ปธ.วิปฝ่ายค้าน ทำใจ"ถูกปลด"

ปธ.วิปฝ่ายค้าน ทำใจ"ถูกปลด"

ปธ.วิปฝ่ายค้าน ทำใจ"ถูกปลด"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปธ.วิปฝ่ายค้าน ทำใจ"ถูกปลด"

"แม้ว"ยืนกรานไม่แก้รธน. "เฉลิม"ไขก๊อกประธานส.ส.



" เพื่อไทย"ร้าวหนักปมเห็นต่างแก้ รธน. "เฉลิม"ไขก๊อกประธาน ส.ส. "วิทยา"ติงอย่าคิดชั้นเดียว ปลงอาจถูกเขี่ยพ้นตำแหน่ง "การุณ"ซัด ปธ.วิปฝ่ายค้านอ่านสัญญาณ"แม้ว"ไม่ออก เผยโฟนอินเข้าที่ประชุมพรรคบอกชัดเจน

"ชัย"ยังไม่เซ็นตั้งสำนักกม.2สภา

ความ คืบหน้ากรณีคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย คือ วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา มีมติให้ทำหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักกฎหมายทั้ง 2 สภา เป็นกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อ ปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็นนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การแต่งตั้งฝ่ายกฎหมายเป็นกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯได้ส่งเรื่องให้นายชัย พิจารณาแล้วในช่วงเช้าวันที่ 9 ตุลาคม ซึ่งกรอบการยกร่างและกรอบเวลาเป็นไปตามที่วิป 3 ฝ่ายมีมติไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม คือ ยกร่าง 2 แบบ ได้แก่ แบบร่างเดียว 6 ประเด็น และแบบแยกร่างละประเด็นจำนวน 6 ร่าง และข้อสังเกตในการแก้ไขกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินการยกร่างและนำผลมาประชุมร่วมกับวิป 3 ฝ่าย ในวันที่ 22 ตุลาคม จนถึงขณะนี้นายชัยยังไม่ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง เนื่องจากกำลังรอหนังสือจากนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประธานวิปรัฐบาล ที่จะส่งมติของวิป 3 ฝ่ายมาให้ก่อน

ผู้ สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์สอบถามไปยังนายชัยในช่วงเย็น เนื่องจากมีรายงานว่านายชินวรณ์ส่งหนังสือแจ้งผลมติวิป 3 ฝ่ายไปยังนายชัยแล้ว แต่ปรากฏว่านายชัยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่ากำลังประชุมอยู่และตัดสายทิ้งทันที

"สุเทพ"ย้ำแก้รธน.ต้องฟัง"ปชช."

นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยังประกาศคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าอย่าเพิ่งรีบไปกังวลใจ ขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศที่จะชี้นำ ทุกฝ่ายต้องฟังเสียงของประชาชน ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนท่าทีมาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยนั้น ต้องให้เวลาพรรคเพื่อไทยพิจารณาด้วย เมื่อถามว่า เป็นการกลับมาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญตามใบสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่เห็นใบสั่ง

ซัด"เหลิม"มองการเมืองชั้นเดียว

นาย วิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ประธานวิปฝ่ายค้านตามที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้ทำเกินหน้าที่ สิ่งที่พูดก็พูดตามความจริงในการประชุมพรรควันที่ 13 ตุลาคม ผู้ใหญ่คงได้หารือเร่งด่วนประชุม ส.ส. และถ้ามติพรรคออกมาอย่างไรก็พร้อมรับฟัง

"จริงๆ แล้วผมไม่ได้มีความเห็นแตกต่างไปจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง (ส.ส.สัดส่วนและประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย) คือถ้าจะทำประชามติใน 6 ประเด็น ซึ่งจะต้องเสียงบประมาณถึง 2 พันล้านบาท ผมก็ไม่เห็นด้วย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น ตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯเสนอนั้น ที่ประชุมเห็นว่าให้ทุกฝ่ายไปยกร่างมาจากนั้นก็ไปเสนอต่อพรรค ถ้ายกร่างไม่ดี อาจไม่เอาเลยก็ได้ หรือถ้ารัฐบาลยึกๆ ยักๆ ก็โดดหนี ตัวใครตัวมัน ไม่เอาด้วยเหมือนกัน ผมว่าอย่าเพิ่งใจร้อน เพราะโดยหลักการต้องเป็นเช่นนี้" นายวิทยากล่าว

เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเห็นว่าควรถอนตัวเลยเพราะการแก้ไข 6 ประเด็นไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน นายวิทยากล่าวว่า ถ้าแก้แล้วการเมืองนิ่ง แข็งแรง การเมืองมั่นคง การลงทุนเริ่มดีขึ้น ถามว่ามีประโยชน์หรือไม่ แล้วจะพูดได้ยังไงว่าไม่ดี อย่าไปคิดแค่ชั้นเดียว พรรคเพื่อไทยควรเคารพความเห็นของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ที่ ร.ต.อ.เฉลิมลาออกนั้นเกี่ยวกับกรณีที่ประธานวิปแถลงหักหน้า นายวิทยากล่าวว่า คงไม่ใช่ ประธาน ส.ส.มีอำนาจเหนือประธานวิปฝ่ายค้าน สามารถสั่งปลดประธานวิปฝ่ายค้านยังได้ ซึ่งไม่แน่วันสองวันนี้ประธานวิปอาจถูกปลดก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน คงเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า การที่ใครจะเข้าจะออกเป็นเรื่องของพรรค

"หญิงหน่อย"อ้างไม่รู้เรื่อง

นาย ดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่มีรายงานข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นหนึ่งในจำนวนอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่เข้าประชุมที่อาคารชิน วัตร 3 ก่อนจะมีคำสั่งให้นายวิทยาแถลงเปลี่ยนท่าทีสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าไม่เป็นความจริง คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้สั่งการ โดยคุณหญิงสุดารัตน์ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับ 6 ประเด็นอยู่แล้ว และสนับสนุนการเอารัฐธรรมนูญ 2540 มาใช้อยู่แล้ว

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย และวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนและนายวิทยา ไม่ได้เข้าประชุมพรรคเพราะอยู่ต่างประเทศและไม่ได้รับแจ้งมติอย่างเป็นทาง การ ถ้าได้รับแจ้งประธานวิปฯต้องปฏิบัติตาม

"แม้ว"ไม่หนุนแก้6มาตรา

เมื่อ เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ย่านทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านระบบวิดีโอลิ้งค์ในงานสัมมนา "ทางรอดวิกฤติ เอสเอ็มอีไทย" จัดโดยพรรคเพื่อไทย มีผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีประมาณ 200 คน เข้ารับฟัง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวตอนหนึ่งว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังมานั่งเถียงกันว่า 6 มาตรามีอะไรบ้าง แค่ต่ออายุ ส.ว. พวงเล็กหรือพวงใหญ่ ยุบพรรค ม.190 สรุปแล้วยังไม่เห็นมีอะไรที่เป็นประชาชนเลย แต่บอกว่าจะใช้สองพันล้านบาทไปทำประชาพิจารณ์เพื่อให้อยู่ต่อนานอีกหน่อยไม่ ได้ประโยชน์ ทำอย่างนี้ความวุ่นวายหายไหม ส.ว.ยังวุ่นกันอยู่จะเอาพวงเล็กพวงใหญ่ ไม่จบหรอก แต่ของที่ผ่านกระบวนการประชาชนมาแล้วอย่างรัฐธรรมนูญ 2540 กลับฉีกทิ้ง แล้วเอาของไม่ดีมาใช้ การลงทุนที่มาบตาพุดมีปัญหาเพราะรัฐธรรมนูญ 2550

พ. ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า อยากแนะนำรัฐบาล แต่พอบอกซ้ายก็จะไปขวาอีก แต่วันนี้ประเทศไทยคอร์รัปชั่นสูงมากทุกเรื่อง เพราะได้ยินมาว่าผู้ว่าราชการจังหวัด 9 ล้านบาท โดยไปขอเอาจากผู้รับเหมาในจังหวัดมาจ่ายก่อน ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ไปไม่รอด เพราะถ้าภาคเอกชนตายมันก็ตาย เพราะกลไกรัฐตายมันก็หมดแล้วจะแย่ลงทุกวัน จึงต้องให้ความสำคัญกับภาคเอกชนและประชาชน

"เฉลิม"ลาออกปธ.ส.ส.เพื่อไทย

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกัน มีโทรสารจากบ้านริมคลองของ ร.ต.อ.เฉลิม แจกจ่ายไปยังสื่อมวลชน โดยเป็นรายละเอียดของหนังสือลาออกจากการทำหน้าที่ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยของ ร.ต.อ.เฉลิม ใจความในหนังสือระบุว่า "ตามที่ ส.ส. กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรค ได้กรุณามอบความไว้วางใจให้กระผมทำหน้าที่ในตำแหน่งประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาตามลำดับ บัดนี้กระผมได้ทำหน้าที่ดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาอันสมควร ประกอบกับมีภารกิจอันสำคัญ ซึ่งจะทำให้การทำหน้าที่ขาดประสิทธิภาพ จึงขอลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคได้คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมมาทำหน้าที่แทน

สำหรับ บรรยากาศที่บ้านพักของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่เขตบางบอน หลังการประกาศลาออกจากประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ได้มีสื่อมวลชนไปรอสัมภาษณ์ แต่ไม่ได้เปิดบ้านแต่อย่างใด โดย ร.ต.อ.เฉลิมเดินออกกำลังกายอยู่ภายในบ้านและได้ให้คนมาแจ้งกับสื่อมวลชนว่า "วันนี้ไม่มีอะไรจะพูด ปัญหาทุกอย่างจบแล้ว"

ฉุน"ปธ.วิปฯ"อ่านสัญญาณ"แม้ว"ไม่ออก

นาย การุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีแนวทางที่ชัดอยู่แล้วเพราะแมสเซสจากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ ส.ส.ได้รับมาทุกคนแหมือนกันคือ ไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เพราะแก้ไขไปไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน แต่ต้องเอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ให้ได้ โดยในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะชูแคมเปญหาเสียงว่าหากเลือกพรรค เพื่อไทยเกินครึ่งจะนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้

"ผมเพิ่งไปดูไบมา สดๆ สัญญาณก็ชัดว่าไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 หากใครไปคุยกับท่าน (พ.ต.ท.ทักษิณ) จะชัดเจนเลยว่าท่านไม่อยากให้เราไปแก้ไขรัฐธรรมนูญตอนนี้ เพราะแก้ไขไปไม่ได้เป็นประโยชน์กับประชาชน ผมไม่เข้าใจว่าประธานวิปฯ (นายวิทยา บุรณศิริ) ก็เพิ่งไปดูไบมาเหมือนกัน และในวันที่ท่านโฟนอินเข้ามาในที่ประชุมพรรค (6 ตุลาคม) บอกว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ประธานวิปฯ ก็อยู่ด้วย แล้วทำไมประธานวิปฯถึงยังสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่" นาย การุณกล่าว

"จตุพร"บอกเพื่อไทยไม่โง่ตาม"ปชป."

ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลทำประชามติควรเลือกถามว่าจะเอารัฐธรรมนูญปี 2540 หรือ 2550 เท่านั้น พรรคเพื่อไทยจะทำตาม แต่ปัญหาต้องแก้รัฐธรรมนูญโดยนำปี 2540 มาเป็นตัวตั้งจะทำให้ทุกอย่างจบได้ เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยยังมีความเห็นต่างใน 2 ฝ่ายใช่หรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า เข้าใจว่าเส้นทางประชาธิปไตยต้องรู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เพราะหน้าที่พรรคเพื่อไทยต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเอารัฐธรรมนูญปี 2540 กลับคืนมา และตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ใช้เรื่องนี้เป็นเกมอยู่ พรรคเพื่อไทยจะเดินโง่ตามพรรคประชาธิปัตย์ทำไม อีกทั้งตนเห็นว่าคนที่อยู่ 3 ฝ่ายขณะนี้มีคนไม่จริงใจ

"ที่พันธมิตรกำลังจะออกชุมนุมคัดค้าน แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องออกไปรับหน้า พรรคเพื่อไทยจะไปรับหน้าทำไม ศัตรูทะเลาะกันไม่ดีเหรอ เราต้องเดินเกมให้ฉลาด เงื่อนไขนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้รับปากมาจากพรรคร่วมรัฐบาลและพันธมิตร เมื่อรับปากแล้วได้เป็นรัฐบาลจึงเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องแก้ไขปัญหา" นายจตุพรกล่าว

"ชทพ."วอน"จิ๋ว"แก้ขัดแย้งในพรรค

ที่ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษก ชทพ. กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไรกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นผู้เรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก่อน ดังนั้น ไม่ว่ากระบวนการอย่างไรขอให้ยึดถือขั้นตอนของรัฐสภาซึ่งจะเป็นทางออกที่ดี ที่สุด หวังว่าปัญหาของพรรคเพื่อไทยจะไม่ลุกลามกระทบกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เสื้อแดงปลุก30ล้านคนสู้

วัน เดียวกัน ที่ห้องชมวิว โรงแรมชาลีน่า ปริ๊นเซส ซอยรามคำแหง 65 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ กลุ่ม นปช.-แดงทั้งแผ่นดิน จัดอบรมโรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช. "แดงทั้งแผ่นดิน" รุ่นที่ 3 จากภาคกลาง 26 จังหวัด จัดระหว่าง วันที่ 9-10 ตุลาคม มีนักเรียน นปช.กว่า 300 คน เข้าร่วมอบรมเป็นวันแรก โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษก นปช.-แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวในหัวข้อ "แนวคิดและอุดมการณ์ประชาธิปไตย" ตอนหนึ่งว่า ตราบใดที่ประเทศยังมีความไม่เป็นธรรม จะไม่เป็นประชาธิปไตย ความไม่เป็นประชาธิปไตยทำให้อำนาจฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติไม่เป็นตัวของตัว เอง อีกทั้งอำนาจตุลาการกำลังพัง จะทำให้ประเทศพังไปด้วย ดังนั้น พวกเราต้องสู้แม้ว่าจะสู้ไปก็ยังไม่ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงก็ตาม แต่หากทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติแข็งแรงได้การตั้งรัฐบาลโดยคณะทหารจะทำไม่ได้ ซึ่งสู้มา 3 ปีก็เพื่อให้ประชาธิปไตยแข็งแรง

"ขณะนี้มีคน 64 ล้านคนทั่วประเทศ หากวันที่นัดชุมนุมมีคนใส่เสื้อแดงถึง 30 กว่าล้านคนให้แดงทั้งแผ่นดินได้วันนั้นถึงจะชนะ" นายณัฐวุฒิกล่าว

ชี้แก้รธน.ล้มด้วยอำนาจนอกระบบ

นาย ณัฐวุฒิกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้เริ่มอาการของคนหวงรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้วโดยเฉพาะกลุ่ม ส.ว.บางส่วน กลุ่มพันธมิตรออกมาคัดค้านห้ามแก้ไข เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีกลไกอำนาจนอกระบบที่จะพยายามล้มกระบวนการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญผ่านพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นผลผลิตของระบบอำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์ไม่จริงใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าจริงใจจะต้องไม่ทำประชามติ จะเห็นว่ารัฐบาลโดยพรรคประชาธิปัตย์กำลังซื้อเวลาไปเรื่อยๆ

"การ แก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็นเป็น การแก้ปัญหาให้นักการเมือง ถึงแก้อย่างไรก็ไม่ทำให้เกิดประชาธิปไตยอยู่ดี เพราะรัฐธรรมนูญ 2550 ยังเป็นเผด็จการ" นายณัฐวุฒิกล่าว

"มท.1"เชื่อนายกฯไปอุบลฯไม่รุนแรง

ด้าน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ และห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์ ประจำปี 2552 ที่ จ.สมุทรปราการ ถึงการเดินทางไปราชการของนายกรัฐมนตรี ที่ จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 10 ตุลาคม ว่า ไม่อยากตอบเรื่องนี้ เพราะทุกครั้งที่ตนไปไหนมักจะมีกลุ่มเสื้อแดงมาคอยต้อนรับถือเป็นเรื่องที่ ดี เพราะการที่มีความคิดเห็นหรืออุดมการณ์ที่แตกต่างกัน เป็นเรื่องในระบอบประชาธิปไตยที่สามารถทำได้ หากเป็นการชุมนุมโดยสงบ เหมือนที่ตนเดินทางมาที่ จ.สมุทรปราการ ก็ได้รับความกรุณาจากนายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะ ส.ส.ในพื้นที่ ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

เมื่อถามว่า จะคาดโทษผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีหากไม่สามารถดูแลความเรียบร้อยได้ หรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ไม่ถึงกับคาดโทษ เพราะปกติเมื่อมีผู้บริหารจากส่วนกลางไปก็กำชับแล้วว่าให้ผู้ว่าฯคุยกับแกน นำกลุ่มเสื้อแดงล่วงหน้าก่อนการลงพื้นที่ ตนคิดว่าในการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง

เสื้อแดงรอไล่"จุรินทร์"เก้อ

วัน เดียวกัน ที่หน้าโรงแรมเซ็นทาราอุดรธานี นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร นำสมาชิกชมรมคนรักอุดร กว่า 500 คน มาชุมนุมรอขับไล่ นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีกำหนดการเดินทางมาเป็นประธานการประชุม สัมมนาผู้บริหาร และครูโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 34 แต่ต้องผิดหวังเนื่องจากนายจุรินทร์เดินทางไปร่วมประชุมการศึกษาต่างประเทศ แต่มอบหมายให้นายพรมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มาปฏิบัติหน้าที่แทน

คุยระดมคนเรือนแสนต้าน"มาร์ค"

" กลุ่มเสื้อแดงที่อุบลราชธานี มี 5 กลุ่ม สุรินทร์ 3 กลุ่ม บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด กาฬสินทธุ์ มหาสารคาม นครพนม มุกดาหาร ได้นัดให้ไปรวมตัวกันที่อุบลราชธานี ในเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม จากนั้นจะเปิดเวทีปราศรัยที่สนามทุ่งศรีเมือง เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะเอาเงินมาให้ยายไฮ ขันจันทา ส่งมาก็ได้ แต่อย่าสร้างภาพ เอาเงินภาษีประชาชนไปใช้เป็นเบี้ยเลี้ยงให้ตำรวจทหารมาดูแลรักษาความปลอดภัย ให้นายกรัฐมนตรีเป็นหมื่นนายนั้น บ้าหรือเปล่า เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะมีการต่อต้านจากคนเสื้อแดง ขอให้นายอภิสิทธิ์ล้มเลิกการเดินทาง เพราะถ้าเดินทางมา จะเจอการต้อนรับจากคนเสื้อแดงภาคอีสานทั้ง 19 จังหวัดนับแสนคนแน่นอน" นายขวัญชัยกล่าว

"ยายไฮ"เปิดบัญชีรอรับเงินแล้ว

วัน เดียวกัน ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนสรรพสิทธิ์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ยายไฮ ขันจันทา อายุ 80 ปี พร้อม น.ส.เพ็ชร ขันจันทา อายุ 36 ปี และนายประทวน พันธ์คำ อายุ 42 ปี ผู้ได้รับเงินเยียวยาจากผลกระทบการสร้างเขื่อนห้วยละห้า อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี เดินทางไปเปิดบัญชีธนาคาร หลังมีกำหนดว่านายอภิสิทธิ์จะเดินทางมามอบเช็คเงินสดให้ยายไฮ 1.2 ล้านบาท น.ส.เพ็ชร 1.3 ล้านบาท และนายประทวน 2.3 ล้านบาท วันที่ 10 ตุลาคม

น. ส.เพ็ชรกล่าวว่า รู้สึกดีใจและขอบคุณรัฐบาลที่มีความกล้าหาญในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับ ความเดือดร้อน สำหรับเงินที่ได้จะต้องไปคิดอีกทีว่าจะใช้จ่ายอะไร บางส่วนจะนำไปจ่ายหนี้สิน และทำบุญให้ นายฟอง ขันจันทรา บิดา และนายเสือ พี่เขย ที่เสียชีวิตลงก่อนหน้านี้ พร้อมเตรียมจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญให้นายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันจะมีประชาชนกลุ่มสมัชชาคนจน 7 เครือข่ายที่ได้รับผลกระทบจากโครงการของรัฐบาลจะเดินทางมายื่นหนังสือแก่ นายกรัฐมนตรีด้วย

สมัชชาคนจน6พันคนต้านเสื้อแดง

วัน เดียวกัน ที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี กลุ่มสมัชชาคนจนเตรียมความพร้อมต้อนรับนายอภิสิทธิ์ พร้อมเตรียมแผนสกัดกั้นคนเสื้อแดงไม่ให้เข้าไปในบริเวณศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ซึ่งจะใช้คนของกลุ่มสมัชชาคนจนฯกว่า 6,000 คน และเครือข่ายกลุ่มปัญญาที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ โดยประเมินสถานการณ์ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะไม่สามารถเข้ามาในศูนย์ภูมิปัญญาไท บ้านได้

นายสมเกียรติ พ้นภัย แกนนำสมัชชาคนจน กล่าวว่า ได้เลือกพื้นที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน เป็นสถานที่ต้อนรับนายกรัฐมนตรีเชื่อว่ามีความปลอดภัยและสามารถควบคุม สถานการณ์ได้ เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มสมัชชาคนจน

"ได้คุยกับกลุ่ม คนเสื้อแดงในพื้นที่ว่าให้เป็นทีใครทีมัน ทีของเราก็ปล่อยให้พวกเราบ้าง เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงมีโอกาสมากอยู่แล้ว เพราะโอกาสของคนจนมันมีน้อยที่สุดเมื่อมีโอกาสนี้น่าจะเห็นอกเห็นใจกันด้วย รวมทั้งได้เตรียมเรื่องยื่นปัญหาให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นปัญหาที่เคยยื่นร้องไปแล้ว แต่ไม่มีการพูดคุยเจรจาก็จะยื่นซ้ำเพื่อเร่งรัดขึ้น เช่น ปัญหาเขื่อนปากมูล จึงอยากทราบว่ารัฐบาลจะนัดพูดคุยอีกเมื่อไหร่" นายสมเกียรติ พ้นภัย กล่าว

ตำรวจพร้อมรปภ."นายกฯ"

ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย แก่นายอภิสิทธิ์ ที่จังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร ว่า ได้เตรียมแผนรักษาความปลอดภัยทุกจุดมีความพร้อม คาดว่าไม่น่ามีความรุนแรงเกิดขึ้น แผนปฏิบัติการเน้นการเจรจาที่ยืดหยุ่น ขอร้องกันมากกว่าการใช้ความรุนแรง มีการประสานแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัด ขอให้ชุมนุมอย่างสงบอยู่ในกรอบกฎหมาย

นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งเส้นทาง สถานที่ ผู้คนที่มาต้อนรับและรักษาความปลอดภัยให้นายกรัฐมนตรี และจะเชิญแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จ.อุบลราชธานี มาพูดคุยเพื่อเห็นแก่จังหวัดและไม่ให้เกิดความรุนแรงพร้อมทั้งขอร้องให้ เคารพกฎหมาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook