คลังล้อมคอกเพิ่มค่าต๋งใบอนุญาตร้านเหล้า
รมช.คลังลงพื้นที่ ตรวจสอบร้านเหล้ารอบบริเวณมหาวิทยาลัยชื่อดัง เตรียมล้อมคอกปรับเพิ่มค่าใบอนุญาตจากสรรพสามิต 200 บาท เป็น 3,600-7,200 บาท หลังพบร้านเหล้าแห่ขอใบอนุญาตปีนี้เกือบ 5 หมื่นแห่ง
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังออกตรวจสถานบริการจำหน่ายสุราบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงมหาวิทยาลัยชื่อดัง หลังได้รับร้องเรียนว่ามีการเปิดให้บริการจำนวนมาก และบางส่วนไม่ได้รับใบอนุญาต ว่า ปีนี้กรมสรรพสามิตได้ออกใบอนุญาตขายสุราไปเกือบ 5 หมื่นราย ซึ่งในจำนวนนี้พบว่ามีร้านเหล้าจำหน่ายใกล้สถานศึกษาจำนวนมาก เพราะขั้นตอนการออกใบอนุญาตการจำหน่ายปลีกสุรายังง่ายเกินไป จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตใช้ดุลพินิจในการอนุมัติใบอนุญาตให้เข้มงวดขึ้น และกระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเพิ่มเพดานอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราจาก 200 บาทต่อปี เป็น 3,600-7,200 บาทต่อปี ซึ่งการพิจารณาใบอนุญาตจะให้ปีต่อปีอยู่แล้ว เมื่อมีการมายื่นขออนุญาตในครั้งหน้าจะพิจารณาว่า หากพบว่าตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษา ศาสนสถาน ต้องพิจารณาอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2552 กรมสรรพสามิตออกใบอนุญาตขายปลีกสุราในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้แก่ผู้ขอใบอนุญาตขายสุรา ประเภทที่ 3 คือขายปลีกสุราที่ผลิตในประเทศและต่างประเทศจำนวน 13,577 ราย และประเภทที่ 4 ขายปลีกสุราที่ผลิตในประเทศไทย จำนวน 33,937 ราย รวมกว่า 47,500 ราย มีรายได้จากส่วนนี้ได้กว่า 4 ล้านบาท
"พบว่ามีร้านขายเหล้าปั่น ซึ่งได้รับความนิยมจากวัยรุ่นและนักศึกษาหญิงจำนวนมาก ตามกฎหมายการเปิดร้านจะต้องขอใบอนุญาตจากกรมสรรพสามิตด้วย แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่รู้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการรับข่าวสารยังไม่ทั่วถึงและเจ้าหน้าที่อาจไม่เข้มงวด หลังจากนี้กรมสรรพสามิตจะตรวจสอบอย่างจริงจัง รวมไปถึงจะกำหนดเงื่อนไขในการขอใบอนุญาตจำหน่ายสุราและยาสูบด้วย" นพ.พฤฒิชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2552 กรมสรรพสามิตจับกุมผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.สุรา 27,336 คดี เป็นเงินค่าปรับ 97 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,472 คดี หรือ 5.69% เม็ดเงินเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาท โดยร้านขายสุราที่กระทำความผิดไม่ขอใบอนุญาตหรือผิดเงื่อนไข จะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตและหยุดพักให้ใบอนุญาตถึง 5 ปี