เขาทำอะไรกันอยู่ ???

ขณะที่ ไรอัน กิ๊กส์ วัย 35 กะรัตยังคงแสดงถึงความปึ๋งปั๋งและยังช่วยแมนฯยูไนเต็ดอย่างลืมแก่ หรือ แม้แต่ เยนส์ เลห์มันน์ อดีตนายทวารของ อาร์เซน่อล ที่อายุอานามลามไปหลักสี่ก็ยังเฝ้าเสาให้สตุ๊ตการ์ท แต่ก็มีเพื่อนร่วมรุ่นยุคเดียวกันที่หันหลังให้กับวงการไปหลายต่อหลายราย แล้วจะพอมีใครทราบบ้างไหมว่าเขาเหล่านั้นใช้ชีวิตหลังแขวนเกือกันอย่างไรบ้าง

วันนี้ก็เลยนำเอาเรื่องราวชีวิตแบบสั้นหลังพื้นหญ้าอันเขียวขจีเหล่านั้นมา ให้พี่ๆ น้องๆ ได้ทราบกันเพื่อหายคิดถึง แต่บอกนิดนึงนะว่าที่เอามาอาจจะหนักไปแดนผุ้ดีสักหน่อย เพราะดูฟุตบอลครั้งแรกๆ ก็ได้ยินแต่ชื่อพวกเขาเหล่านี้ทั้งนั้น และก็ไม่รอช้ากันเลยดีกว่าไปดูซิว่ามีใคร ?  ทำอะไร ? ที่ไหน ? อย่างไร ? กันบ้าง....

 

 

- เจมี่ เร้ดแน็ปป์ (อายุ 36 ปี)
ด้วย บุคลิกและหน้าตาที่ยังหากินได้ หลังจากเลิกเล่นบอลแล้ว "อดีตกัปตันทีมหงส์แดง" ก็ไปทำงานกับสถานีโทรทัศน์ชื่อดังอย่างสกาย สปอร์ต อยู่พักนึง ตามด้วยปี 2005 ออกมาทำนิตยสารกับ "หลุยส์" แฟนสาวสุดสวย และ ทิม เชอร์วู้ด อดีตคู่ขาในทีมสเปอร์สที่ชื่อว่า "ไอคอน แม็กกาซีน"จากนั้นช่วงเดือน ก.ย. ปี 2007 กลับคืนวงการลูกหนังด้วยการเป็นผู้ช่วยของ อัฟราม แกรนท์ ที่เป็นผู้จัดการทีมของเชลซีช่วงสั้นๆ ถัดจากนั้นอีกหนึ่งเดือนก็ไปรับหน้าที่เป็นพิธีกรรายกาของสถานีโทรทัศน์บีบี ซีที่ชื่อว่า "อะ เควสชั่น ออฟ สปอร์ต" และหลังทำหน้าครบวาระ 1 ปี เร้ดแน็ปป์ ก็ถูกดึงกลับมาที่เชลซีอีกครั้งด้วยการเป็นโค้ชทีมสำรองแทนที่ของ เบรนเด้น ร็อดเจอร์ส ที่โยกไปคุมทีมวัตฟอร์ตในเวลานั้น นอกจากนี้เจ้าตัวกำลังเข้าอบรมหลักสูตรการเป็นโค้ชภายใต้การรับรองของยูฟ่า อีกด้วย

 

- ทิม เชอร์วู้ด (อายุ 40 ปี)
ไหนๆ ก็กล่าวถึงเพื่อนเลิฟอย่าง เร้ดแน็ปป์ ไปแล้วก็ตามต่อด้วยคนนี้ละกัน สำหรับ เชอร์วู้ด ที่เคยติดทีมอังกฤษถึง 3 นัด !!! หลังเลิกเล่นฟุตบอลแล้วก็หันไปเอาดีด้วยการเป็นกูรูลูกหนังพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ให้กับสถานีโทรทัศน์ชื่อดังของประเทศไอร์แลนด์อย่าง เซตานต้า สปอร์ต ก่อนที่ปี 2005 จะร่วมมือกับ เร้ดแน็ปป์และภรรยาออกนิตยสารที่ชื่อ "ไอคอน แม็กกาซีน" แต่ด้วยกลิ่นอายของลูกหนังยังไม่เคยจางหายไป เชอร์วู้ด กลับเข้าวงการอีกครั้งด้วยการเข้ามาเป็นหนึ่งในสต๊าฟฟ์โค้ชของอู่ข้าวอู้น้ำ อย่าง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส โดยการชักจูงของคนรู้จักอีกแล้วก็คือ แฮร์รี่ เรดแน็ปป์ พ่อของเจมี่นั่นเอง ในปี 2008 และล่าสุดได้รับการสถาปนาขึ้นชั้นมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชุดใหญ่ของ สเปอร์สเรียบร้อยแล้ว

 

 

- โทนี่ อดัมส์ (อายุ 42 ปี)
นักเตะ ผู้ภักดีกับอาร์เซน่อลเพียงแค่สโมสรเดียว ลงเล่นไปกว่า 500 เกม ทำให้เขาถูกเลือกเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของสโมสร ภายหลังได้รับปริญญาบัตรสาขาวิทยาศาสตรืการกีฬาที่มหาวิทยาลัยบรูเนล อดัมส์ ก็เข้ารับงานการเป็นกุนซือให้กับทีมวีคอมบ์เมื่อปี 2003 ผลงานในช่วงแรกถือว่าทำได้สวย แต่ระยยะหลังตกต่ำลงเรื่อยทำให้เข้าลาออกจากตำแหน่งใรอีกปีให้หลัง  จากนั้นข้ามฟากไปเป็นโค้ชที่ฮอลแลนด์กับเฟเยนูร์ดร็อตเธอร์ดัมและเอฟซีอูเท ร็ชท์ในช่วงปี 2006 และปีเดียวกันกลับมายังอังกฤษภายใต้การชักจูงของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์กับทีมพอร์ทสมัธ จนมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 2007

หลังจาก เร้ดแน็ปป์ ลาทีมไปคุมสเปอร์ส ทางพอร์ทสมัธก็วางใจให้ อดัมส์ เป็นผู้จัดการทีมแบบเต็มตัว แต่ผลงานที่ออกมาไม่เป็นอย่างที่คาด และถูกปลดกลางอากาศในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2009 ซึ่งปัจจุบันเขารับจ็อบด้วยการเป็นแมวมองให้อาร์เซน่อลด้วยการเสาะแสวงหาดาว รุ่งที่ ฮอลแลนด์,อิตาลี และ ฝรั่งเศส

 

 

- มาร์ติน คีโอวน์ (อายุ 43ปี)
อดีต กองหลังผู้เป็นที่เกลียดชังแบบเข้าไส้ของสาวก "ผีแดง" รายนี้ หลังอำลาถิ่นไฮก์บิวรี่เมื่อปี 2004 ก็ใช้ชีวิตบั้นปลายในตำแหน่งกองหลังให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และ เรดดิ้ง จากนั้นในปี 2005 ก็ใช้เวลาส่วนใหญ่กับครอบครัว ก่อนที่ไม่นานมานี้จะคืนวงการและยังภักดีกับสโมสรและเจ้านายเก่าอย่าง อาร์เซน่อล และ อาร์แซน เวนเกอร์ ด้วยการรับจ็อบแบบพาร์ท-ไทม์ในการเป็นทั้งแมวมองและสต๊าฟฟ์โค้ชให้กับ "ไอ้ปืนใหญ่" รวมถึงการเจียดเวลาไปเป็นกูรูลูกหนังให้กับสถานีบีบีซีอีกด้วย

