ณัฐชนน​ รับทราบข้อหา ม.112 เพนกวินไปให้กำลังใจ ถูกปรับ 400 บาทเหตุใช้รถยนต์เก่า

ณัฐชนน​ รับทราบข้อหา ม.112 เพนกวินไปให้กำลังใจ ถูกปรับ 400 บาทเหตุใช้รถยนต์เก่า

ณัฐชนน​ รับทราบข้อหา ม.112 เพนกวินไปให้กำลังใจ ถูกปรับ 400 บาทเหตุใช้รถยนต์เก่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ณัฐชนน ไพโรจน์" เข้ารับทราบข้อหา มาตรา​ 112​ กรณีครอบครองหนังสือปกแดง​ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะตำรวจคลองหลวง​ ปรับ​ "เพนกวิน" 400 บาท ฐานใช้รถยนต์เก่าชวนคนให้กำลังใจ

ที่สถานีตำรวจภูธร​ หรือ ​สภ.คลองหลวง​ จังหวัดปทุมธานี​ ณัฐชนน ไพโรจน์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา​ คดีอาญามาตรา 112​ จากการครอบครองหนังสือปกแดง​ "ปรากฏการณ์สะท้านฟ้า 10 สิงหา ข้อเรียกร้องว่าด้วยสถาบันกษัตริย์" มากกว่า 40,000 เล่ม ที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เตรียมนำไปแจกในการชุมนุมในวันที่​ 19​ ก.ย.​ 2563​ โดยคดีนี้มี นรเศรษฐ์​ นาหนองตูม​ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย

ณัฐชนน และนรเศรษฐ์​ ในฐานะทนายความ​ กล่าวตรงกันว่า รอดูการแจ้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนก่อนจะกำหนดท่าทีว่าจะสู้คดีอย่างไร​ แต่ก็ยืนยันว่า​ ณัฐชนน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปราศรัยหรือเนื้อหาที่ถอดออกมาเป็นหนังสือปกแดง​ เพียงแต่ดูแลในการจัดส่งเพื่อแจกจ่าย​ จึงไม่น่าจะเข้าข่ายความผิดอาญามาตรา 112 ส่วนเนื้อหาหนังสือการปฏิรูปสถาบันนั้นต้องพิสูจน์กันในชั้นศาล​ และยังต้องจับตาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 112 กับคนอื่นอีกหรือไม่​ เพราะวันที่ 19 ก.ย. 2563 ที่ตำรวจยึดหนังสือโดยไม่มีหมายศาลนั้น​ มีผู้อยู่ร่วมกับณัฐชนนอีกหลายคน ซึ่งครั้งนี้จึงยังไม่เข้าใจว่า​ เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีกับณัฐชนนคนเดียวด้วย

ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

โดยหลังจากรับทราบข้อกล่าวหา ณัฐชนน​ ให้สัมภาษณ์​ ว่า​ ตนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นัดสอบปากคำเพิ่มเติมวันที่ 11 ก.พ. แต่ในฐานะผู้ต้องหาเห็นว่า​ เวลากระชั้นชิดเกินไป ตนเอาเสียสิทธิ์ในการต่อสู้คดีจึงไม่ลงลายมือชื่อรับทราบวันนัดหมายของตำรวจ​ และจะให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 45 วันตามกฎหมาย


ปรับ​ "เพนกวิน" 400 บาท ใช้รถยนต์เก่า

ขณะที่แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม​ นำโดย​ พริษฐ์​ ชิวารักษ์​ หรือ​ "เพนกวิน" นำรถขนเครื่องขยายเสียงและจอโปรเจคเตอร์เพื่อทำกิจกรรมให้กำลังใจนายณัฐชนน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ใช้เสียงภายใน​พื้นที่​ สภ.คลองหลวง​ และได้ยึดจอโปรเจคเตอร์ ไว้​ ทำให้มีการต่อรองกันกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่ณัฐนนท์และทนายความจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม​ ได้ย้ายเครื่องเสียงและลำโพงมาเปิดเพลง บริเวณฟุตบาทหน้า​สภ.คลองหลวง​ และตำรวจได้ปรับเงิน 400 บาท​ ตามกฎหมายรถยนต์เนื่องจากรถมีสภาพทรุดโทรม​ โดยเบื้องต้นไม่ได้ดำเนินคดีหรือปรับข้อหาใช้เครื่องขยายเสียง, พ.ร.บ.จราจรหรือที่เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมชุมนุมแต่อย่างใด​ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook