ผลสำรวจเผย ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ สนับสนุนนโยบาย “สวมหน้ากาก 100 วัน” ของโจ ไบเดน
เมื่อโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว หนึ่งคำมั่นสัญญาที่เขาเคยได้ให้ไว้กับประชาชนชาวอเมริกัน คือ นโยบายให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในช่วง 100 วันที่เขาเป็นประธานาธิบดี โดยนโยบายดังกล่าวจะขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ และในระบบโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผลการสำรวจของ Vox และ Data for Progress ระบุว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่มากกว่า 69% สนับสนุนนโยบายนี้
“โจ ไบเดน” จะขอให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากอนามัย “100 วัน”
ผู้ร่วมทำการสำรวจกว่า 72% ชี้ว่า ควรมีนโยบายสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ และ 66% มองว่าควรมีนโยบายที่ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไม่ได้อยู่ในบ้าน
นโยบายสวมหน้ากากอนามัยของไบเดนกำหนดให้คนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ เช่น สำนักงานไปรษณีย์ ศาล และบนรถไฟ ขณะที่รัฐต่าง ๆ สามารถประกาศนโยบายเพิ่มเติมได้ตามสมควร นโบายดังกล่าวปฏิบัติตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ ที่ขอความร่วมมือให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดการแพร่กระจายของละอองฝอย ที่สามารถแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาได้ขณะที่พูด ไอ หรือจาม
ส่วนหนึ่งของแผนการรับมือโรคโควิด-19 ของไบเดน คือมุ่งที่จะจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเปิดเรียนที่ปลอดภัยในช่วง 100 วันแรก โดยประชาชนกว่า 27% มองว่า ควรเปิดโรงเรียนได้แล้วในตอนนี้ แต่ประชาชน 35% ชี้ว่า โรงเรียนควรเปิดเรียน เมื่อมีอุปกรณ์การป้องกันโรคที่พร้อม และอีก 32% ชี้ว่า โรงเรียนควรเปิดเรียน หลังจากประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ในการสำรวจนโยบายโควิด-19 ยังพบว่า ประชาชนกว่า 85% สนับสนุนการได้รับวัคซีนฟรี 78% สนับสนุนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ฟรี ขณะที่ 52% สนับสนุนให้ทำการล็อกดาวน์เป็นเวลา 1 เดือนเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา