างประกิตได้นำอัลบั้มชุด "ให้มันเหลืองเข้าไว้" แล้วมาเปลี่ยนชื่อเป็น ดาว มยุรี ก่อนที่ดาวจะมาอยู่กับสโนไวท์ และมาดังเพลง "มีเมียแล้วไม่เอา" ก็เห็นเขาเหมือนน้องสาว หลังจากดาวหมดสัญญาผมก็พาเข้าไปที่บริษัทอาร์เอสโปรโมชั่น"
อาภาพร นครสวรรค์ เคยเป็นหางเครื่องและนักร้องในวงดนตรีพุ่มพวง ดวงจันทร์ และเดินสายร่วมกับยิ่งยง ยอดบัวงาม ในสังกัดบ๊อกซิ่งซาวด์ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นนักร้องคู่ขวัญร้องเพลงแก้กันตั้งแต่ยุคเพลง "สมศรี 1992" โด่งดัง ด้านเอกชัยซึ่งเคยอยู่ในสังกัดวงดนตรีของบ๊อกซิ่งซาวด์เช่นกัน และเคยเดินสายร่วมกันกับยิ่งยงและอาภาพร
"อาภาพรเป็นหางเครื่องในวงบ๊อกซิ่งซาวด์เต้นสลับการร้องเพลง ซึ่งช่วงนั้นมีเอกชัยเป็นหัวหน้าวง บุญโทน คนหนุ่ม เป็นนักร้องอีกคน อาภาพรใช้ชื่อครั้งแรกว่า น้องนิด ศิษย์บุญโทน ร้องเพลงแปลงสนุกๆ กับบุญโทน ตอนหลังยิ่งยง ดังเพลง "สมศรี 1992" อาสรรเสริญ เป็นคนจัดจำหน่ายเพลงชุดนั้น ภมร อโนทัย เห็นแววเลยจับมาร้องเพลงแก้กับยิ่งยงและเปลี่ยนชื่อเป็นอาภาพร นครสวรรค์ อาภาพร กับยิ่งยง ไปคอนเสิร์ตด้วยกันตลอดจนสนิทสนมกันมาก ทั้งดาว ยิ่งยง อาภาพร เอกชัย ก็เลยสนิทสนมกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา"
ดาว มยุรี เองก็เคยร่วมงานประปรายกับค่ายบ๊อกซิ่งซาวด์ และเคยเดินสายกับวงดนตรี "ศรีวิชัยโชว์" ของเอกชัย ศรีวิชัย ที่แยกตัวมาจากบ๊อกซิ่งซาวด์ ด้านดาว มยุรี กับฮาย อาภาพร กลายมาเป็นเพื่อนสนิทสนมกันในเวลาต่อมาและต่อเนื่องมานับสิบปี ยิ่งยง ดาว กับฮาย อาภาพรสนิทสนมกัน เปรียบเหมือนครอบครัวใหญ่ โดยมียิ่งยงที่เหมือนพี่ชายคนโตที่ดูแลน้องสาวทั้งสอง ทั้งสามครอบครัวต่างร่วมกิจกรรมต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับงานและนอกเหนือจากงานอย่างสม่ำเสมอ และยังส่งงานคอนเสิร์ตต่อให้กัน ในกรณีที่อีกฝ่าย คิวไม่ว่างไม่สามารถรับงานได้
เมื่อปี 2548 ดาว ฮาย และยิ่งยง ได้ตัดสินใจลงขันทำหนังแผ่นเรื่อง "สองยัยตัวร้ายกับนายซื่อบื้อ" มาแล้ว กล่าวกันว่า เมื่อรายได้จากหนังแผ่นไม่เป็นตามเป้า ทำให้เกิดชนวน รอยร้าวเล็กๆ ตามมา แต่เมื่อใดที่มีปัญหาเกิดขึ้น ยิ่งยงมักจะเป็นฝ่ายเคลียร์ปัญหา ต่อมา อาภาพร เริ่มแยกตัวออกจากกลุ่มด้วยความที่มีงานแสดงมากกว่าคนอื่น ทั้งงานโชว์ตัว งานละคร
ซึ่งช่วงที่อาภาพร นครสวรรค์ กับดาว ทำโชว์เดินสาย ก็มักจะถูกเปรียบเทียบกัน ซึ่งทั้งสองสาวก็แข่งขันกันอย่างเงียบๆ ประกอบกับ ที่ตั้งของบ้านพักยิ่งยงกับดาวอยู่ใกล้กันมากกว่า ภายหลังจึงไม่ปรากฏร่างของฮาย ซึ่งพักอยู่แถวซอยจรัญฯ 13 ในขณะที่ดาว ยังคงสนิทสนมกับครอบครัวยิ่งยงมาตลอด
เรื่องที่เกิดขึ้น ข่าววงในวิเคราะห์ว่าเกิดจากบุคคลที่เป็น "มือที่สาม" ที่ทั้งสองสาวให้ความนับถือทำให้เกิดเรื่องแตกแยกกันขึ้น และเชื่อมโยงไปสู่การเสียผลประโยชน์ที่ตามมาของแต่ละฝ่าย ซึ่งกลายเป็นปริศนาว่า ใครคือ บุคคลที่สาม ที่ทำให้สองสาวแตกแยกกัน จากปัญหาที่ก่อตัวขึ้นแต่ไม่ได้รับการสื่อสารโดยตรง เมื่อปล่อยทิ้งไว้จึงค่อยสะสมพอกพูนมาจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ที่ทำให้ทั้งสองสาวไม่มองหน้ากันและทำเฉยชาเมื่อเจอกันตามงาน ไม่สนิทสนมกันดังเดิม และที่มาของการแตกหัก ไม่ใช่เป็นการสร้างกระแสเพื่อเป็นข่าวโปรโมทหนังสือหรืองานเพลงแต่ประการใด กลายเป็นศึกเกาเหลาดาว มยุรี อาภาพร นครสวรรค์ ตามข่าว ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" หวังว่า กาลเวลาจะเยียวยาให้ทั้งสองหันหน้ามาคุยกันและกลับมาเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิมในไม่ช้า