ประมวลภาพ "โจ ไบเดน" เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46

ประมวลภาพ "โจ ไบเดน" เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46

ประมวลภาพ "โจ ไบเดน" เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันพุธ (ตามเวลาท้องถิ่น) โจ ไบเดน ผู้คร่ำหวอดการเมืองในกรุงวอชิงตันมาเกือบ 50 ปี เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 ที่บันไดด้านตะวันตกของอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน โดยเขาขอให้ชาวอเมริกันร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในช่วงเวลาที่เป็น “ฤดูหนาวแห่งภัยอันตราย”

ไบเดนในวัย 78 ปี เป็นผู้นำสหรัฐฯ ที่มีอายุมากที่สุดขณะรับตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้เขาเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ มา 36 ปี และเป็นรองประธานาธิบดีมา 8 ปี โดยเขาปฏิญาณตนท่ามกลางสภาพอากาศเย็นในวันลมแรงว่า จะยืนหยัดในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และปกป้องประเทศจากศัตรูทั้งในและนอกประเทศ

ถึงผู้ที่ไม่สนับสนุนพวกเรา ผมขอให้พวกคุณรับรู้ว่าเรากำลังเดินไปข้างหน้า ถ้าคุณยังไม่เห็นด้วยกับเรา ก็เป็น (สิทธิ์) ของคุณ นั่นคือประชาธิปไตย”

ก่อนหน้าที่ไบเดนจะสาบานตนนั้น คามาลา แฮร์ริส อดีตวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ก็สาบานตนเป็นรองประธานาธิบดี ทำให้แฮร์ริสเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลหญิงที่มียศสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยแฮร์ริสยังเป็นคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันและเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอีกด้วย

โจ ไบเดน กล่าวในสุนทรพจน์ว่า เขาจะเป็นประธานาธิบดีของชาวอเมริกันทุกคน ไม่ใช่แค่ผู้ที่ลงคะแนนเสียงเลือกเขา โดยเขากล่าวว่า “ถึงผู้ที่ไม่สนับสนุนพวกเรา ผมขอให้พวกคุณรับรู้ว่าเรากำลังเดินไปข้างหน้า ถ้าคุณยังไม่เห็นด้วยกับเรา ก็เป็น (สิทธิ์) ของคุณ นั่นคือประชาธิปไตย”

เขายังกล่าวด้วยว่า “เราต้องหยุดสงครามกลางเมืองนี้... เราสามารถเห็นอีกฝ่ายเป็นเพื่อนบ้านกันได้โดยไม่ต้องเป็นศัตรูกัน เราเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกันได้ เราร่วมมือกัน ไม่ตะโกนใส่หน้ากัน และลดอุณหภูมิที่ร้อนระอุลงได้”

ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่สัญญาว่าจะ “ปกป้องความจริงและเอาชนะคำโกหก” แต่ไม่ได้ระบุถึงโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีที่เพิ่งหมดวาระ ที่กล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยทรัมป์แพ้คดีในศาลรัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้อกล่าวหาความผิดพลาดในการเลือกตั้งและการนับคะแนน

ไบเดนกล่าวด้วยว่า “(เรา) ได้ยินและใส่ใจในความหวังของผู้คน เราได้เรียนรู้อีกครั้งว่าประชาธิปไตยนั้นทั้งทรงคุณค่าและบอบบาง มิตรสหายทั้งหลาย ในชั่วโมงนี้ ประชาธิปไตยได้รับชัยชนะ”

เขายังกล่าวด้วยว่า “วันนี้คือวันของสหรัฐฯ วันนี้คือวันของประชาธิปไตย วันนี้เป็นวันในประวัติศาสตร์และความหวัง วันแห่งการเริ่มต้นใหม่ และวันแห่งความแน่วแน่” และย้ำว่า “ความเป็นเอกภาพคือหนทางในวันข้างหน้า”

(เรา) ได้ยินและใส่ใจในความหวังของผู้คน เราได้เรียนรู้อีกครั้งว่าประชาธิปไตยนั้นทั้งทรงคุณค่าและบอบบาง มิตรสหายทั้งหลาย ในชั่วโมงนี้ ประชาธิปไตยได้รับชัยชนะ”

อดีตประธานาธิบดีสามคน ได้แก่ บารัค โอบามา จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และบิล คลินตัน เข้าร่วมพิธีสาบานตนของไบเดน

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ที่หมดวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันนี้ กลับไม่เข้าร่วมพิธีของผู้รับช่วงดำรงตำแหน่งต่อเป็นครั้งแรกในรอบ 152 ปี โดยเขาเดินทางออกจากกรุงวอชิงตันเมื่อเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ไปยังบ้านพักตากอากาศริมมหาสมุทรแอตแลนติคในรัฐฟลอริดา

ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งครั้งนี้ ไม่มีประชาชนหลายแสนคนเข้าร่วมพิธีเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยและการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยมีการปักธงชาติสหรัฐฯ ที่บริเวณลานเนชันแนล มอลล์ เพื่อเป็นตัวแทนของผู้ที่เข้าร่วมพิธีแทน

นอกจากนี้ ยังมีการจำกัดจำนวนเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เข้าร่วมงานดังกล่าวที่ได้รับที่นั่งหลังไบเดน แฮร์ริส สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จิล ไบเดน และสุภาพบุรุษหมายเลขสอง ดักลาส เอ็มฮอฟฟ์ โดยเก้าอี้สำหรับแขกที่ได้รับเชิญถูกจัดวางให้ห่างกันตามคำแนะนำทางสาธารณสุข เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

พิธีสาบานตนตนครั้งนี้ จัดขึ้นท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ โดยมีการตั้งรั้วเหล็กสูงพันลวดหนามรอบบริเวณที่จัดพิธี หลังหน่วยข่าวกรองเตือนว่า ผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ไม่พอใจกับการรับรองชัยชนะของไบเดน อาจพยายามขัดขวางการจัดพิธี

วันนี้คือวันของสหรัฐฯ วันนี้คือวันของประชาธิปไตย วันนี้เป็นวันในประวัติศาสตร์และความหวัง วันแห่งการเริ่มต้นใหม่ และวันแห่งความแน่วแน่”

พิธีดังกล่าวยังจัดขึ้นสองสัปดาห์หลังจากที่ผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคนบุกเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อพยายามขัดขวางไม่ให้ ส.ส. และ ส.ว. รับรองการลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง ที่เป็นการยืนยันชัยชนะการเลือกตั้งของไบเดน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สภาล่างสหรัฐฯ ได้ลงมติถอดถอนทรัมป์ด้วยข้อหาปลุกปั่นการจลาจล โดยเมื่อวันที่ 6 มกราคม เขากล่าวกับกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนเขา ให้มุ่งหน้าไปยังอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อเผชิญหน้ากับ ส.ส. และ ส.ว. ที่กำลังรับรองชัยชนะของไบเดน ทั้งนี้ แม้ทรัมป์จะหมดวาระดำรงตำแหน่งลงแล้ว แต่เขาก็กำลังเผชิญกับการสืบสวนถอดถอนจากวุฒิสภาสหรัฐฯ

ไบเดน กับแฮร์ริส และคู่สมรสของพวกเขา เริ่มต้นวันสาบานตนด้วยการเข้าพิธีที่โบสถ์คาทอลิกของนักบุญแมทธิวอัครสาวกในกรุงวอชิงตัน โดยมีเเนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร เควิน แม็คคาร์ธีย์ ผู้นำพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร มิทช์ แมคคอนเนล ผู้นำพรรคริพับลิกันในวุฒิสภา และชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา เข้าร่วมพิธีนี้ด้วย

ในช่วงที่เริ่มพิธีนั้น ทรัมป์ได้เดินทางออกจากทำเนียบขาวเพื่อมุ่งหน้าไปยังรัฐฟลอริดา ทางด้านไมค์ เพนซ์ ก็ไม่ได้เข้าร่วมพิธีอำลาทรัมป์ แต่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของไบเดนพร้อมกับคาเรน เพนซ์ ภริยา

หลังเข้าพิธีสาบานตนแล้ว ไบเดนและแฮร์ริสมีกำหนดการเข้าวางพวงมาลาที่สุสานทหารนิรนาม ที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน นอกกรุงวอชิงตัน

ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสองสมัยในยุคโอบามา ยังมีกำหนดการลงนามในคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารและคำสั่งอื่นๆ อีกหลายฉบับในวันพุธด้วย

ทีมงานเปลี่ยนผ่านของผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ ระบุว่า คำสั่งที่ไบเดนจะลงนาม มีทั้งการนำสหรัฐฯ กลับเข้าร่วมองค์การอนามัยโลก การนำสหรัฐฯ กลับเข้าร่วมความตกลงปารีสด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยกเลิกคำสั่งของทรัมป์ที่ห้ามประชาชนจากประเทศมุสลิมหลายประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ เริ่มดำเนินการเพิ่มความเท่าเทียมด้านเชื้อชาติในสหรัฐฯ เพิ่มการคุ้มครองผู้อพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และชักจูงให้ชาวอเมริกัน “ปฏิบัติหน้าที่ของผู้รักชาติ” ด้วยการสวมหน้ากากเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

ในช่วงเย็นหลังพิธีสาบานตน มีการถ่ายทอดรายการ “Celebrating America” หรือ “เฉลิมฉลองให้อเมริกา” โดยทั้งไบเดนและแฮร์ริสมีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ในรายการดังกล่าว แทนการจัดงานเฉลิมฉลองรื่นเริงตามธรรมเนียมปกติ

ศิลปินคนอื่นที่เข้าร่วมงาน มีทั้งเคที เพอร์รีย์, หลุยส์ ฟอนซี, ทิม แม็กกรอว์, ลิน มานูเอล มิแรนดา เช่นเดียวกับนักแสดง เคอร์รี่ วอชิงตัน และ อีวา ลองโกเรีย นักบาสเก็ตบอล คารีม อับดุล-จับบาร์ เชฟ โฮเซ อันเดรส และคิม อึ้ง สตรีคนแรกที่จะได้เป็นผู้จัดการทั่วไปของทีมเมเจอร์ลีกเบสบอล

เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาระวังภัยอย่างดีที่สุด โดยสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ได้เช็คประวัติของกองกำลังสำรองทั้ง 25,000 นายที่ประจำในกรุงวอชิงตันเพื่อคุ้มกันพิธี

หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า สมาชิกกองกำลังสำรอง 12 คน ถูกปลดออกจากหน้าที่คุ้มกันงานพิธีดังกล่าว โดยมีสมาชิกอย่างน้อยสองคนที่มีแนวคิดเห็นอกเห็นใจฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ส่วนสมาชิกอีกสิบคนถูกปลดออกด้วยเหตุผลที่ไม่เกี่ยวกับลัทธิสุดโต่ง

อัลบั้มภาพ 19 ภาพ

อัลบั้มภาพ 19 ภาพ ของ ประมวลภาพ "โจ ไบเดน" เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook