สหรัฐปรับโบอิงอ่วม 7.5 หมื่นล้าน ฐานฉ้อโกง-ปิดข้อบกพร่อง 737 แมกซ์ จนคนตายหลายร้อย

องค์การบริหารการบินกลาง (เอฟเอเอ) ของสหรัฐ ปรับเงิน โบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินชื่อดัง ด้วยวงเงิน 2,500 ล้านดอลลาร์ (75,200 ล้านบาท) โดยอ้างว่าบริษัทนี้หากำไรจากการปกปิดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับข้อบกพร่องของเครื่องบินรุ่น 737 แมกซ์

ที่ผ่านมา เครื่องบินรุ่น 737 แมกซ์ ถูกหน่วยงานการบินของหลายประเทศทั่วโลกสั่งห้ามบินเมื่อเดือน มี.ค. 2563 หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินตกในอินโดนีเซียและเอธิโอเปีย จนมีผู้เสียชีวิต 346 คน

นายเดวิด เบิร์นส รักษาการรองผู้อำนวยการหน่วยอาชญากรรมกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ แถลงว่า

"เหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบินไลอ้อน แอร์ เที่ยวบิน 610 และเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 302 ที่น่าสลดใจ เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ฉ้อโกงและปิดบังที่เกิดจากน้ำมือพนักงานของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชย์แถวหน้าของโลก"

ต่อมาเมื่อเดือน มี.ค. 2563 การสอบสวนของรัฐสภาสหรัฐก็สรุปว่าภายในบริษัทโบอิง มีวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการปกปิดข้อบกพร่องและละเลยอย่างมากในการควบคุมดูแลการพัฒนาเครื่องบินรุ่น 737 แมกซ์ 

เมื่อเดือน ต.ค. 2563 นายริชาร์ด บลูเมนธอล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สหรัฐ ก็กล่าวหาโบอิงด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่า โบอิงไม่ได้ขายเครื่องบินแต่ขาย "โลงศพเหาะได้" ที่เกิดจากจงใจปกปิดข้อมูลข้อบกพร่องของเครื่องบินไม่ให้นักบินรู้

ด้านโบอิง ยอมรับว่าหัวหน้าฝ่ายเทคนิค 2 คนของบริษัทปิดบังเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับข้อบกพร่องของระบบป้องกันสภาวะร่วงหล่น MCAS ของเครื่องบินรุ่น 737 แมกซ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทั้ง 2 ครั้งดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์เครื่องบินตกทั้ง 2 ครั้งนี้เกิดขึ้นคล้ายกัน คือ เมื่อนักบินนำเครื่องบินขึ้นไม่นาน เครื่องบินก็ดิ่งหัวลงสู่พื้นในขณะที่นักบินก็ควบคุมเครื่องบินไม่ได้เพราะข้อบกพร่องของระบบดังกล่าว

บริษัทนี้เผยอีกว่า ที่ผ่านมา มีการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวแล้ว และเครื่องบินรุ่นนี้กลับมาให้บริการในสหรัฐได้เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา

ค่าปรับ 2,500 ล้านดอลลาร์นี้ รวมค่าไกล่เกลี่ย 2,200 ล้านดอลลาร์ (ุ66,154 ล้านบาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับครอบครัวเหยื่อของ 2 เที่ยวบินมรณะดังกล่าว และค่าปรับจริงๆ ประมาณ 243 ล้านดอลลาร์ (ุ7,300 ล้านบาท)

ด้านทีมทนายความของครอบครัวเหยื่อที่โดยสารกับสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส ขอไม่รับเงินค่าไกล่เกลี่ยดังกล่าว และบอกว่าจะดำเนินคดีกับโบอิงต่อไป ทั้งยังระบุด้วยว่า เครื่องบิน 737 แมกซ์ ไม่ควรนำกลับมาใช้ให้บริการจนกว่าจะมีการแก้ไขข้อผิดพลาดของเครื่องบินและผ่านกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยจากบุคคลภายนอกที่มีความโปร่งใส ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ยังไม่เกิดขึ้น