เคโงะ-พ่ออบอุ่น ดูแลถึงห้องสอบ

พ่อ-ลูกชื่นมื่นก่อนกลับญี่ปุ่น "คัตซูมิ" ให้กำลังใจ "เคโงะ" สอบวันแรก ตื่นเช้าแต่งตัวส่งไปโรงเรียนแถมให้กำลังใจก่อนเข้าสอบ เผยมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ลูก ยังไม่อยากกลับแต่ต้องไปทำงานหาเงิน เพื่อที่จะได้รับลูกไปอยู่ด้วยกัน ป้าขอยื่นเป็นผู้ปกครองและพ่อชาวญี่ปุ่นยังไม่ตกลง หวั่นถูกพรากลูกและเสียสิทธิ์ในการดูแล ขอไปปรึกษาด้านกฎหมายที่บ้านเกิดก่อนจะเดินทางมาอีกครั้งในปีหน้า

จากกรณี ด.ช.เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ ลูกครึ่งชาวญี่ปุ่น-ไทย สุขสมใจในวันที่รอคอยภายหลังนายคัตซูมิ ซาโต บิดาชาวญี่ปุ่นเดินทางมาหาตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนใช้ชีวิตร่วมกันตามประสาพ่อลูกอย่างมีความสุข ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ด.ช.เคอิโงะ ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปสอบปลายภาคชั้น ป.4 เทอมแรก ร.ร.เทศบาลท่าหลวงสงเคราะห์ อ.เมือง จ.พิจิตร โดยมีนายคัตซูมิ พ่อชาวญี่ปุ่นช่วยแต่งตัวให้ จากนั้นจึงเดินทางไปส่งบุตรชายถึงโรงเรียน

เมื่อไปถึง ด.ช.เคอิโงะพานายคัตซูมิไปรับประทานอาหารเช้าภายในโรงเรียน โดยนายคัตซูมิ เลือกที่จะรับประทานขนมจีนแกงเขียวหวาน ส่วนเคอิโงะเลือกรับประทานข้าวเหนียวไก่ทอด โดยวันนี้บรรดาแม่ค้าไม่เก็บเงินค่าอาหารจากนายคัตซูมิ และด.ช.เคอิโงะ เป็นการต้อนรับพ่อชาวญี่ปุ่นของเคอิโงะ

นอกจากนี้ นายคัตซูมิ และด.ช.เคอิโงะ ยังร่วมเคารพธงชาติหน้าเสาธงกับเพื่อนๆ นักเรียนและร่วมพิธีลงนามถวายพระพรเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทางโรงเรียนจัดพิธีให้คณะครูและนักเรียนร่วมลงนามถวายพระพร ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวร และทรงมีพลานามัยแข็งแรง ร่วมกับคณะครูนักเรียนด้วย

หลังจากลงนามถวายพระพรแล้วนายคัตซูมิ จูงมือด.ช.เคอิโงะ เข้าไปในห้องสอบและอวยพรให้ด.ช.เคอิโงะ ตั้งใจสอบให้ได้ จะเป็นกำลังใจให้และขอให้ได้เกรดออกมาดีๆ ตลอดเวลา ด.ช.เคอิโงะ มีสีหน้ามีความสุข หลังเคอิโงะฟังพ่ออวยพรเสร็จยกมือชูพูดคำว่า "สู้ๆ"

นายคัตซูมิกล่าวว่า วันนี้ไปส่งเคอิโงะที่โรงเรียน เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเคอิโงะ สอบปลายภาคของเทอมแรก โดยให้กำลังใจให้สู้และขอให้สอบได้ และตั้งใจสอบให้ได้เกรดเรียนที่ดี ตนรู้ว่าด.ช.เคอิโงะ เป็นเด็กดี ภูมิใจมากกับลูกชายคนนี้ มาอยู่กับลูกตั้งแต่วันที่ 2 จนใกล้จะกลับตนมีความสุขมากที่อยู่ใกล้ลูก จริงแล้วยังไม่อยากกลับไปเลย แต่ต้องกลับเพราะจะต้องไปทำงานเพื่อตั้งตัวก่อนรับลูกไปอยู่ด้วยกันให้มีความสุขมากกว่านี้

"วันนี้ไม่ได้พักที่บ้านครูเอ็มที่เป็นล่ามแล้ว แต่มาพักกับลูกชายที่บ้านนางปัทมา บ้านที่เคยอยู่กับนางทิพมณฑา ภรรยาเก่า เพราะเห็นว่าใกล้จะกลับแล้ว อยากมีโอกาสอยู่กับลูกให้มากๆ ยืนยันว่าสงกรานต์ปี 2553 นี้ จะเดินทางมาหาลูกชายอีกครั้ง ถ้าสงกรานต์ยังไม่ว่างก็จะมาในช่วงเดือนตุลาฯ แต่ยืนยันว่ามาแน่นอน" นายคัตซูมิกล่าว

ด้านด.ช.เคอิโงะ กล่าวว่า ปลื้มใจมากที่พ่อมาส่งที่โรงเรียน และให้กำลังใจในการสอบปลายภาคแรก ยอมรับว่ามีความสุขมากที่สุดในชีวิต ต่อจากนี้เพื่อนจะได้ไม่ต้องล้อตนเองอีกแล้วว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ เพราะมีพ่อมาอวดเพื่อนๆ แล้ว รับรองว่าจะสอบให้ได้เกรดดีที่สุดเพื่อทำให้พ่อภูมิใจ

นายกร ยอดเยาว์ ผอ.ร.ร.เทศบาลท่าหลวงสงเคราะห์ กล่าวว่า ด.ช.เคอิโงะเป็นเด็กดี มีความกตัญญู จึงส่งรายชื่อไปประกวดแข่งขัน เพื่อเป็นเด็กนักเรียนพระราชทาน จะต้องแข่งกับโรงเรียนพิจิตรทั้งหมดกว่า 100 โรงเรียนของเขตที่ 1 ขณะนี้ผ่านการประเมินแล้ว ยังเหลือที่จะต้องแข่งกับเขตพื้นที่การศึกษาที่ 2 ในในโอกาสต่อไป หากได้รับการคัดเลือก ก็จะเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล รวมถึงเรื่องทุนการศึกษาด้วย

ต่อมานางปัทมา จตุพิศ พร้อมด้วยนายคัตซูมิ เดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดพิจิตร เพื่อขอพบนายประภาส สนั่นศิลป์ อัยการจังหวัดพิจิตร และนายวิศิษฐ์ ฉัตรศรีสุวรรณ อัยการจังหวัดพิจิตร เพื่อขอคำแนะนำ เนื่องจากนางปัทมา ขอเป็นผู้ปกครองด.ช.เคอิโงะ จน กว่าจะบรรลุนิติภาวะ แต่เนื่องจากนายคัตซูมิไม่เข้าใจกฎหมายไทยจึงยังไม่ตอบตกลง

ทางนายประภาสและนายวิศิษฐ์ จึงแนะนำว่าน่าจะใช้วิธียกเคอิโงะเป็นบุตรบุญธรรมของนางปัทมา แต่นายคัตซูมิคิดว่าเป็นการพรากลูก และในอนาคตเกรงว่าจะไม่มีสิทธิ์ในความเป็นพ่อ จึงยังไม่ยอมทำตามคำแนะนำของอัยการ โดยจะขอกลับไปปรึกษากับฝ่ายกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นและคาดว่าช่วงสงกรานต์ปี 53 จะกลับมาดำเนินการเรื่องนี้อีกครั้ง

ต่อมานายคัตซูมิ เดินทางไปพบดร.สุรเสน ทั่งทอง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาพิจิตร เขต 2 เพื่อร่ำลาและฝากด.ช.เคอิโงะ เนื่องจากจะต้องเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 6 ต.ค.

สำหรับกำหนดการในวันที่ 6 ต.ค. นายคัตซูมิกับด.ช.เคอิโงะจะเดินทางออกจากบ้านที่ จ.พิจิตร เข้ากรุงเทพฯ โดยมีกำหนดบันทึกเทปรายการตีสิบช่วง 15.00 น. จากนั้นสองพ่อลูกจะไปเที่ยวงานบอลลูน อาร์ตฯ 2009 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และในเวลา 20.00 น. ด.ช.เคอิโงะ จะไปส่งนายคัตซูมิขึ้นเครื่องบินกลับประเทศญี่ปุ่น ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ด้านนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีหากนายคัตซูมิ พ่อของด.ช.เคอิโงะ ต้องการพาลูกกลับไปเลี้ยงดูที่ประเทศญี่ปุ่นในอีก 4 ปีข้างหน้าว่า นายคัตซูมิ มีสิทธิในการเลี้ยงดูโดยชอบตามกฎหมาย แต่ต้องขึ้นกับกฎหมายญี่ปุ่นว่าจะรับรอง ด.ช.เคอิโงะ ในฐานะใด เนื่องจากกฎหมายญี่ปุ่น มีความเข้มงวดมาก กรณีนี้ ด.ช.เคอิโงะเกิดในประเทศไทยและเกิดกับแม่คนไทย จึงต้องดูข้อกฎหมายครอบครัว กฎหมายสัญชาติ และกฎหมายการเข้าเมืองของญี่ปุ่นว่าเป็นอย่างไร

ในเบื้องต้น หากด.ช.เคอิโงะ เดินทางไปเยี่ยมพ่อที่ประเทศญี่ปุ่น กฎหมายไทยไม่ขัดข้อง แต่อาจต้องไปในฐานะนักท่องเที่ยวก่อน ในส่วนของนางปัทมา จตุพิศ ป้าที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด หากต้องการเป็นผู้พิทักษ์เลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องยื่นคำร้องขอต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อขอเป็นผู้พิทักษ์เลี้ยงดูเด็ก โดยอ้างเหตุผลที่แม่ของเด็กเสียชีวิต