จิตใจทำด้วยอะไร! วัยรุ่นไถเงินยายวัย 73 ต่อยหน้า-กระทืบจนสลบ จับโยนไว้ใต้ถุนบ้าน

จิตใจทำด้วยอะไร! วัยรุ่นไถเงินยายวัย 73 ต่อยหน้า-กระทืบจนสลบ จับโยนไว้ใต้ถุนบ้าน

จิตใจทำด้วยอะไร! วัยรุ่นไถเงินยายวัย 73 ต่อยหน้า-กระทืบจนสลบ จับโยนไว้ใต้ถุนบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ยายวัย 73 เจอวัยรุ่นที่ผ่านหน้าบ้านไถเงิน ไม่มีให้และฮึดสู้ ทำให้ถูกต่อยหน้า รุมกระทืบสลบ

(13 ม.ค.64) เวลา 23.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า คุณยายสำเนียง อายุ 73 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการถูกวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านแล้วไถเงิน แต่ยายไม่มีให้และฮึดสู้ ใช้เท้าถีบหนึ่งในคนร้ายหงายท้อง จนทำให้คนร้ายโมโหใช้กำปั้นชกที่หน้าคุณยาย 2 ครั้ง จนคุณยายเสียหลักล้มลง จากนั้นก็ถูกวัยรุ่นกระทืบจนสลบหัวทิ่มเข้าใต้ถุนบ้าน

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา 5 วันแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ทราบเบาะแสคนร้ายทั้ง 2 คน จนลูกหลานคุณยายต้องนำเรื่องออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน เหตุเกิดภายในชุมชนข้างโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

ยายสำเนียง เล่าว่า เมื่อช่วงประมาณ 19.00 น. วันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อนบ้านมีญาติจากต่างจังหวัดมาหา จึงพาญาติออกไปรับประทานข้าวที่ร้านอาหาร และได้ฝากบ้านไว้กับตน เพราะมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่หน้าบ้าน ตนจึงออกไปนั่งเฝ้าบ้านให้ ก็พบมีวัยรุ่น 2 คน มีคนตัวเล็กกับตัวใหญ่ โดยคนตัวใหญ่สวมหมวกกันน็อคเต็มใบปิดบังใบหน้า และคนตัวเล็กกว่าสวมไอ้โม่งมาด้วย โดยทั้งคู่ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้านเพื่อนบ้าน ขณะที่ตนนั่งเฝ้าบ้านให้อยู่ ทางวัยรุ่นคนตัวเล็กกว่าก็ถามตนว่า ยายมีเงินไหม ตนตอบไปว่าไม่มี ผู้ก่อเหตุจึงบอกให้ตนเปิดประตูบ้าน ตนก็บอกไม่มีอีกเพราะไม่ใช่บ้านของตน ผู้ก่อเหตุจึงใช้มือบีบคอตน 

แต่ตนนั่งอยู่บนบ้านที่อยู่สูงกว่าผู้ก่อเหตุ จึงใช้เท้าถีบสวนกลับไป จนผู้ก่อเหตุเสียหลักหงายท้องไม่เป็นท่า ก่อนที่จะโมโหใช้กำปั้นชกสวนกลับมาโดนที่หน้าตน 2 ครั้งจนเสียหลักล้มไม่เป็นท่าเช่นกัน จากนั้นวัยรุ่นก็กระทืบตนมึนไปหมด และรู้สึกตัวครั้งสุดท้ายว่า ผู้ก่อเหตุอุ้มตนโยนเข้าใต้ถุนบ้าน จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย แต่ยังเคราะห์ดีที่เป็นจังหวะไม่มีน้ำทะเลหนุน ไม่เช่นนั้นตนคงจมน้ำตายไปแล้ว

จากนั้นประมาณ 21.00 น.เพื่อนบ้านกลับมาพบ จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล และได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 9 มกราคม จึงรีบไปแจ้งความที่ สภ.คลองด่าน ผ่านไป 5 วัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีวี่แววของผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ตนจึงรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย และหวาดกลัวว่า ผู้ก่อเหตุจะหวนกลับมาก่อเหตุอีก ซึ่งตนอาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้ 

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook