สุพรรณบุรีแจ้งดำเนินคดี ผู้ป่วยโควิดรายที่ 11 ปกปิดข้อมูล ไม่ยอมบอกไปกับใครกี่คน

สุพรรณบุรีแจ้งดำเนินคดี ผู้ป่วยโควิดรายที่ 11 ปกปิดข้อมูล ไม่ยอมบอกไปกับใครกี่คน

สุพรรณบุรีแจ้งดำเนินคดี ผู้ป่วยโควิดรายที่ 11 ปกปิดข้อมูล ไม่ยอมบอกไปกับใครกี่คน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สุพรรณบุรีแจ้งดำเนินคดี ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 11 ปกปิดข้อมูล เจ้าหน้าที่ต้องตามสืบเองจนเจอ

(15 ม.ค.64) ที่ จ.สุพรรณบุรี ว่าที่ ร.ต.ธีรพล โชคนำชัย นายอำเภอบ้างปลาม้า เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจาก นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 11 ของ จ.สุพรรณบุรี โดยมอบให้ นายคำรณ ครื้นน้ำใจ สาธารณสุขอำเภอบางปลาม้า นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปลาม้า เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ป่วยโควิดรายที่ 11 เนื่องจากให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคไม่ครบถ้วนเป็นการปกปิดข้อข้อมูล 

ว่าที่ ร.ต.ธีรพล โชคนำชัย นายอำเภอบ้างปลาม้า กล่าวอีกว่าสืบเนื่องจากนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ให้เข้มงวดเรื่องของการตรวจสอบควบคุมดูแลโรคระบาดในพื้นที่ มติที่ประชุมของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออำเภอบางปลาม้า  ได้นำเรื่องเข้าพิจารณาคณะกรรมการกรณีของผู้ป่วยรายที่ 11 โดยเจ้าพนักงานควบคุมโรคได้เข้าไปสอบสวนโรคเบื้องต้นผู้ป่วยให้การไม่ครบมีการปกปิดข้อมูล กรณีเข้าไปในพื้นที่ไปกี่คนไปกับใคร ผู้ป่วยไม่ยอมบอกกับเจ้าพนักงาน ทำให้เกิดความยากต่อการสืบสาวเพื่อควบคุมโรคที่กำลังระบาดทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออำเภอบางปลาม้า จึงมีมติให้ดำเนินการแจ้งความ ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางปลาม้า เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ป่วยรายที่ 11 ในฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ มาตรา 47 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 

สำหรับการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานนั้นแค่ท่านให้การไม่ครบ ท่านปกปิดข้อมูลซึ่งเป็นกรณีที่ร้ายแรงที่ประชาชนให้ความสนใจก็ถือว่าแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานแล้วในเรื่องของพยานเรามีการสอบพยานแวดล้อมเบื้องต้นโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคไปสอบถาม ปรากฎว่าไม่ได้รับความร่วมมือ ทำให้เจ้าพนักงานต้องสืบเสาะหาข้อมูลเอง และทุกคนที่ไปสืบเสาะต่างยอมรับว่าไปกับผู้ป่วยรายที่ 11 จริงซึ่งการปกปิดข้อมูลดังกล่าวอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขยายเป็นวงกว้างและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นหรือส่วนรวมได้ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้แจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook