น้ำมันพุ่งดันยอดใช้เอ็นจีวีแตะใกล้4,000ตัน/วัน

น้ำมันพุ่งดันยอดใช้เอ็นจีวีแตะใกล้4,000ตัน/วัน

น้ำมันพุ่งดันยอดใช้เอ็นจีวีแตะใกล้4,000ตัน/วัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ราคาน้ำมันพุ่งดันยอดใช้เอ็นจีวีแตะใกล้ 4,000 ตัน ยอดติดตั้ง 100 คัน/วัน กรมธุรกิจพลังงานยอมรับปั๊มต่างจังหวัดผสมน้ำมันเองหวังได้ส่วนต่างราคา

นาย ปุณณชัย ฟูตระกูล ผู้จัดการฝ่ายตลาดก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ กลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ล่าสุดมีรถติดตั้งเอ็นจีวีรวม 155,000 คัน ยอดใช้ขยับเพิ่มขึ้นมาถึงระดับ 3,900 ตัน/วัน และยอดการติดตั้งได้เพิ่มขึ้นมาถึงระดับ 100 คัน/วันแล้ว จากที่ยอดติดตั้งในช่วงราคาน้ำมันถูก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บางช่วงเหลือเพียง 20 คัน/วันเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วยอดรถที่ติดตั้งเป็นรถโดยสารขนาดใหญ่ รถบรรทุก ในขณะที่รถบ้านก็จะเป็นรถป้ายแดงที่ความนิยมใช้เอ็นจีวีขยับขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ปตท.ยังไม่ได้ขยับเป้าหมายยอดขายเอ็นจีวีตากแผนปัจจุบัน แม้ว่า ครม.จะเห็นชอบไปแล้วทั้งเรื่องการเปลี่ยนแท็กซี่แอลพีจี เป็นเอ็นจีวี 30,000 คัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นใน 9 เดือนข้างหน้า และโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันที่มีเป้าหมายจะเช่าเสร็จสิ้นภายใน 2 ปี ซึ่งในกรณีแท็กซี่หากเปลี่ยนได้ทั้งหมด ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเตรียมการบริการเท่าใดนักเพราะแต่ละคันใช้เอ็นจีวีต่อวัน 20 กิโลกรัม

แต่ที่อาจมีปัญหาหากเตรียมการไม่พร้อม คือ รถเมล์ที่จะต้องใช้เอ็นจีวี/คันประมาณ 100 กิโลกรัม ดังนั้น ปตท.จึงแจ้งไปที่ ขสมก.แล้วว่าให้เร่งส่งมอบพื้นที่สร้างปั๊มเอ็นจีวี 14 แห่งโดยเร็ว แต่หากในช่วงแรกหาก ขสมก.ทยอยเช่ารถเมล์ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าให้ไปใช้ปั๊มในซูเปอร์สเตชั่นที่ในขณะนี้สร้างเสร็จบ้าง แล้ว เช่น สายใต้ใหม่ เป็นต้น

ปัจจุบัน ปตท.มี "ซูเปอร์สเตชั่น" ให้บริการแล้ว 4 แห่ง คือ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนร่มเกล้า ถนนพหลโยธินขาเข้า และถนนพหลโยธินขาออก สามารถรองรับรถยนต์เข้ารับบริการได้มากกว่า 5,000 คันต่อวัน จ่ายก๊าซเอ็นจีวีได้ สูงสุด 230 ตันต่อวัน จำนวน 44 หัวจ่าย โดยสถานีดังกล่าวตั้งอยู่บนแนวท่อขนส่ง จึงสามารถช่วยลดปัญหาเรื่องก๊าซหมด หรือไม่เพียงพอสำหรับให้บริการลูกค้าและ ปตท.เตรียมขยายอีก 2 จุด ได้แก่ คือ ย่านพระราม 9 และกำแพงเพชร 2

ด้านกรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่าจากการตรวจสอบคุณภาพน้ำามันเชื้อเพลิงที่จ้าหน่ายสู่ผู้บริโภคอย่าง สม่ำเสมอ พบปั๊มน้ำมันในหลายพื้นที่มีการนำน้ำมันแก๊สโซฮอล์มาปลอมปนในน้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันดีเซลบี 5 มาปลอมปนในน้ำมันดีเซลธรรมดา ซึ่งมีราคาแพงกว่าเพื่อจำหน่ายโดยหวังผลกำไร อันเป็นการเอาเปรียบผู้ใช้น้ำมันและมีผลเสียต่อรัฐที่ต้องสูญเสียรายได้จาก การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตและต้องจ่ายเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมัน ซึ่งผู้กระทำการทุจริตดังกล่าวมีความผิดฐานจำหน่ายน้ำมันคุณภาพต่ำ

สำหรับปั๊มน้ำมันที่สุจริตขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการซื้อน้ำมันและ ตรวจสอบความถูกต้องของน้ำมันอย่างเคร่งครัด โดยการตรวจสอบใบกำกับสินค้าว่าเป็นน้ำมันชนิดใด และใครเป็นผู้ขนส่งน้ำมัน โดยบันทึกรายละเอียดรถขนส่งน้ำมัน ผู้ขับรถขนส่งไว้ด้วย

หากประชาชนผู้บริโภคพบเห็นผู้ค้ารายใดจ้าหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้ คุณภาพสามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่ส้านักงานพลังงานจังหวัดหรือ กรมธุรกิจพลังงาน สำนักคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง โทร. 0 2547 4324-25 สาหรับโทษตามกฎหมาย ได้แก่ โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีปลอมปนน้ำมัน โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook