ตำรวจเชื่อ 2 โจ๋ กระทืบยายวัย 73 ปี ตั้งใจเอาเงิน แต่ลงมือหนักเพราะแค้นที่ถูกยายถีบ
จากกรณีที่ ยายสำเนียง อายุ 73 ปี ถูกสองวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกาย ขณะที่นั่งอยู่หน้าบ้านพักไม่มีเลขที่ ข้างโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ริมถนนสุขุมวิท หมู่ 5 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน สวมหมวกโม่งสีดำปกปิดใบหน้า ส่วนอีกคนสวมหมวกกันน็อก ได้เขามาทำที่สอบถามเส้นทางและขอเงินจำนวน 200 บาท แต่ยายสำเนียง บอกว่าไม่มี สองวัยรุ่นจึงลงมารุมทำร้ายจนสลบคาที่ และจับร่างยัดไว้ใต้ถุนบ้าน ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และเลขทะเบียนสีน้ำเงินเทาหลบหนีไป โดยเหตุเกิดตั้งแต่ช่วงหัวค่ำขอวันที่ 8 มกราคม 2564
ในวันนี้ที่ 14 มกราคม 2564 พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าและแนวทางการสืบสวน โดยมี พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.คอลงด่าน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ ได้เข้ารายงานผลความคืบหน้าของคดี โดยในการลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสของผู้ก่อเหตุ ได้ภาพจากกล้องหน้ารถของญาติเจ้าบ้าน หลังที่เกิดเหตุ ขณะขับรถเข้ามาที่บ้าน และบันทึกภาพชายต้องสงสัยจำนวน 2 คน กำลังเดินออกมา แต่หลังจากที่นำภาพมาให้ผู้บาดเจ็บดู ปรากฏว่าไม่ใช้ผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันแนวทางการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุเคยมีปัญหาทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นในการก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนในเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ก็ยังไม่ตัดทิ้ง ขณะเดียวกันในวันนี้ยายสำเนียง ผู้บาดเจ็บได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่จะเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลบางบ่อ เพื่อตรวจหาร่องรอยการถูกทำร้ายเพื่อนำมาประกอบสำเนาการสอบสวน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านพักที่ปลูกสร้างอยู่บนที่ดินของกรมทางหลวง เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน ประมาณ 4-5 หลัง บ้านที่เกิดเหตุอยู่ด้านหน้าห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 10 เมตร ได้พบ นายนิพนธ์ แป้นเพชร อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของยายสำเนียง ที่ถูกทำร้าย และเปิดเป็นร้านรับซ่อมจักรยานยนต์ที่อยู่ติดกัน ได้เล่าว่าในคืนที่เกิดเหตุ หลังจากที่ตนปิดร้านได้เข้ามานอนเล่นในบ้านซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 เมตร ขณะที่นอนอยู่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรที่ผิดปกติ แต่มาทราบอีกทีตอนที่ นายสมศักดิ์ เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุกลับมาจากกินข้าวประมาณ 3 ทุ่มและมาพบแม่ของตนนอนหมดสติอยู่ใต้ถุนบ้านแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.คลองด่าน ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่าไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่เลย และการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุทั้งสองได้เข้ามาทำทีสอบถามเส้นทาง และขอเงินจากผู้บาดเจ็บจำนวน 200 บาท แต่ผู้บาดเจ็บบอกว่าไม่มี คนก่อเหตุจึงบอกให้ผู้บาดเจ็บเปิดประตูบ้าน แต่ผู้บาดเจ็บบอกว่าไม่ใช่บ้านของตน หนึ่งในผู้ก่อเหตุจึงได้เดินขึ้นไปใช้มือผลักประตูแต่เปิดไม่ได้ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ก่อเหตุได้ใช้มือบีบคอผู้บาดเจ็บและถูกผู้บาดเจ็บใช้เท้าถีบจนกระเด็น คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะโมโหจึงใช้กำปั้นต่อยเข้าที่ใบหน้า 2 ครั้ง จนฟุบลงไปกองกับพื้น และอุ้มยัดร่างของผู้บาดเจ็บเข้าไปในใต้ถุนบ้าน ก่อนใช้เท้ากระทืบอีกหลายครั้งจนผู้บาดเจ็บหมดสติ จึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์
เบื้องต้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าเก็บรายนิ้วมือแฝงของผู้ก่อเหตุที่บริเวณประตูบ้านเอาไว้แล้ว เพื่อทำการเปรียบเทียบกับประวัติอาชญากรที่เคยก่อเหตุ เป็นแนวทางในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป