เบตงรับศึกหนัก อดีตผู้ต้องขังกลับจากมาเลเซีย ติดโควิดแล้ว 11 คน คุมเข้มคนไทยข้ามแดน
(20 ม.ค.64) ที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตง เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเบตง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง ตำรวจท่องเที่ยว ทหารชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4 จนท.กอ.รมน.ภาค 4 สน. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเบตง ได้ทำการตรวจสแกนควบคุมโรคคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย จำนวนจากยอดที่แจ้งมาจำนวน 19 คน
แยกเป็นกลุ่มอดีตนักโทษที่ถูกกักตัวในศูนย์ ตม.รัฐปีนัง จำนวน 11 คน และเป็นแรงงานที่ไม่ใช่นักโทษจำนวน 8 คน เจ้าหน้าที่ได้แยกออกเป็น 2 ชุด ในการเดินทางเข้าพรมแดนเบตง โดยผ่านการตรวจสแกนอย่างละเอียด ซึ่งวันนี้มีกลุ่มนักโทษต้องเดินทางผ่านพรมแดนเบตงเข้ามาอีก 11 คน
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ พบกลุ่มอดีตผู้ต้องขังและแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย ผ่านด่านพรมแดน อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 11 คน จากจำนวนผู้เดินทางกลับทั้งหมด 34 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวดและขณะนี้อยู่ในศูนย์กักตัว โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด
โดยกลุ่มอดีตผู้ต้องขัง และแรงงานไทยในศูนย์กักกลุ่มนี้ อยู่ในศูนย์กักตัวที่ อ.เบตง ซึ่งการติดเชื้อในกลุ่มนักโทษและผู้ที่ถูกกักตัวในศูนย์กักตัวในเรือนจำ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีประวัติในการติดเชื้อในเรือนจำรัฐปีนัง แต่มีการติดเชื้อมากที่สุดในเรือนจำรัฐเคดาห์ ซึ่งปัจจุบันในประเทศมาเลเซียมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการติดเชื้อในเรือนจำและในศูนย์กักจากสถานที่อื่น
ขณะที่ทหารกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 4 และ ตชด.4405 ชุดเฝ้าตรวจชายแดน ออกลาดตะเวนเดินเท้า รอยต่อเชื่อมเขตแดนไทย-มาเลเซียใน อ.เบตง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ตลาดเขตแดนไทย -มาเลเซียที่มีแนวรั้วระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร จากแนวชายแดนใน อ.เบตง ที่มีระยะทางรวมประมาณ 86 กิโลเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดวางกำลังทั้งกองกำลังเดินเท้าในเส้นทางตามแนวชายแดน และได้จัดวางกองกำลังลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง ในจุดเขตแดนที่อยู่ใกล้หมู่บ้าน โดยมี กำลังภาคประชาชน ในการร่วมลาดตระเวน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายต่อไป