- ไนเจล วินเทอร์เบิร์น (อายุ 45 ปี)
อดีต แบ็กซ้ายผู้รับใช้อาร์เซน่อลด้วยตัวเลขที่สวยและสูงถึง 440 เกม อำลาถิ่นไฮก์บิวรี่ไปก่อนเพื่อนด้วยการซบเวสต์แฮม ยูไนเต็ดถึง 3 ฤดูกาล ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดเพื่อใช้เวลาที่เหลือกับครอบครัว แต่กระนั้นในเดือนกรกฎาคมปี 2008 ถูก พอล อินซ์ นายใหญ่ของแบ็กเบิร์น โรเวอร์ส เวลานั้น แต่อยูได้ไม่นาน อินซี่ ก็โดนตะเพิดออกจากถิ่นอีวูด พาร์ค หลังทำผลงานห่วย รวมไปถึง วินเทอร์เบิร์น ด้วยที่ทาง แซม อัลลาไดซ์ นายคนใหม่ของแบล็กเบิร์นเองก็ไม่ต้องการ และปัจจุบันเขาใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง เวสตัน เทอร์วิลล์ กับภรรยาและลูกๆ อีกสามคน รวมถึงการรับหน้าที่เป็นกูรูลูกหนังเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นเช่นกัน

- ลี ดิกซั่น (อายุ 45 ปี)
อีกหนึ่ง ตำนาน "แบ็ก โฟร์" ของอาร์เซน่อลรายนี้ก็ได้ดิบได้ดีหลังค้าแข้งเช่นกัน โดยเขาอำลาทีมอย่างเป็นทางการในปี 2002 ด้วยการรับใช้ทีมมากถึง 458 นัด และไม่ลงเล่นให้กับทีมใดเลยหลังย้ายออกจากอาร์เซน่อล โดยปัจจุบันนี้ ดิ๊กซั่น หากินกับสถานีโทรทัศน์บีบีซี ในรายการ "แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์" รวมถึงการเป็นกูรูในคอลัมภ์บนเว็บไซต์ของบีบีซีด้วย

- สตีฟ โบลด์ (อายุ 46ปี)
อดีตตำนาน กองหลังของอาร์เซน่อลอีกราย หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว ก็ขะมักขะเม้นกับการเรียนและอบรมหลักสูตรของการเป็นโค้ชกับยูฟ่า และในปี 2001 เขาก็กลับมาในฐานะสต๊าฟฟ์โค้ชทีมเยาวชนของ "ไอ้ปืนใหญ่" ที่ผลักดันดันดาวรุ่งอย่าง เชส ฟาเบรกาส,กาแอล กลิชี่,ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ขึ้นมาสร้างชื่อในทีมชุดใหญ่ ปัจจุบันรั้งตำแหน่งผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลชุดอายุไม่เกิน 18 ปี และสร้างผลงานด้วยการคว้าแชมป์ลีกเยาวชนและเอฟเอ ยูธ คัพ เมื่อซีซั่นที่แล้ว

- จอห์น บาร์นส (อายุ 45 ปี)
อดีต "ปีกนิลกาฬ" ของลิเวอร์พูลและทีมชาติอังกฤษ ยุติการค้าแข้งกับเซลติกที่สกอตต์ และใช้เวลาช่วงนั้นเรียนรู้ด้วยการเป็นนักเตะและโค้ชควบคู่กันไป ก่อนที่จะมาจับงานจริงๆจังๆ ในปี 2008 นี้เอง ด้วยการเป็นผู้จัดการทีมให้กับบ้านเกิดอย่างเจเมก้า แต่ทำทีมเพียงแค่ 6 เดือนลงจากตำแหน่ง และปัจจุบันเป็นนายใหญ่ใหับสโมสร ทรานเมียร์ โรเวอร์ส ในศึกลีกวัน อังกฤษ โดยมีอดีตเพื่อร่วมทีม "หงส์แดง" อย่าง เจสัน แม็คเอเทียร์ เป็นหนึ่งในสต๊าฟฟ์โค้ชของทีม

- มาร์แซล เดอไซญี่ (อายุ 41 ปี)
อดีต เซ็นเตอร์ฮาล์ฟพันธุ์แกร่งของทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกปี 1998 และอดีต "กัปตัน" ของสโมสรเชลซี ภายหลังไปขุดทองอยู่พักใหญ่เมื่อย้ายออกจากถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็กลับเข้าวงการด้วยการเป็นผู้สันทัดกรณีด้านลูกหนังกับสถานีโทรทัศน์บีบีซี เช่นเดียวกับแข้งเก๋าๆอย่าง อลัน แฮนเซ่น และ อลัน เชียร์เรอร์

- คริสติย็อง การอมเบอ (อายุ 38 ปี)
อดีต มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติฝรั่งเศสที่เคยผ่านการค้าแข้งกับทีมอย่าง รีล มาดริด,ซามพ์โดเรีย และ โอลิมปิก มาแล้ว แม้ชื่อเสยงอาจจะไม่ดังระดับโลก แต่ที่หลายคนอิจฉาก็คือเมียพีแกนี่เนียนเจงๆ ซึ่งหลังจากรีไทร์ในปี 2005 กับสโมสรเล็กๆอย่างบาสเตีย เฮียแกก็มารับงานเป็นแมวมองให้กับพอร์ทสมัธในปี 2006 และล่าสุดตัดสินใจมาหากินกับ "คนบ้านเดียวกัน" อย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ ที่อาร์เซน่อล เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง

 

 

- ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล (45 ปี)
สุดยอดนาย ประตูของแมนฯยูไนเต็ดภายหลังแขวนถุงมือไปแล้วก็ได้ไปร่วมงานกับสถานี โทรทัศน์บีบีซีในรายการ "แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์" ร่วมกับ แกรี่ ลินิเกอร์,อลันแฮนเซ่น และ อลัน เชียร์เรอร์ รวมทั้งการไปเป็นผู้บรรยายเกมแชมเปียนส์ ลีกให้กับสถานีโทรทัศน์ในเดนมาร์กอย่าง ทีวีทรี พลัส (TV3+) ร่วมกับ เพรเบน เอลเคียร์ และ ไบรอัน เลาดรู๊ป นอกจากนี้ในปี 2007 เขาและเพื่อนนักลงทุนยังทุ่มเงินกว่า 33.5 ล้านเหรียญสหรัฐในการครอบครองสโมสรบรอนด์บี้ พร้อมผันตัวเองขึ้นไปเป็นสปอร์ต ไดเร็คเตอร์ ของทีม ส่วนเวลาที่เหลือเขาก็มักจะไปปรากฎตัวตามรายการที่วีที่กล่าวมาอยู่บ่อยๆ

 

 

- ยาป สตัม (อายุ 37 ปี)
อดีตเซ็น เตอร์ฮาล์ฟทีมชาติฮอลแลนด์ที่ถูกอับเปหิจากถิ่น โอลด์แทร็ฟฟอร์ด หลังออกมาแฉ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของทีมในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเอง ภายหลังค้าแข้งกับ ลาซิโอ,เอซี มิลาน และ อาแจ็กซ์ฯ ในช่วงบั้นปลาย สุดท้ายตัวเขาก็กลับมาร่วมงานกับนายเก่าอย่าง "ป๋าเฟอร์กี้" อีกครั้ง ด้วยการเป็นแมวมองให้กับทีม "ปิศาจแดง"โดยประจำอยู่ทวีปอเมริกาใต้เป็นหลัก

- เดนิส เออร์วิน (อายุ 43 ปี)
ฟู ลแบ็กจอมขยันของแมนฯยู อำลาทีมไปเมื่อปี 2002 ก่อนจะพาวูล์ฟแฮมป์ตันเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในพรีเมียร์ ชิพ และ ได้รับการปรบมือต้อนรับอย่างดีจากแฟนๆ เมื่อพาทมีบุกมาเยือนสนาม โลอด์ แทร็ฟฟอร์ด ภายหลังซีซั่น 2003-2004 เออร์วิน ก็แขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ แม้ว่าหน้าตาจะไม่หล่อเหลา แต่ในปี 2004 ก้กลับเขามาทำงานเบื้องหลังให้กับทีม "ปิศาจแดง" ด้วยการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโทรทัศน์ของสโมสรอย่าง เอ็มยูทีวี (MUTV)

เอาเป็นว่าฉบับนี้ก็หอมปากหอมคอกับแข้งดังในพรีเมียร์ชิพสมัยที่เราๆ ยังหน้าเปื้อนสิว ไว้โอกาสหน้าเจอะเจอคนอื่นๆ ที่น่าสนใจรับรองจะนำมาฝากกันอีกแน่นอนครับ ...

จี๊ด-จ๊าด