สหรัฐ-จีน โต้กันเผ็ดร้อนกลางที่ประชุม WHO ปมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อู่ฮั่น หาต้นตอโควิด
สหรัฐเรียกร้องให้จีนอนุญาตให้คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เข้าถึง “ผู้ดูแลผู้ป่วย ผู้ที่เคยป่วย และเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ” ในเมืองอู่ฮั่น รวมไปถึงข้อมูลทางการแพทย์และตัวอย่างต่างๆ
การ์เรตต์ กริกส์บี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐ กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของ WHO ว่า จีนควรแบ่งปันรายงานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่ได้จากการเก็บตัวอย่างของสัตว์ มนุษย์ และสิ่งแวดล้อมในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเชื่อว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นที่นี่เป็นที่แรกเมื่อช่วงปลายปี 2562
ด้านตัวแทนของจีนที่เข้าร่วมการประชุมเดียวกันได้ตอบโต้ในเวลาต่อมาว่า “การศึกษาต้นกำเนิดของไวรัสเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจำเป็นต้องร่วมมือและประสานงานกัน เราต้องยุติแรงกดดันทางการเมืองทุกรูปแบบ”
ทั้งนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศจากองค์การอนามัยโลกจำนวน 13 คนเดินทางถึงจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเข้ารับการกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน โดยทั้งหมดจะเริ่มดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อแกะรอยต้นกำเนิดโรคโควิด-19 ร่วมกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวจีน
ที่ผ่านมา ทางฝ่ายสหรัฐ นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวบ่อยครั้งว่าจีนเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยอ้างถึงข้อมูลที่ทำให้เชื่อว่าไวรัสมีที่มาจากห้องปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่นของจีน อย่างไรก็ตาม จีนก็ได้ออกมาตอบโต้ โดยระบุว่าไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลที่เป็นรูปธรรมตามที่สหรัฐกล่าวหาแต่อย่างใด