หญิงป่วยโรคซึมเศร้ากำเริบ ขับรถเข้าวัด-ด่าพระ ล็อกรถแล้วตบหน้าพี่สาวไม่หยุด
(21 ธ.ค. 63) เมื่อเวลา 22.00 น. ร.ต.อ.สราวุธ มั่งมี สวป.สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีหญิง 2 คนขังตัวเองอยู่ในรถยนต์เก๋ง ซึ่งจอดอยู่ภายในวัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสสัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดดับเครื่องยนต์อยู่ที่บริเวณปากซอยวัดอโศการาม 5 โดยมีพระสงฆ์และชาวบ้านยืนมุ่งอยู่ที่ข้างรถ ภายในรถพบว่ามีหญิงอายุประมาณ 50 ปี จำนวน 2 คนนั่งอยู่ภายในรถ โดยหญิงสาวคนแรกนั่งอยู่ที่บริเวณเบาะคนขับ ส่วนหญิงคนที่สองนั่งอยู่ที่เบาะนั่งข้างซ้ายด้านหน้าในลักษณะเอนนอนไปทางด้านหลัง และล็อกประตูรถทั้ง 4 บานเอาไว้ โดยที่หญิงสาวคนที่นั่งอยู่ที่เบาะด้านคนขับได้ทำร้ายร่างกายหญิงคนที่นั่งอยู่ที่เบาะนั่งข้างซ้ายด้วยการใช้มือตบเข้าที่ใบหน้าและศีรษะหลายครั้งจนปากแตก
แม้เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาให้หญิงคนดังกล่าวเปิดประตูรถออกมาคุย แต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ช่างทำกุญแจมาทำการสะเดาะกุญแจประตูรถคันดังกล่าวออกก่อนที่จะเปิดประตูและล็อกตัวหญิงคนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับที่กำลังทำร้ายร่างกายหญิงอีกคนหนึ่งแยกออกมาได้ โดยสภาพที่หญิงสาวคนดังกล่าวมองตาขวางพูดจาไม่รู้เรื่อง หาว่าภายในวัดมีตัวเงินตัวทองจำนวนมากอยู่ในศาลาท่านพ่อลี และบอกว่าท่านพ่อลีให้มาช่วยปลดปล่อย ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิเข้าช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกทำร้ายออกมาได้ก่อนให้การปฐมพยาบาล
ทั้งนี้ น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 52 ปี เล่าว่า หญิงคนที่ก่อเหตุเป็นน้องสาวของตนชื่อ น.ส.แดง (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่ปี 37 อยู่ระหว่างการรักษาและต้องกินยาระงับอาการอยู่เป็นประจำ โดยก่อนเกิดเหตุ น.ส.แดง ผู้เป็นน้องสาวได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวออกจากบ้านพักในย่านอนุสาวรีย์ฯ พาตนไปโคราช ระหว่างขับรถจะกลับบ้านแต่อยู่ดีๆ น้องสาวตนก็ขับรถพาตนมาที่วัดแห่งนี้ ซึ่งตนก็ไม่เคยมา ก่อนที่จะเข้ามาจอดรถภายในวัด และเปิดประตูลงไปด่าทอพระและท่านพ่อลี ด้วยเสียงอันดัง ทำให้พระในวัดต่างพากันออกมาดู
ส่วนตนนั่งรออยู่ในรถ ก่อนที่น้องสาวตนจะเดินกลับมาขึ้นรถและติดเครื่องยนต์นั่งอยู่ในรถได้ประมาณ 5 นาทีก่อนที่จะล็อกประตูและดับเครื่องขังตัวเองและตนอยู่ในรถ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมจะโทรหาญาติให้มารับ แต่ก็ถูกน้องสาวทำร้ายด้วยการตบที่ใบหน้าและศีรษะนับสิบครั้งจนปากแตก ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาให้การช่วยเหลือ ซึ่งตนเชื่อว่าที่น้องสาวตนทำแบบนี้อาจะเป็นเพราะอาการโรคซึมเศร้ากำเริบทำอะไรลงไปโดยที่ไม่รู้ตัว