อินโดฯพบ4หมู่บ้านถูกฝังในแผ่นดินถล่ม

อินโดฯพบ4หมู่บ้านถูกฝังในแผ่นดินถล่ม

อินโดฯพบ4หมู่บ้านถูกฝังในแผ่นดินถล่ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อินโดนีเซียพบสี่หมู่บ้านถูกฝังในแผ่นดินถล่ม คาดยอดตายเพิ่มเป็นกว่า 1300 คน

(4ต.ค.) ยอดความเสียหายจากแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริคเตอร์ที่สั่นสะเทือนอินโดนีเซียเมื่อวันพุธ เริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อเจ้าหน้า ที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่รัฐบาล เข้าไปถึงหมู่บ้านห่างไกลตามแนวชายฝั่งตะวันตกของเกาะสุมาตราเมื่อวันเสาร์ แม้ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจะยังอยู่ที่ 715 คน ส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองปาดัง เมืองเอกของภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบรุนแรงสุดและเป็นศูนย์รวมความช่วยเหลือ แต่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เป็นมากกว่า 1,300 คน เพราะเจ้าหน้าที่พบหมู่บ้าน 4 แห่งที่ถูกกลบฝังใต้ทะเลโคลน คาดว่ามีผู้ถูกฝังทั้งเป็นมากกว่า 600 คน

เจ้าหน้าที่และช่างภาพของสำนักข่าวเอพีที่ไปถึงที่นั่นรายงานว่า ไม่มีอะไรเหลือในจุดที่เคยเป็นที่ตั้งหมู่บ้านทั้ง 4 แห่งบนไหล่เขาในเขตปาดัง ปาริมาน ของสุมาตราตะวันตก ซึ่งคาดว่าผู้เสียชีวิตรวมทั้งผู้จัดงานและแขกกว่า 400 คนที่เข้าร่วมงานแต่งงานของชุมชนงานหนึ่งที่หมู่บ้านปูลัว ไอยา เมื่อวันพุธ ตอนที่แผ่นดินไหวทำให้ต้นไม้ถอนรากถอนโคน และทำให้โคลนถล่มกับก้อนหินร่วงหล่นลงมาจากภูเขา

นายรัสตัม ปาคายา หัวหน้าศูนย์วิกฤต กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียกล่าวว่า ชาวบ้านกู้ศพขึ้นมาได้ 26 ศพใน 2 หมู่บ้านใกล้เคียงคือ ลูบัค ลาวี และจูมีนา แต่อีก 618 ศพเกินกำลังชาวบ้านที่กู้ศพกันเองโดยไม่ได้ความช่วยเหลือจากภายนอกเพราะถนน สายต่างๆเสียหายหนัก ขณะที่สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ของอังกฤษเผยภาพคนมุงดูถุงใส่ศพ ภาพต้นไม้ล้ม สะพานที่พังทลายและเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกค้นหาผู้รอดชีวิต ส่วนใหญ่ของเชิงเขาแห่งหนึ่งถล่มหายไปและมีซากบ้านเรือนโผล่ขึ้นจากทะเลโคลน ถนนถูกหลบฝังและมีแต่โคลนสีแดงตรงจุดที่เคยเป็นที่ตั้งหมู่บ้าน

ก่อนหน้าที่จะมีรายงานพบ 4 หมู่บ้านนี้ มีรายงานผู้สูญหายมากกว่า 3,000 คน อีก 2,400 คน บาดเจ็บและต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะที่หลายหมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัย สหประชาชาติประเมินว่ามีประชากรมากกว่า 1 ล้าน 1 แสนคนในพื้นที่ 4 เขตที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ขณะที่รัฐบาลระบุว่า มีบ้าน โรงเรียน มัสยิด โรงพยาบาล และสถานที่ราชการที่พังทลายหรือเสียหายหนักมากกว่า 3 หมื่นหลัง คิดเป็นร้อยละ 17 ของสิ่งก่อสร้างในแถบนั้น

เครื่องบินลำเลียง C-130 จากสหรัฐฯ ,รัสเซีย,ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สวิส เกาหลีใต้ และมาเลเซียนำแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านกู้ภัยและค้นหา รวมทั้งอาสาสมัครจำนวนมาก เดินทางไปถึงสนามบินในท้องถิ่นพร้อมเสบียงอาหาร เต้นท์ ยา น้ำสะอาด เครื่องปั่นไฟและโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง แต่การขาดกระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิงขาดแคลน และปัญหาด้านโทรคมนาคมทำให้ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่โกลาหล สหประชาชาติระบุว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำมันพอใช้ได้อีก 4 วัน แต่ถนนสายไปยังคลังน้ำมันใหญ่ถูกตัดขาด ทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้น 6 เท่าตัวแล้ว

เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเปิดเผยว่า ปฏิบัติการช่วยเหลือส่วนใหญ่ยังเน้นที่เมืองปาดัง พื้นที่รอบนอกยังขาดความช่วยเหลือ และหน่วยงานบรรเทาทุกข์จะเน้นเรื่องนำกลับมาซึ่งน้ำสอาด ไฟฟ้า สุขอนามัย และป้องกันโรคระบาด ขณะที่เงินบริจาคหลายสิบล้านดอลลาร์หลั่งไหลมาจากหลายสิบประเทศ เพื่อสมทบกับเงิน 400 ล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศจะใช้ให้ความช่วยเหลือภายใน 2 เดือนนี้ สำหรับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ซึ่งเกิดจากรอยเลื่อนเดียวกันกับที่เคยทำให้เกิดมหันตภัยสึนามิเอเชีย ปี 2547 ที่คร่าชีวิตคนไปกว่า 230,000 คนใน 12 ประเทศ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook