ทอ.ตั้งหน่วยฉก. บินลาดตระเวนคุ้มกันผู้นำ-บุคคลสำคัญ

ทอ.ตั้งหน่วยฉก. บินลาดตระเวนคุ้มกันผู้นำ-บุคคลสำคัญ

ทอ.ตั้งหน่วยฉก. บินลาดตระเวนคุ้มกันผู้นำ-บุคคลสำคัญ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กองทัพอากาศตั้งหน่วยเฉพาะกิจบินลาดตระเวณและตุ้นกัน ผู้นำ-บุคคลสำคัญ ใช้เครื่องขับไล่และสกัดกั้น 3 หน่วยบิน เอ็นจีโอ โวยรบ.มั่วนิ่มทำข้อตกลงด้านลงทุน จี้ทบทวนโครงการใหญ่

ใช้กม.มั่นคงฯวันแรกไร้ปัญหา

การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยรัฐบาลประกาศให้พื้นที่ อ.ชะอำ-หัวหิน เป็นพื้นที่ความมั่นคงตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรักษาความมั่นคงภายในพระราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 12-27 ตุลาคมนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯที่ อ.หัวหิน ในวันที่ 12 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกว่า กองพลทหารพัฒนาที่ 1 ซึ่งรับผิดชอบด้านความมั่นคง ในการจัดทำสติ๊กเกอร์ประจำยานพาหนะที่เข้าออกในพื้นที่ อ.หัวหิน เริ่มแจกสติ๊กเกอร์ให้กับประชาชนทั่วไป โดยตั้งจุดแจกสติ๊กเกอร์ที่ทำการของชุมชนต่างๆ และจุดศูนย์กลางชุมชน มีประชาชนทยอยเดินทางมารับสติ๊กเกอร์กันอย่างต่อเนื่อง สำหรับสติ๊กเกอร์ที่แจกให้กับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ อ.หัวหิน เป็นสีเขียว มีหมายเลขทะเบียนรถและบาร์โค้ดติดอยู่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบจากฐานข้อมูลได้ นอกจากนี้ ยังเปิดรับลงทะเบียนยานพาหนะที่โรงเรียนหัวหินวิทยาลัยด้วย

ด้านนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วันแรกของการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯสถานการณ์ทั่วไปเรียบร้อยดี ประชาชนยังคงสามารถดำเนินชีวิตตามปกติ วันที่ 18 ตุลาคม จะเริ่มทดสอบอาเซียนเลน เพื่อหาข้อบกพร่อง และเตรียมความพร้อมด้านการจราจร

ทอ.ตั้งวอร์รูมอารักขาผู้นำ

ด้าน น.อ.มณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยการประชุมอาเซียนว่า กองบัญชาการกองทัพไทย มอบหมายให้กองทัพอากาศตั้งหน่วยเฉพาะกิจทหารอากาศ (ฉก.ทอ.) ขึ้นที่สนามบินหัวหิน ภายใต้แผนยุทธการหัวหิน-ชะอำ 521-3 เพื่อรับผิดชอบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สนามบินหัวหิน และควบคุมทางอากาศทั้งหมด โดย พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) แต่งตั้งให้ พล.อ.ท.วินัย เปล่งวิทยา รองเสนาธิการทหารอากาศ เป็นผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจทหารอากาศ ขณะนี้กำลังพลและยุทโธปกรณ์ส่วนหนึ่งเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหัวหินเรียบร้อยแล้ว

"กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่องบินขับไล่สกัดกั้น 3 หน่วยบิน โดยวางกำลังไว้ที่กองบิน 1 จ.นครราชสีมา กองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ และกองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อทำหน้าที่ปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนเมื่อมีเหตุร้าย เช่น บินคุ้มกันอากาศยานของบุคคลสำคัญ และจัดเครื่องบินลาดตระเวนรักษาความปลอดภัย พร้อมจัดเครื่องบินลำเลียง พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์บินลำเลียงสนับสนุนการเคลื่อนย้ายกำลังพล เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งส่งสารวัตรทหารอากาศ และหน่วยบัญชาการอากาศโยธินรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญและโรงแรมที่พัก"นอ.มณฑลกล่าว

ทร.ระดมเรือตรวจการณ์ร่วมรปภ.

พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนว่า กองทัพเรือเตรียมเรือตรวจการณ์ ทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก รวม 10 ลำ ซึ่งยังไม่นับเรือยาง เรือของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และเฮลิคอปเตอร์ที่มีจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่รับผิดชอบ กองทัพเรือมีความพร้อม และจะทำตามแผนที่วางไว้ ซึ่งขณะนี้แผนเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทั้งนี้ ตนไม่ห่วงว่าการประชุมครั้งนี้จะซ้ำรอยเหตุการณ์การประชุมที่พัทยา ชลบุรี เพราะทุกหน่วยข่าวกรองของเราเชื่อมโยงกันในวันประชุมตนคงต้องลงไปดูพื้นที่ด้วยตนเอง

เวทีคู่ขนานอาเซียนถกเข้ม4ปม

วันเดียวกัน ที่อาคารประชาธิปก-รำไพพรรณี จุฬาลงกรณ์หาวิทยาลัย มีการเสวนาภาครัฐและประชาชนในการพัฒนาประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ ได้เปิดประเด็นท้าทายการพัฒนาประชาสังคมอาเซียน 4 เสา ประกอบด้วย 1.สังคม-เศรษฐกิจ 2.สิ่งแวดล้อม 3.ความสันติภาพและความมั่นคง และ 4.สังคม-วัฒนธรรม

ด้านสังคม-เศรษฐกิจ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวว่า การเปิดเสรีทางการค้าในอาเซียนเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อด้านอื่นๆ ทั้งสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของมนุษย์และสิทธิมนุษยชน การเปิดเสรีการค้าโดยเฉพาะสินค้าการเกษตรซึ่งกระทบคนทั้งหมดในอาเซียน ในปีหน้าจะเปิดเสรีด้านนี้ในทุกระดับ แต่ประชาชนกลับไม่รู้เรื่อง เพราะตกลงทำกันเฉพาะในหมู่ผู้นำอาเซียนและอ้างว่าเป็นความลับ

ห่วงเปิดเสรีอาหรับฮุบ

"ในส่วนของไทย บางเรื่องไม่เคยเปิดให้ชาติใดทำมาก่อน เช่น สาขาการเพาะและขยายพันธุ์พืช สาขาประมง สาขาปลูกป่า ฯลฯ แต่เขียนไว้ชัดเจนว่าเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งในและนอกอาเซียนทำได้เฉกเช่นเดียวกับคนในประเทศ ซึ่งเกรงว่าจะทำให้นักลงทุนจากกลุ่มอาหรับเข้ามาได้สะดวก" นายวิฑูรย์กล่าว และว่า หลาย 10 ปีที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมการลงทุนได้เปิดให้บริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนเรื่องเมล็ดพันธุ์ ทำให้ธุรกิจเล็กๆ หรือสำนักวิจัยของรัฐถูกบริษัทข้ามชาติยึดครองเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เช่น กรณีกล้วยไม้ที่นักลงทุนต่างชาติพยายามเข้ามาครอบงำกิจการหลายครั้ง แต่ถูกต่อต้าน

"ประเทศไทยพยายามจะโชว์ความเป็นผู้นำ พยายามอ้างว่าได้ฟังประชาพิจารณ์จากคนไทยแล้ว ในการประชุมอาเซียนครั้งนี้ เราต้องส่งสารบอกอาเซียนว่า ประชาชนไทยไม่ได้รับรู้หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันด้านการลงทุนนี้เลย แต่เป็นมติของคนบางกลุ่มเท่านั้น เราต้องหาว่าใครได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุนนี้กันแน่ การเปิดเสรีครั้งนี้ส่งผลกระทบรุนแรงยิ่งกว่าครั้งใดๆ และเป็นการดำเนินการโดยกลุ่มคนที่เคยต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) แต่ครั้งนี้กลับทำกันเสียเอง" นายวิฑูรย์กล่าว และว่า ได้ยื่นเรื่องไปที่รัฐบาลแล้วแต่ยังไม่มีคำตอบ

