น้ำท่วมภาคใต้ สงขลา-ยะลา-นราธิวาส-ปัตตานี จมบาดาล เดือดร้อน 5 หมื่นครัวเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณชายฝั่งสหพันธรัฐมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2564 – ปัจจุบัน (9 มกราคม 2564 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และดินสไลด์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 31 อำเภอ 171 ตำบล 908 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 51,078 ครัวเรือน มีผู้สูญหาย 1 ราย (สงขลา) บาดเจ็บ 2 ราย (สงขลา) ไม่มีผู้เสียชีวิต
สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แบ่งเป็น พื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 4 จังหวัด รวม 30 อำเภอ 150 ตำบล 806 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 51,021 ครัวเรือน จุดอพยพ 7 จุด ผู้อพยพ 391 คน (นราธิวาส 3 จุด ยะลา 2 จุด สงขลา 2 จุด) ดังนี้
- นราธิวาส น้ำไหลหลากในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่อำเภอศรีสาคร อำเภอบาเจาะ อำเภอระแงะ อำเภอสุไงปาดี อำเภอรือเสาะ อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอจะแนะ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอยี่งอ และอำเภอตากใบ รวม 65 ตำบล 401 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,308 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- ยะลา น้ำไหลหลากในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอกรงปีนัง อำเภอธารโต และอำเภอเบตง รวม 50 ตำบล 246 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 12,082 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- สงขลา น้ำไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอนาทวี และอำเภอเทพา รวม 19 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,549 ครัวเรือน มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ระดับน้ำลดลง
- ปัตตานี น้ำไหลหลากในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอแม่ลาน อำเภอสายบุรี อำเภอหนองจิก อำเภอกะพ้อ อำเภอไม้แก่น และอำเภอยะรัง รวม 16 ตำบล 101 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,082 หมู่บ้าน ระดับน้ำทรงตัว
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 2 จังหวัด ได้แก่ ยะลา และนราธิวาส รวม 3 อำเภอ 7 ตำบล 22 หมู่บ้าน ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ซึ่งสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
ขณะที่ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยระดมเครื่องจักรกลและเครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่ เพื่อเร่งระบายน้ำ และให้การดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิ
นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่ และประเมินความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป