ผัวโหดสารภาพสิ้น บีบคอเมียตายก่อนจุดไฟเผา ห่อซากเอาไปโยนทิ้งในไร่อ้อย
ตำรวจแถลงข่าวการจับกุมผัวบีบคอเมียจนตาย นำร่างไปที่ห้องน้ำแล้วจุดไฟเผา ก่อนอำพรางศพเอาไปโยนทิ้งในไร่อ้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก พร้อมคณะได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม นายรังสรรค์ อายุ 54 ปี ผู้ต้องหา มาสอบสวนและจำนนต่อหลักฐานจึงยอมรับสารภาพ ในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลอบฝังศพซ่อนเร้นหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือแห่งการตาย
พร้อมด้วยของกลาง 1.ชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะมนุษย์ 2.ชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ 3.ตัวอย่างดีเอ็นเอของ น.ส.นัฐวดี ซึ่งเป็นบุตรสาวของนางพรทิพย์ อายุ 42 ปีผู้เป็นมารดา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำของกลางนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้พบกะโหลกศีรษะมนุษย์และชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์ที่อยู่ริมถนนในไร่อ้อยที่เกิดเหตุ หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเก็บข้อมูลหลักฐานส่งไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2564 ได้มี น.ส.นัฐวดี ซึ่งเป็นบุตรสาวของนางพรทิพย์ ซึ่งเชื่อว่าโครงกระดูกที่พบน่าจะเป็นแม่ของตนเอง ซึ่งได้แจ้งคนหายไว้ที่สถานีตำรวจนนทบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2563 และได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายรังสรรค์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รอบรวมหลักฐานออกหมายจับตัวนายรังสรรค์ มาทำการสอบสวน
โดย นายรังสรรค์ ยอมรับสารภาพว่า ตนเองได้ไปรับนางพรทิพย์ ผู้เสียชีวิต จากรังสิตมาอยู่ด้วยกันที่บ้านปราจีนบุรีบ้านที่เกิดเหตุ และได้มีปากเสียงทะเลาะหึงหวงรุนแรงในเรื่องชู้สาว ทำให้นายรังสรรค์บีบคอนางพรทิพย์จนถึงแก่ความตาย แล้วนำร่างผู้เสียชีวิตไปที่ห้องน้ำแล้วจุดไฟเผา จากนั้นได้นำผ้าสีดำซึ่งอยู่ในบริเวณบ้านมาห่อร่างผู้เสียชีวิตนำไปใส่ท้ายรถเก๋งแล้วนำมาทิ้งที่ไร่อ้อย หมู่ที่ 5 อำเภอปากพลี เพื่ออำพรางคดี