ชี้สร้างเขื่อนตัวอย่างพัฒนาล้าหลัง

ด้านนางเปรมฤดี ดาวเรือง ผู้อำนวยการมูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ กล่าวว่า กรอบข้อเสนอของภาคประชาชนด้านสิ่งแวดล้อมในเวทีอาเซียนมี 3 ประเด็น คือโครงการขนาดใหญ่ เช่น สร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงและสาละวิน ซึ่งมีแผนสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง 11 เขื่อน และสาละวิน 18 เขื่อน ซึ่งเป็นตัวอย่างการพัฒนาที่ล้าหลังและไม่ยั่งยืน เพราะละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

"ในประเทศสมาชิกอาเซียนมีอุตสาหกรรมขุดเจาะทรัพยากรแร่ ก๊าซ และน้ำมัน เกิดขึ้นมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในลาวและกัมพูชา ซึ่งบริษัทข้ามชาติเข้ามามีบทบาทอย่างมาก ทั้งนี้ อาเซียนต้องเรียนรู้ความผิดพลาดของประเทศร่ำรวยทรัพยากรธรรมชาติ แต่ด้วยความเชื่อผิดๆ จึงดำเนินการด้านอุตสาหกรรมขุดเจาะทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อมุ่งสู่การส่งออกจนทำให้ประเทศต้องประสบกับภาวะที่เรียกว่าคำสาปจากการใช้ทรัพยากร ในที่สุดแล้วก็ไม่ได้ให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว แต่กลับสร้างปัญหาที่ร้ายแรงยิ่งกว่า"นางเปรมฤดีกล่าว และว่า อาเซียนควรทบทวนกิจกรรมทางเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากการเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนนั้นๆ เป็นไปตามกฎบัตรอาเซียน

แนะตั้งสภาอาเซียนเพื่อคนพิการ

น.ส.พิมพ์ธรรม เอื้อเฟื้อ ผู้แทนองค์กรสตรี กล่าวถึงสันติภาพและความมั่นคง ว่าอยากให้รัฐบาลในอาเซียนทบทวนกฎหมายที่เลือกปฏิบัติกับผู้หญิงและเด็ก พร้อมทั้งเร่งรัดให้ออกกฎหมายส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ

ด้านผู้แทนคนพิการกล่าวว่า เครือข่ายคนพิการต้องการให้จัดตั้งสภาแห่งอาเซียนเพื่อใช้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนงานของคนพิการ ซึ่งขณะนี้จัดตั้งองค์กรในแต่ละประเทศแล้ว แต่ยังไม่ยกระดับในอาเซียน และอยากผลักดันให้อาเซียนมีวาระหรือทศวรรษของคนพิการเพื่อให้ทำงานได้ละเอียดขึ้น และควรผลักดันในประเทศในอาเซียนรับรองอนุสัญญาว่าด้วยความคุ้มครองสิทธิของคนพิการด้วย

เขมร หนุนขออาเซียนแก้พระวิหาร

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กัมพูชาจะขอให้ผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียน ช่วยแก้ปัญหาขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน โดยนายฮอ นัม ฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา กล่าวในแถลงการณ์ว่า สนับสนุนข้อเสนอของนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ที่ให้อาเซียนจัดตั้งคณะอนุญาโตตุลาการเพื่อช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งบริเวณปราสาทพระวิหาร

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกษิต กล่าวว่า จะขอความเห็นชอบจากที่ประชุมอาเซียน จัดตั้งองค์กรกลางของอาเซียน เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกัน ซึ่งอาจจะเป็นทางออกในการแก้ข้อพิพาทเรื่องปราสาทพระวิหารระหว่างไทยกับกัมพูชาได้

นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบแล้วเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการรายงานข่าวคลาดเคลื่อน ยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐมนตรีต่างประเทศได้พูดถึงกลไกระงับข้อพิพาทของอาเซียนเฉพาะในบริบทของประเด็นที่คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของผู้นำอาเซียนในปลายเดือนนี้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยืนยันท่าทีเดิมคือให้แก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาภายใต้กลไกทวิภาคีในกรอบคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา ต่อไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากได้รับการแจ้งจากฝ่ายกัมพูชาจะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook