แม้ว ลั่นปีหน้ากลับมานั่งในสภา หลังวิดีโอลิงค์รับ จิ๋ว เข้าพรรค

แม้ว ขอบคุณ จิ๋ว ช่วยพรรค ให้ส.ส.เก็บข้อมูลทุจริตไว้ซักฟอก

แม้ว ขอบคุณ จิ๋ว ช่วยพรรค

การประชุมพรรคเพื่อไทยประจำสัปดาห์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ซึ่ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรค ได้เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรก โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ทั้งนี้เวลา 15.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วิดีโอลิงค์มายังที่ประชุมนานร่วม 1 ชั่วโมง โดยการกล่าวขอบคุณและต้อนรับ พล.อ.ชวลิต ว่า "รู้สึกยินดีที่มาเป็นผู้ใหญ่ให้กับพรรคเพื่อไทยได้ปรึกษา ให้น้องๆ ได้อบอุ่นใจ ต่อไปนี้มีอะไรที่คิดไม่ออกบอกพี่จิ๋ว โดยหลังการยุบพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน ทีมเอ ทีมบีก็หายไปเหลือทีมซี จึงไปเชิญบรรดาผู้ใหญ่ที่มีความสำคัญมีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง ก็เลยคุยกัน และพล.อ.ชวลิต ก็อาสาเข้ามาช่วยและอาจต้องมีเข้ามาอีก เพื่อให้เราเข้มแข็งขึ้น"

"พี่จิ๋วคิดได้เต็มที่ มีอะไรที่เห็นว่าพรรคต้องปรับก็ขอให้ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยช่วยอำนวยความสะดวก ส่วนคนที่อยู่ก็ไม่ต้องหวั่นไหว หรือห่วงสถานภาพว่าแล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะได้เป็นรัฐมนตรี ไหนจะลูกน้องพี่จิ๋วอีก อีกอย่าไปคิดอย่างนั้น ต้องคิดถึงองค์รวม ขออย่าได้วิตกเพราะพี่จิ๋ว เป็นผู้ใหญ่มีเมตตาสูง เหมือนเบิร์ด พี่จิ๋วรักทุกคน" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

ให้ส.ส.เก็บข้อมูลทุจริตไว้ซักฟอก

รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังแนะนำให้พรรคเพื่อไทยเร่งออกแคมเปญรณรงค์ โดยเชื่อว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน ซึ่ง ส.ส.ต้องยึดความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง และถ้ารัฐบาลยังอยู่ในสภาพนี้ต่อไป การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะได้เกินครึ่ง ก็ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยพรรคเพื่อไทยได้เยอะ ช่วยเสื้อแดงให้เพิ่มจำนวนและมีความแข็งแกร่งขึ้น ส่วนการหาเสียง ได้วางแผนว่า จะปราศรัยผ่านวีดีโอลิงค์ให้เห็นทั้งหน้าและเสียง โดยจะเชื่อมสัญญาณครั้งละ 24 จุด พร้อมกันให้ครอบคลุมทั่วประเทศผ่านเวทีเสื้อแดง เนื่องจากตนเป็นสมาชิก 111 ไทยรักไทยที่ไม่มีเส้น ไม่สามารถเข้าประชุมบ้านพิษณุโลกได้

"อยากเสนอให้ ส.ส.ลงชื่อตามรายกระทรวงที่มีความสนใจ เพื่อมอนิเตอร์หรือติดตามงาน และการทุจริตในกระทรวงเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจประมาณเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ปีหน้า และเพื่อเป็นการศึกษางานก่อนเข้าสู่ตำแหน่งบริหาร สำหรับคนที่ออกจากพรรคไปแล้วไปยกมือให้นายอภิสิทธิ์ ถือว่าเป็นคนล่มเรือไปแล้ว ก็บอกว่าพรรคไม่ดี จะไม่รับกลับมาให้ล่มเรืออีก" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

ลั่นปีหน้ากลับมานั่งในสภา

ข่าวแจ้งว่า ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยได้สอบถามถึงกระแสข่าวที่ว่านายสรอรรถ กลิ่นประทุม แกนนำพรรคภูมิใจไทย จะกลับมาพรรคเพื่อไทยเพื่อช่วยงานภาคกลาง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ตอบติดตลกว่า ถ้ามา ก็ให้ยืนข้างล่าง ไม่ให้ขึ้นตึก และเมื่อ ส.ส.ถามเรื่องผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "ผมจะกลับมานั่งในสภาเอง ปีหน้า"

รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังแสดงความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยเล่นตามเกมของฝ่ายรัฐบาล เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น คิดว่าประชาชนไม่ได้ประโยชน์เลย อย่างมาตรา 190 ซึ่งนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโดนเล่นงานไปแล้ว ตอนนั้นบอกไม่แก้ พอวันนี้รัฐบาลจะโดนเองบ้างก็ผลักดันจะแก้ไข หรืออย่างมาตรา 265-266 ก็ไม่เกี่ยวกับประชาชน มาตรา 237 พรรคพลังประชาชนก็ถูกยุบมาแล้ว ส่วนการทำประชามติ ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณถึง 2 พันล้านบาทท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ต้องกู้เงินต่างชาติมาและรัฐบาลยังต้องโปะงบฯที่ขาดดุลนั้นเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า คิดว่ารัฐบาลทำเพื่อซื้อเวลาเท่านั้น แต่ถ้ารัฐบาลจะทำจริงๆ ก็ให้ถามว่ากล้าหรือไม่ที่จะให้ประชาชนเลือกระหว่างฉบับ 2540 และ 2550

พท.เล็งทาบ เสนาะ ร่วมทีมอีก

นายพายัพ ชินวัตร ประธานคณะกรรมการประสานงานภาคอีสานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า พล.อ.ชวลิต มาช่วยให้ข้อคิด คำแนะนำที่มีประโยชน์กับภาคอีสาน ส่วนจะมาดำรงตำแหน่งใดในพรรคนั้นขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่จะพิจารณา เมื่อถามว่าจะให้พล.อ.ชวลิต มาเป็นขุนพลอีสานของพรรคแข่งกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ใช่หรือไม่ นายพายัพกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน การเลือกตั้งเป็นการใช้สติปัญญา ไม่ได้ใช้กำลัง และสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

ด้านนายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.อีสานได้มีการพูดคุยกันและประเมินว่าการที่ พล.อ.ชวลิต เข้ามาช่วยดูแลพรรคเพื่อไทยถือเป็นเรื่องที่ดีต่อคะแนนนิยม และผลการเลือกตั้งในภาคอีสาน แต่ ส.ส.เห็นว่าทางที่ดีควรที่จะเชิญนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกคนหนึ่งด้วย เพราะเป็นผู้อาวุโสทางการเมืองที่มองเห็นปัญหาของบ้านเมือ