เร่งตามล่า 3 สาววัยรุ่นชาวโรฮีนจา งัดประตูหนีจากสถานที่กักตัว ยังไม่ได้ตรวจโควิด-19

เร่งตามล่า 3 สาววัยรุ่นชาวโรฮีนจา งัดประตูหนีจากสถานที่กักตัว ยังไม่ได้ตรวจโควิด-19

เร่งตามล่า 3 สาววัยรุ่นชาวโรฮีนจา งัดประตูหนีจากสถานที่กักตัว ยังไม่ได้ตรวจโควิด-19
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(10 ม.ค.63) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 424/1 หมู่ 7 ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถานที่จับกุมบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา สัญชาติโรฮีนจา เป็นหญิงจำนวน 3 ราย ที่ถูกนายหน้านำมาให้พักอาศัยหลบหนีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา แต่กลับพบว่าช่วงเที่ยงวันที่ 10 ม.ค. ทั้ง 3 คนได้หลบหนีออกจากบ้านหลังนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เป็นจุดกักตัวหลังจับกุมเนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนย้ายตัวได้ จนกว่าจะผ่านการตรวจสอบทางสาธารณสุขอย่างปลอดภัยแล้ว

โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในบ้านพบเพียงเสื้อผ้า ของใช้ในครัว ข้าวสาร อาหารกระป๋อง เครื่องยังชีพจำนวนมากซึ่งน่าเชื่อว่ามีบุคคลอาศัยอยู่มากกว่า 3 คน ส่วนการจับกุมที่เกิดขึ้นวานนี้ พันตำรวจเอกสิชา พูลวงษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียรใหญ่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านหลังนี้หลังจากได้รับการร้องเรียนว่า พบชาวต่างด้าวอาศัยอยู่อย่างผิดปกติ หลังจากเข้าตรวจสอบภายในบ้านพบชาวโรฮีนจาจำนวน 3 คน เป็นเยาวชนหญิงอายุ 16 ปี 2 คน และ 17 ปี 1 คน โดยการจับกุมไม่พบเอกสารประจำตัว ไม่พบเอกสารการเดินทาง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พบข้อมูลทางการสืบสวนเบื้องต้นว่าได้มีนายหน้านำพาชาวโรฮีนจากลุ่มนี้ไปส่งต่อยังประเทศมาเลเซีย โดยมาเช่าบ้านในพื้นที่เพื่อรอส่งตัวเดินทางไปยังจุดหมาย

เจ้าหน้าที่คัดกรองเบื้องต้นอุณหภูมิร่างกายปกติ เจ้าหน้าที่ได้ประสาน รพ.เชียรใหญ่ เข้าเก็บตัวอย่างส่งตรวจเชื้อโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายทั้ง 3 รายไปยังห้องควบคุมได้เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยทางการสาธารณสุขจึงสั่งให้กักตัวในบ้านที่เกิดเหตุ และมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังการหลบหนี แต่ในที่สุดทั้ง 3 รายได้หลบหนีไปได้ โดยน่าเชื่อว่าน่าจะมีการติดต่อให้นายหน้าหรือผู้เกี่ยวข้องมารับตัวหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบอย่างเร่งด่วนแล้ว ขณะที่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงบ้านหลังดังกล่าว ให้ข้อมูลว่ามีชาวต่างด้าวมาพักอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ซ้ำหน้า แต่ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งเกิดโรคระบาดด้วยความหวาดกลัวจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ


 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook