เชียงใหม่พบ 2 ชายญี่ปุ่น ติดเชื้อโควิด-19 จากชลบุรี บินสุวรรณภูมิ-ผู้สัมผัส 126 ราย

เชียงใหม่พบ 2 ชายญี่ปุ่น ติดเชื้อโควิด-19 จากชลบุรี บินสุวรรณภูมิ-ผู้สัมผัส 126 ราย

เชียงใหม่พบ 2 ชายญี่ปุ่น ติดเชื้อโควิด-19 จากชลบุรี บินสุวรรณภูมิ-ผู้สัมผัส 126 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(2 ม.ค.63) นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับรายงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย (รายที่ 48 และ 49 ของจังหวัดเชียงใหม่) เป็นชายชาวญี่ปุ่น 2 คน อายุ 59 ปี และ 64 ปี จากการสอบสวนโรคพบไทม์ไลน์ผู้ป่วยมีประวัติเดินทางด้วยกันและไปในพื้นที่เสี่ยงชึ่งเป็นเขตควบคุมโรคสูงสุด หรือเขตสีแดงในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ก่อนจะตรวจพบเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่

  • 28 ธันวาคม 2563 เวลา 10.05-11.25 น. เดินทางจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ สายการบิน Thai Smile เที่ยวบิน WE103 นั่งแถว 53 ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนนั่งรถแท็กซี่ไปอำเภอศรีราชา เข้าที่พักที่โรงแรมในตัวอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และได้เดินทางท่องเที่ยวร้านอาหารและสถานบันเทิงในตัวอำเภอศรีราชา ในช่วงวันที่ 28-29 ธันวาคม 2563
  • 30 ธันวาคม 2563 เดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่ โดยสายการบิน ThaiSmile WE116 สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ เที่ยวบิน 17.10-18.30 นั่งแถว 55 จากนั้นเวลา 19.00 น. เดินทางกลับที่พัก Astra Condo เชียงใหม่ โดยรถแท็กซี่สนามบิน
  • 31 ธันวาคม 2563 พักที่ Astra Condo เป็นส่วนใหญ่ เดินทางเฉพาะไปซื้อของร้าน 7-eleven ใต้คอนโด
  • 1 มกราคม 2564 ไม่มีอาการผิดปกติ แต่เพื่อนร่วมงานแนะนำให้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เดินทางไป รพ.เอกชน โดย Grab เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผลตรวจยืนยันพบการติดเชื้อดังกล่าว ได้เข้ารับการรักษาในห้องแยกความดันลบ ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่


“ผลการสอบสวนโรคพบว่า มีผู้สัมผัสทั้งหมด 126 ราย โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 26 ราย ได้แก่ ผู้สัมผัสในยานพาหนะเที่ยวบิน WE116 สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ วันที่ 30 ธ.ค. 63 จำนวน 25 ราย อยู่ระหว่างการติดตาม, คนขับรถแท็กซี่จากสนามบินไปยังที่พัก จำนวน 1 ราย นัดหมายตรวจวันที่ 4 ม.ค. 2564 นอกจากนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 100 ราย ได้แก่ ผู้โดยสารเที่ยวบิน WE116 สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ วันที่ 30 ธ.ค. 63 จำนวน 88 ราย, ผู้สัมผัสในโรงพยาบาลเอกชน จำนวน 12 ราย ได้แจ้งให้สังเกตอาการและสามารถรับการตรวจได้หาเชื้อโควิด-19 ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน” สสจ.เชียงใหม่ กล่าว

ส่วนกรณีพบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดลำพูน มีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องเดินทางมาในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากการสอบสวนโรค ทราบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวอายุ 29 ปี เพศหญิง ภูมิลำเนา จ.ลำพูน มีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดระยอง ในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 โดยสารสายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน SL510 เวลา 12.45-14.00 น. ดอนเมือง-เชียงใหม่ และเดินทางกลับที่พักที่ อ.แม่แจ่ม โดยรถส่วนตัว ระหว่างวันที่ 21-22 ธ.ค. 2563 ได้พักอยู่ที่บ้านพักตลอด

วันที่ 23 ธ.ค. 2563 ได้เดินทางกลับบ้านที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน โดยรถยนต์ส่วนตัว ทราบข่าวการระบาดที่ จ.ระยอง จึงลงทะเบียนขอตรวจกับคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเข้ารับการตรวจ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 หลังรับการตรวจ เดินทางกลับบ้านที่อำเภอลี้ จ ลำพูน ภายหลังทราบผลตรวจยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลลี้ จ. ลำพูน

สำหรับการค้นหาผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายดังกล่าว พบผู้สัมผัสทั้งหมด 138 ราย (กลุ่มเสี่ยงสูงผลลบ 10 ราย รอผล 3 ราย และสังเกตอาการในกลุ่มเสี่ยงต่ำ 125 ราย)

“จากสถานการณ์ปัจจุบันทั้งในระดับประเทศและในจังหวัดเชียงใหม่ขอแนะนำให้เข้มงวดในการเว้นระยะห่าง งดเว้นการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยไม่จำเป็นโดยเฉพาะสถานที่มีคนหมู่มาก สวมหน้ากาก 100% ล้างมือด้วยเจลหรือสบู่บ่อยๆ ในทุกโอกาสที่เป็นไปได้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มีการประเมินสถานการณ์ทุกวันและมีแนวทางที่จะยกระดับการป้องกันโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ให้สูงขึ้นเพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ให้มากที่สุด” นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook