"น้องบ๊อบบี้" เด็กชาย 7 ขวบ กลายเป็นศพในดงกล้วย พ่อเชื่อถูกคนพาออกไปฆ่า

เร่งไขปริศนา "น้องบ๊อบบี้" เด็กวัย 7 ขวบ หายออกจากบ้าน ก่อนพบเป็นศพในดงกล้วย พ่อเชื่อถูกฆาตกรรม

(19 ม.ค.64) ที่บ้านเลขที่ 397 หมู่บ้านป่าสักงาม (เวียงคำฟ้า) หมู่ 9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ทางญาติและชาวบ้านในหมู่บ้านต่างเดินทางไปให้กำลังใจ นายทรงวุฒิ แปงเรือน อายุ 30 ปี บิดาของ น้องบ๊อบบี้ อายุ 7 ปี ที่เสียชีวิต พบตามร่างกายมีร่องรอยการถูกทำร้าย และการถูกทุบ พบศพอยู่ในดงกล้วยกลางทุ่งนาห่างจากบ้านประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยเหตุเกิดวันที่ 16 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา

โดยที่บ้านนั้น มีภรรยาของนายทรงวุฒิ ซึ่งเป็นมารดาบุญธรรมของ น้องบ๊อบบี้ มีนายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี อา และเป็นผู้ที่ดูแลน้องบ๊อบบี้ และพี่น้องคนอื่นๆ เป็นครั้งสุดท้ายอยู่ด้วย ขณะที่บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจโดยเฉพาะมารดาบุญธรรมที่ร้องไห้เสียใจแม้ว่าจะไม่ใช่มารดาจริง ของน้องบ๊อบบี้แต่ก็ได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่น้องเกิด

โดยนายทรงวุฒิ กล่าวว่า ตนยังคงเชื่อว่าการที่น้องบ๊อบบี้ ไปถึงจุดที่พบศพน้องนั้นได้จะต้องมีผู้ใหญ่นำพาไปอย่างแน่นอน แม้ว่าตามปกติเด็กๆ ในหมู่บ้านรวมทั้งลูกชายคนกลางของตนมักจะพากันออกไปวิ่งเล่นก็ตาม  และระยะทางที่พบศพน้องก็ถือว่าไกลมาก น้องคงไม่สามารถไปถึงได้ เพราะไม่ใช่จุดที่เด็กๆ น่าจะเข้าไปเล่นเพราะอยู่ในทุ่งนาและป่ากล้วย

"ลูกสาวคนโต วัย 9 ขวบ ของผมและน้องบ๊อบบี้ยังไม่เกิดนั้น ผมมีภรรยาที่เป็นมารดาของเด็กทั้ง 2 คน แต่เมื่อน้องบ๊อบบี้คลอด ภรรยาก็ทิ้งครอบครัวไป ทิ้งลูกทั้ง 2 คนให้ผมเลี้ยง ต่อมาผมก็ได้ภรรยาคนใหม่ที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน มีลูกชายวัย 4 ขวบด้วยกัน ทำให้พี่น้องมีอยู่ด้วยกัน 3 คน ซึ่งภรรยาผมก็เลี้ยงดู ลูกๆ ทั้งหมดรวมทั้งน้องบ๊อบบี้ เป็นอย่างดีมาตั้งแต่เด็ก ทำให้รักผูกพันกัน เมื่อน้องบ๊อบบี้ เสียชีวิตเขาจึงเสียใจอย่างมาก ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าเก็บศพของน้องบ๊อบบี้ เอาไว้ไม่นำมาฝังตามประเพณีจนกว่าคดีจะจับคนร้ายได้ " 

ทางด้านนายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี คนดูแลน้องบ๊อบบี้เป็นคนสุดท้าย กล่าวว่า ตนดูแลน้องบ๊อบบี้และหลานๆ ซึ่งเป็นลูกของนายทรงวุฒิรวม 3 คนในบ้านหลังดังกล่าวมานาน 3 ปีแล้วเพราะพ่อแม่ของเด็กๆ จะต้องออกไปรับจ้างกรีดยางนอกพื้นที่ครั้งละหลายๆ วัน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบเห็นสิ่งผิดปกติอะไร โดยมักจะมีกลุ่มเพื่อนๆ ของน้องบ๊อบบี้ ขี่จักรยานมารับน้องและออกไปเล่นกันภายในหู่บ้านเป็นประจำ กระทั่งวันเกิดเหตุในช่วงบ่ายตนได้จุดไฟในห้องครัวเพื่อต้มน้ำ จากนั้นได้ออกไปเปลี่ยนแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือที่ตลาดใน อ.เวียงเชียงรุ้ง และกำชับไม่ให้หลานๆ ออกไปเล่นนอกบ้าน

และเมื่อเสร็จธุระในเวลาเย็นจึงกลับบ้านก็พบว่าเหลือหลานเพียง 2 คน ส่วนน้องบ๊อบบี้ไม่อยู่ จึงได้สอบถามหลานสาว ก็ทราบว่าช่วงเกิดเหตุหลานสาวทำความสะอาดห้องครัวแต่ได้ยินเสียงคนร้องไห้ที่ห้องโถง จึงออกมาดู พบว่าน้องบ๊อบบี้ ออกไปทางหน้าบ้านแล้ว ส่วนน้องชายวัย 4 ขวบยังสื่อสารไม่ได้มากนัก จึงไม่ทราบว่าใครพาไปกันแน่

ในวันเดียวกันทาง พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้นำตำรวจชุดสืบสวน ภ.5 ลงไปสนับสนุนการคลี่คลายคดีกับ ภ.จว.เชียราย และ สภ.เวียงเชียงรุ้ง ขณะที่ทาง พ.ต.อ.ทิวา สกุลวัฒนะ ผกก.สภ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย พ.ต.ท.ณภัทร อดทน สว.(สอบสวน) สภ.เวียงเชียงรุ้ง ได้เรียกสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหลายคน เช่น นายไทธชา ผู้ใหญ่บ้านป่าสักงาม หมู่ 9 นายทรงวุฒิและภรรยา ฯลฯ รวมทั้งรอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์นิติเวช

เบื้องต้นพบร่องรอยถูกทุบตามร่างกายและใบหน้าจนช้ำ ใกล้ศพยังพบของกลางเป็นจอบจำนวน 1 ด้าม รองเท้านักเรียนสีน้ำตาล 1 คู่ ท่อนไม้คล้ายฟืน 2 ท่อน รอยรองเานักเรียน 1 รอย เศษรถเด็กเล่น 1 ชื้น ต้นกล้วยที่มีรอยตัดขาด 1 ต้น