เปิดไทม์ไลน์ หนุ่มลูกจ้างแพกุ้ง ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ใน กทม. วันนี้พบเพิ่มอีก 2 ราย

เปิดไทม์ไลน์ หนุ่มลูกจ้างแพกุ้ง ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ใน กทม. วันนี้พบเพิ่มอีก 2 ราย

เปิดไทม์ไลน์ หนุ่มลูกจ้างแพกุ้ง ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ใน กทม. วันนี้พบเพิ่มอีก 2 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้(21 ธ.ค.) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร ที่ศาลาว่าการ กทม. ถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า วันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 2 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. อยู่ที่ 4 ราย มีความเกี่ยวข้องกับแพกุ้ง จ.สมุทรสาคร

โดยรายละเอียดของผู้ป่วยรายที่ 3 และ 4 มีดังนี้

  • ผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นผู้ชาย อายุ 43 ปี เป็นลูกจ้างขายอาหารทะเลที่แพกุ้ง ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร มาขายอาหารทุกวัน ตั้งแต่เวลา 4.00 – 09.00 น.
    • วันที่ 5-11 ธ.ค. 63 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากบ้านไปทำงานที่แพกุ้ง ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาครตั้งแต่เวลา 04.00 น. – 09.00 น. ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลเป็นประจำ เมื่อทำงานเสร็จจะกลับบ้านซึ่งอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่ง เขตบางขุนเทียน โดยมีภรรยาเป็นคนทำอาหารให้รับประทานวันที่
    • 12 ธ.ค. 63 ผู้ป่วยทราบข่าวมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร จึงได้แยกตัวออกไปพักที่บ้านเช่าอีกแห่งหนึ่งที่เขตบางขุนเทียน พักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลอื่น และซื้ออาหารเข้ามารับประทานในที่พักเป็นปะจำ
    • วันที่ 13-17 ธ.ค. 63 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปทำงานค้าขายที่แพกุ้ง ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร โดยทำงานทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00 น. – 09.00 น. ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลเป็นประจำ เมื่อทำงานเสร็จก็ขับรถยนต์ส่วนตัวกลับไปที่ห้องเช่า โดยแวะซื้ออาหารกลับไปรับประทานคนเดียวที่ห้องเช่า
    • วันที่ 18 ธ.ค. 63 เดินทางไปตรวจที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ตรวจแบบ Drive-Thru จากนั้นผู้ป่วยเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวกลับไปยังห้องเช่า และไม่ได้ออกไปไหน
    • วันที่ 19 ธ.ค. 63 ผู้ป่วยได้รับแจ้งจาก รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ว่ามีผลพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และขอให้ผู้ป่วยเดินทางไปที่รพ.รามาธิบดี เพื่อขอตรวจยืนยันอีกครั้ง โดยผู้ป่วยเดินทางด้วยรถแท็กซี่ ทั้งผู้ป่วยและคนขับรถสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และ รพ.รามาธิบดี ให้ผู้ป่วย Admit เพื่อรอผล ผู้ป่วยไม่มีอาการใด ๆ
    • วันที่ 20 ธ.ค. 63 ผลการตรวจ Detected จาก รพ.รามาธิบดี

กทม. ร่วมกับ กรมควบคุมโรค สอบสวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย ซึ่งเป็นคนในครอบครัวของผู้ติดเชื้อแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 1 ราย ที่เป็นคนขับรถแท็กซี่พาผู้ป่วยไป รพ.รามาธิบดี ในวันที่ 19 ธ.ค. 63 รวมทั้ง ได้ทำความสะอาดที่พักอาศัยของผู้ป่วยแล้ว

ผู้ป่วยรายที่ 4 เป็นหญิง อายุ 42 ปี อาชีพค้าขาย พึ่งได้รับผลยืนยัน จึงอยู่ระหว่างสอบสวนโรค รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบต่อไป

สำหรับกรณีผู้ป่วยรายแรก ที่พบย่านประชาชื่น เขตบางซื่อ ก่อนหน้านี้นั้น พบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงรวม 51 ราย เบื้องต้นตรวจแล้วไม่พบเชื้อ จึงสั่งให้กักตัวดูอาการ 14 วัน ส่วนผู้ป่วยรายที่ 2 ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย ยังไม่ทราบผลการตรวจ

นอกจากนี้ กทม. ยังได้ออกประกาศ มาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดโควิด-19 ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2563 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบุว่า

ตามที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในจังหวัดสมุทรสาคร นั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สมควรกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดในกรุงเทพมาหนคร

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 19/2563 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 จึงกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังต่อไปนี้

1. ให้สถานที่ดังต่ไปนี้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามมาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคแนบท้ายประกาศนี้

1.1 ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
1.2 สวนสาธารณะ
1.3 วัด มัสยิด หรือสถานที่จัดพิธีกรรมทางศาสนา
1.4 สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ

2. ให้เจ้าของ ผู้จัดการสถานที่หรือผู้จัดให้มีกิจกรรมใดๆ ทางธุรกิจการคมนาคม มหรสพ สนามกีฬา ที่สาธารณะ หรือแหล่งอื่นๆ ซึ่งมีการรวมกลุ่มหรือร่วมกิจกรรมลักษณะที่เสี่ยงต่อการใกล้ชิด สัมผัส และแพร่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคแก่ผู้ร่วมกิจกรรมนั้นๆ ดังต่อไปนี้

2.1 บริการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือการคัดกรองอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ
2.2 ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า
2.3 อำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด
2.4 จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
2.5 จัดให้มีการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการทำกิจกรรม รวมทั้งระหว่างและภายหลังการทำกิจกรรมด้วย
2.5 ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชันที่ทางราชการกำหนด

3. การจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ที่มีการชุมนุมคนในพื้นที่ตั้งแต่ 300 คนขึ้่นไป ต้องยื่นแผนการจัดงานและมาตรการควบคุมโรคต่อสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ก่อนจัดงาน

ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอำนาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 และข้อ 2 จะถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว

กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่อออกจากที่พักอาศัย

เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2564 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook