#หมอชนะ สนั่นทวิตเตอร์ สวดยับรัฐบาล หลังขู่ชาวบ้านไม่โหลดแอปเข้าข่ายฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

#หมอชนะ สนั่นทวิตเตอร์ สวดยับรัฐบาล หลังขู่ชาวบ้านไม่โหลดแอปเข้าข่ายฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

#หมอชนะ สนั่นทวิตเตอร์ สวดยับรัฐบาล หลังขู่ชาวบ้านไม่โหลดแอปเข้าข่ายฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แฮชแท็ก #หมอชนะ ที่กล่าวถึงแอปพลิเคชันสำหรับติดตามตำแหน่งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ถูกพูดถึงอย่างมากในหมู่ผู้ใช้เว็บไซต์ทวิตเตอร์ในไทย จนติดกระแสความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในวันนี้ (7 ม.ค.)

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวเมื่อช่วงสายวันนี้ (7 ม.ค.) ว่าหากผู้ใครก็ตามที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด แล้วเจ้าหน้าที่พบว่าไม่ได้ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)

ไม่ใช่ทุกคนจะมีสมาร์ทโฟน

ผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนวิจารณ์ว่า คำขู่ดังกล่าวอาจมากเกินไป และเป็นการใช้อำนาจที่ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน อย่างเช่น ความเห็นนี้ที่มองว่า คนไทยไม่ได้มีสมาร์ทโฟนใช้ทุกคน และถ้าหากผู้ติดเชื้อเป็นผู้สูงอายุ หรือคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน และไม่มีเงินพอซื้อสมาร์ทโฟน จะต้องเข้าคุกโดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิดหรือไม่

ไม่จับขบวนการค้ามนุษย์-บ่อน?

หลายความเห็นบอกว่า คนที่รัฐบาลควรจับกุมมากที่สุด คือ ขบวนการลักลอบขนแรงงานจากต่างชาติเข้ามา และขบวนการบ่อนพนัน ที่ยังผิดกฎหมายในไทย มากกว่า

"หมอชนะแต่ฉันแพ้"

อีกความเห็นหนึ่งเสนอทางเลือกว่า ควรแนะนำให้ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจดสถานที่ที่ตัวเองไปลงในกระดาษหรือสมุด แทนข่มขู่ให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้จะมีแอปพลิเคชันก็แม่นยำ บางครั้งหน่วยงานรัฐกลับไม่เปิดเผยสถานที่ในไทม์ไลน์อย่างชัดเจน เช่น ระบุว่าเป็นสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ดี ไม่ก็มีการลบสถานที่บางแห่งออกจากไทม์ไลน์ โดยอ้างว่าจะถูกผู้ประกอบการฟ้อง ตามที่มีข่าวนำเสนอไปก่อนหน้านี้หลายสำนัก

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่ทดลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว ก็ระบุว่า คำถามคัดกรองและตรวจสอบความเสี่ยงของผู้ใช้งาน ก็ยังกว้างมาก จนไม่คิดว่าจะช่วยคัดกรองความเสี่ยงได้จริงๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook