รัฐบาลแจ้งความ ธนาธร ผิดมาตรา 112-พ.ร.บ.คอมพ์ หลังวิจารณ์วัคซีนโควิดพาดพิงสถาบัน
กระทรวงดิจิทัลฯ ควง ทศพล-แรมโบ้ แจ้งความเอาผิด ธนาธร ตามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังไลฟ์สดพาดพิงสถาบันกล่าวหาวัคซีนพระราชทาน ลั่นเอาผิดไม่เว้นคนแชร์ต่อ
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มอบหมายให้นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมกับ นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เข้ายื่นแจ้งความเอาผิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า
หลังจากนายธนาธรทำการไลฟ์สดผ่านทางเพจคณะก้าวหน้า และสำนักงานข่าว BBC Thai ได้ร่วมกันโฆษณาและนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยจงใจโจมตีวัคซีนพระราชทานเพื่อหวังผลทางการเมืองการกล่าวหาดังกล่าวถือเป็นการกระทำความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และกระทำการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 อนุ 1
ทั้งนี้ นายทศพล ระบุว่า การออกมาพูดของนายธนาธร พบความผิดถึง 11 ช่วงตอน ทำให้สังคมเข้าใจสถาบันไปในทางที่ผิดและทำให้เกิดความสับสน ประชาชนได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง สร้างความเสียหายที่ไม่อาจยอมได้ รวมถึงสร้างความไม่มั่นใจในการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งนายกรัฐมนตรี และกระทรวงสาธารณสุข เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 จึงต้องดำเนินการทางกฎหมายทันที และหลังจากนี้จะติดตามตรวจสอบเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้โพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกันเผยแพร่ทางออนไลน์ทุกคน
พร้อมกันนี้ นายสุภรณ์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน และนำประเด็นดังกล่าวมาโจมตีการทำงานของรัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมือง
ขณะเดียวกัน นายเนวินธุ์ กล่าวว่า นายพุทธิพงษ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบการโพสต์ข้อความที่ละเมิดสถาบัน โดยเฉพาะกรณีวัคซีนพระราชทานอย่างจริงจัง หากใครที่โพสต์ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือข่าวปลอมก็จะดำเนินการทางกฎหมายทุกคนด้วย
โดยมี พ.ต.อ.ทองศูนย์ อุ่นวงค์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท.) ในฐานะเจ้าของคดี มารับหนังสือเพื่อดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมายต่อไป