ศาลฎีกาเลือกองค์คณะ9คนพิจารณาปปช.ถูกร้องเรียน

ศาลฎีกาเลือกองค์คณะ9คนพิจารณาปปช.ถูกร้องเรียน

ศาลฎีกาเลือกองค์คณะ9คนพิจารณาปปช.ถูกร้องเรียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

2รองปธ.ศาลฎีกา-4ปธ.แผนกคดีศาลฎีกา-3หน.คณะศาลฎีกาองค์คณะพิจารณาคำร้อง ป.ป.ช. ชี้มูล7ต.ค. บุญรอด ขอถอนตัวคดียึดทรัพย์ เหตุคดีกล้ายางรั่ว

ที่ศาลฎีกา สนามหลวง เมื่อเวลา 13.00 น. นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา เรียกประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกา พิจารณาลงมติเลือกผู้พิพากษาศาลฎีกาจำนวน 9 คน เป็นองค์คณะพิจารณาคำร้องที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวบรวมรายชื่อใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาให้คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ทั้งคณะ 9 คน พ้นตำแหน่ง กรณีถูกกล่าวหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่ชี้มูลความผิดอาญาและวินัยร้ายแรงการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ปิดล้อมหน้าอาคารรัฐสภาวันที่ 7 ต.ค.2551 กับกลุ่มนักการเมืองและข้าราชการตำรวจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และกรณี ป.ป.ช.มีมติไล่นายตำรวจที่ถูกชี้มูลวินัยร้ายแรงออกจากราชการ

โดยผลการประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาแล้วลงมติเลือก นายมนตรี ยอดปัญญา รองประธานศาลฎีกา นายพีรพล พิชยวัฒน์ รองประธานศาลฎีกา นายอดิศักด์ ทิมมาศย์ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา นายสุทัศน์ ศิริมหาพฤกษ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรศาลฎีกา นายมานัส เหลืองประเสริฐ ประธานแผนกคดีพาณิชย์ในศาลฎีกา นายสมศักดิ์ จันทรา ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา นายยงยุทธ สุเรนท์รังสิกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา นายดิเรก อิงคนินันท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา นายสุรศักดิ์ สุวรรณประกร ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นองค์คณะ โดยขั้นตอนต่อไปองค์คณะทั้ง 9 คน จะประชุมเพื่อพิจารณาเลือก 1 ในองค์คณะเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน และพิจารณาว่าจะมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ยังมีมติด้วยเสียงข้างมากอนุญาตให้ นายบุญรอด ตันประเสริฐ ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา ซึ่งขณะนี้เกษียณราชการไปเป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ถอนตัวจากการเป็นองค์คณะในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 7.6 หมื่นล้าน ที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ หลังจากนายบุญรอด ยื่นหนังสือขอถอนตัวจากการเป็นองค์คณะ

โดยเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุม ได้มีมติเลือกนายมนตรี ยอดปัญญา รองประธานศาลฎีกา เป็นองค์คณะแทน และเลือกนายอดิศักดิ์ ทิมมาศย์ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา เป็นองค์คณะแทน นายปัญญารัตน์ วิระยะวานิช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ที่เกษียณราชการย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ด้วย

ขณะที่นายบุญรอด ตันประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา กล่าวถึงเหตุผลที่ยื่นหนังสือขอถอนตัวจากการเป็นองค์คณะคดียึดทรัพย์ว่า สืบเนื่องจากขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลภายนอกรู้ผลคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อกล้ายางก่อนการอ่านคำพิพากษาจริงหรือไม่ ซึ่งตนอยู่ในข่ายที่อาจถูกคณะกรรมการฯ เรียกไปสอบถาม จึงคิดว่าเพื่อเป็นการแสดงสปิริต ไม่ให้เกิดความมัวหมอง และเป็นช่องว่างให้คู่ความโจมตี อย่างไรก็ตามในการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้นจนถึงขณะนี้คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้เรียกตนไปให้ข้อมูล ซึ่งคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

"เห็นว่าระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวนก็ไม่ควรนั่งพิจารณาคดี ซึ่งต้องการเคลียร์ให้ชัดเจนก่อน เป็นแนวคิดของผมที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใส" นายบุญรอด กล่าวย้ำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook