นักวิทย์คาด โควิด-19 จะเป็นเหมือนไข้หวัดธรรมดา หลังคนมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น

หลังจากที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ต้นเหตุของโรคโควิด-19 ได้ระบาดใหญ่ทั่วโลกเป็นเวลานานราว 1 ปี แล้ว นักวิทยาศาสตร์เริ่มเห็นแนวโน้มของโลกหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science ระบุว่า แม้ว่าเชื้อไวรัสโคโรนาจะยังคงอยู่ แต่เมื่อคนวัยผู้ใหญ่ส่วนมากมีภูมิคุ้มกัน หลังจากการติดเชื้อตามธรรมชาติหรือการฉีดวัคซีนแล้ว เชื้อไวรัสก็จะมีอันตรายเทียบเท่ากับโรคไข้หวัดธรรมดา หรือกลายเป็นโรคประจำถิ่น (endemic) ซึ่งเชื้อโรคแพร่กระจายในระดับต่ำ และมีผู้ป่วยที่มีอาการหนักลดน้อยลง

สาเหตุที่โรคโควิด-19 เป็นอันตรายอยู่ในขณะนี้ ก็เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นเชื้อโรคที่ไม่เคยถูกพบมาก่อน ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของคนวัยผู้ใหญ่ ที่ไม่เคยถูกฝึกให้รับมือกับเชื้อโรคชนิดนี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กที่ร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ก็อาจจะได้รับผลกระทบจากไวรัสชนิดนี้มากกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงชี้ว่า เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แม้จะมีน้ำมูกเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลยก็ตาม

ดร.เจนนี ลาวิน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอมอรี ในแอตแลนตา กล่าวว่า กว่าการติดเชื้อไวรัสโคโรนาตามธรรมชาติจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น อาจใช้เวลาตั้งแต่ 2 – 3 ปี ถึงหลายสิบปี ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อไวรัสแพร่กระจายได้เร็วแค่ไหน กับความแข็งแกร่งและระยะเวลาในการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน

วัคซีนถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ยิ่งผู้คนได้รับวัคซีนเร็วเท่าไร ยิ่งดี และวัคซีนที่มีประสิทธิภาพจะช่วยย่นระยะเวลาที่เชื้อไวรัสเปลี่ยนเป็นโรคประจำถิ่น เหลือ 1 ปี หรือเพียง 6 เดือน

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโควิด-19 ได้ที่นี่