หนุ่มเมาอาละวาด ขอโทษ รพ.เวียงแก่น ยอมรับขาดสติ วอนสังคมให้อภัย
จากกรณีที่นายเฉลิมชัย อายุ 26 ปี ชาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ได้ก่อเหตุอาละวาดทำร้ายเจ้าหน้าที่และทำให้ทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย ขณะเข้าไปรักษาตัวภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเวียงแก่นอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดทางตำรวจสภ.เวียงแก่น ได้มีการควบคุมตัวนายเฉลิมชัย ดำเนินคดีในข้อหา "ทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ,เสพสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นจนเป็นเหตุให้ตนเมาประพฤติตนวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้ขณะอยู่ถนนสาธารณะหรือสาธารณะประโยชน์"
โดยนายเฉลิมชัย ได้ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกับได้กล่าวขอโทษกับทางโรงพยาบาลเวียงแก่น และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทุกคน กับสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไป เพราะเกิดจากการที่ตนสติแตกจากการเมาสุราทำให้ขาดสติในสิ่งที่กระทำลงไป จนทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามที่กระทำกับทางโรงพยาบาล ซึ่งอยากให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและสังคมให้อภัยตนด้วย ซึ่งอยากฝากเตือนคนอื่นๆไม่ควรกระทำอย่างที่ตนกระทำ ดื่มเหล้าหรือเมาแค่ไหนให้อยู่ในสติไม่ทำอย่างที่ตนทำ ซึ่งมันไม่ดีต่อทั้งตนเองและสังคมด้วย
ด้าน น.ส. นภา พยาบาลวิชาชีพซึ่งปฎิบัติหน้าที่ในห้องฉุกเฉินวันเกิดเหตุเล่าว่า วันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้ประสบอุบัติเหตุมาทางศูนย์นเรนทร จึงรับตัวมาเพื่อให้ทางทีมแพทย์ของ รพ.เวียงแก่นทำการรักษา แต่ขณะที่กำลังประเมินอาการทางคนไข้ก็มีอาการอาละวาด พยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ แพทย์จึงจะให้ทำการฉีดยาเพื่อระงับอาการ แต่เมื่อจะทำการฉีดยาปรากฎว่าคนไข้คลุ้มคลั่งหนัก เจ้าหน้าที่จึงพยายามระงับเหตุเพื่อนำตัวออกนอกห้องฉุกเฉิน ป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีราคาแพงได้รับความเสียหาย พร้อมกับแจ้งไปยังตำรวจเพื่อให้มาช่วยระงับเหตุ แต่ด้วยคนไข้เป็นผู้ชายมีแรงเยอะ ทำให้เกิดการชุลมุนทำร้ายเจ้าหน้าที่และทรัพย์สินของโรงพยาบาลดังกล่าว
ขณะที่นายแพทย์กิตติพัฒน์ ลาชโรจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเวียงแก่น กล่าวว่าหลังเกิดเหตุพบว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและมีทรัพย์สินทางราชการเสียหายหลายรายการ จึงได้ทางเจ้าหน้าที่แจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เวียงแก่น ทั้งคดีอาญาและแจ้งเพิ่มเติมในคดีแพ่งด้วย ซึ่งอยากฝากถึงผู้ใช้บริการทุกคน เนื่องจากโรงพยาบาลเวียงแก่นเป็นโรงพยาบาลของรัฐ หน้าที่แพทย์และพยาบาลก็มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ทุกคนมี่ความปรารถนาดีต่อผู้ป่วยทุกคน หากผู้ป่วยกระทำการที่เกินเลย ทางโรงพยาบาลก็จำเป็นต้องดำเนินตามกฎหมาย ซึ่งผู้ก่อเหตุ แม้จะขอโทษแล้ว และทางโรงพยาบาลจะไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ว่าทางคดีก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป