จำคุกพักกึนฮเย บอกอะไรเราถึงประชาธิปไตยและความเจริญหลังสงครามของเกาหลีใต้
เมื่อวันพฤหัสบดี (14 ม.ค.) ที่ประเทศเกาหลีใต้ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาครั้งสุดท้าย และตัดสินให้จำคุกอดีตประธานาธิบดีหญิงของเกาหลีใต้ น.ส.พัก กึน-ฮเย อายุ 69 ปี เป็นเวลา 20 ปี นอกจากนี้ศาลยังสั่งปรับเงินจำนวน 18,000 ล้านวอน หรือประมาณ 500 ล้านบาท ฐานฉ้อโกง ติดสินบน และใช้อำนาจในทางมิชอบ
คำตัดสินดังกล่าว ถือเป็นการสิ้นสุดกระบวนการทางกฎหมาย หลังจากที่ลากยาวมานานหลายปีนับว่าเป็นคดีใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นว่า ไม่มีการยกเว้นให้กับผู้นำประเทศ กับการจับกุม น.ส.พัก กึน-ฮเย อดีตประธานาธิบดีหญิงของเกาหลีใต้ในข้อหาคอร์รัปชัน
เชื่อไหมครับว่า ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมาเมื่อมีการประกาศให้ประเทศเกาหลีใต้เป็นสาธารณรัฐที่ 6 เนื่องจากมีลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงจากประชาชน โดยประธานาธิบดีจะอยู่ในตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว (5 ปี) และให้มีการจัดระบบการปกครองท้องถิ่นอิสระเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2530
ปัจจุบันประเทศเกาหลีใต้มีการพัฒนาทางการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็งที่สุดในทวีปเอเชียและมีอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ถึง 5 คนถูกจับกุมฟ้องร้องด้วยคดีอาญา ต้องติดคุกหรือฆ่าตัวตายจากจำนวนประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมารวม 7 คน และปัจจุบันนี้มีอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ยังมีชีวิตอยู่ 4 คนแต่กลับต้องอยู่ในคุกยาว 15-24 ปี ถึง 2 คน แบบว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
Chung Sung-Jun/Getty Images
การที่ชาวเกาหลีใต้พร้อมใจกันร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นในแบบที่ให้มีการคานอำนาจกันระหว่างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ ให้สอบทานกันได้อยู่ตลอดเวลา และผู้ที่จะเข้าอยู่ในอำนาจทั้งสามนี้ต้องมีที่มาที่ไปอันยึดโยงกับประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ส่วนอำนาจตุลาการนั้นผู้พิพากษา/ตุลาการจะได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี แต่ต้องได้รับการรับรองจากรัฐสภา
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีผู้มีอำนาจมากกว่าใครเนื่องจากเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่มีอำนาจเต็มนั้น ให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียวคือ 5 ปีเท่านั้น โดยการตรวจสอบและถ่วงดุลระหว่างกันก็ส่งผลให้เกิดประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริง และนำพาประเทศเกาหลีใต้ให้รุ่งเรืองก้าวหน้าดังปาฏิหาริย์ในช่วงเวลา 34 ปีของการใช้รัฐธรรมนูญปี 2530
เกาหลีใต้ เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี พรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ และมีประเทศญี่ปุ่นอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลีกั้นไว้ มีพื้นที่ทั้งหมด 100,363 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 51,709,098 คน จัดเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้งๆ ที่เพิ่งได้รับเอกราชเมื่อปี 2491 หรือเพียง 72 ปีเศษเท่านั้นเอง
ท่านผู้อ่านเชื่อไหมครับว่าประเทศเกาหลีใต้เริ่มใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทีหลังประเทศไทยเพียง 1 ปีคือเริ่มในพ.ศ. 2505 โดยเกาหลีใต้เริ่มต้นจากการแทบสิ้นเนื้อประดาตัวจากไฟสงครามกลางเมืองระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้และลุกลามไปโดยนานาชาติเข้าร่วมสงครามจนต้องสงบศึกลงเมื่อปี 2496 โดยทิ้งผลพวงไว้ คือ ความเสียหายย่อยยับของทั้งเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ซ้ำร้ายเกาหลีใต้ยังไร้ทรัพยากรธรรมชาติ และยากจนติดอันดับรั้งท้ายของโลก
ช่วง 34 ปีที่ผ่านมา เมื่อเกาหลีใต้เป็นประเทศประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบถึงแม้นักการเมืองระดับท็อปคือประธานาธิบดีก็มีปัญหาคอร์รัปชันแต่ก็ไม่สามารถที่จะหนีความผิดแบบลอยนวลไปได้เหมือนอย่างในประเทศอื่นๆ
นอกจากนี้ภาคเอกชนของเกาหลีใต้กลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโดยมีสัดส่วนเพิ่มจาก 36% ในปี 2523 กลายเป็น 75% ในพ.ศ.2543 และ 78% ในพ.ศ. 2560 โดยภาคเอกชนที่นำโดยบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ที่มีกิจการอยู่ทั่วโลกอย่างซัมซุง, ฮุนได, แดวู และแอลจี อิเล็คทรอนิกส์
เครื่องสำอางเกาหลีใต้ แฟชั่น ภาพยนตร์ วงดนตรี ไปจนถึงอาหารเกาหลีล้วนเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วเอเชียทั้งหมดล้วนสร้างสรรค์มาจากพลังของผู้คนในประเทศ ที่การวิจัยและพัฒนาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญทั้งในรูปแบบของ สินค้า และเทคโนโลยีใหม่ๆ
วันนี้ สินค้าและการบริการของประทศเกาหลีใต้กลายเป็นที่ยอมรับในระดับโลกถึงคุณภาพ และนวัตกรรมที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
Ed JONES / AFP
ปัจจุบันเกาหลีใต้ซึ่งมีขนาดของประเทศใหญ่เป็นอันดับที่ 107 ของโลก มีประชากร 51 ล้านคนกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ของโลก มีมูลค่ากว่า 50 ล้านล้านบาทและขนาดเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ ใหญ่กว่าเศรษฐกิจไทยซึ่งมีขนาดของประเทศใหญ่เป็นอันดับที่ 50 ของโลกและมีประชากร 66 ล้านคน ถึง 3 เท่า
ครับ! ระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและการปราบคอร์รัปชันในระดับสูงสุดโดยไม่มีการละเว้นทำให้ทรัพยากรมนุษย์ของเกาหลีใต้พัฒนาตนเองได้เต็มที่โดยไม่ถูกระบอบเผด็จการและคอร์รัปชันกดทับจึงสามารถผลักดันให้เกาหลีใต้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเต็มภาคภูมิ