ลูกสาววัย 11 สุดทน พ่อเลี้ยงทุบตีแม่โชว์ผ่านวิดีโอคอล ติดต่อเฟซบุ๊กปวีณา วอนช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 23 มกราคม 2564 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยว่า วานนี้ ด.ญ.บัว (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ได้ติดต่อร้องทุกข์มายังเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอให้ช่วยเหลือ น.ส.ออม (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ทั้งไม่ยอมให้ออกจากบ้านไปไหน  จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อพามารักษาตัวได้  

หลังทราบเรื่อง มูลนิธิฯ ได้โทรศัพท์คุยกับ ด.ญ.บัว และขอให้ย่าของ ด.ญ.บัว พาหลานมาที่มูลนิธิปวีณาฯ โดย นางปวีณา ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.เอกณัฏฐ์ เหลืองแดง ผกก.สภ.แปลงยาว และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พา ด.ญ.บัว เข้าพบในเวลา 11.00 น.

หลังจากที่ พ.ต.อ.เอกณัฏฐ์ ได้รับทราบข้อมูล จึงได้สั่งการให้หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา  เข้าไปที่บ้านของพ่อเลี้ยงทันที แต่ไม่พบตัว น.ส.ออม และสืบทราบว่าพ่อเลี้ยงได้ให้คนไปส่ง น.ส.ออม กลับไปที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ทำงาน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปรับตัวออกมา เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นได้ ก่อนเดินทางมาที่ มูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี  ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ด.ญ.บัว เล่าว่า น.ส.ออม (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ผู้เป็นแม่ ได้อยู่กินกับพ่อเลี้ยงมาประมาณ 6 ปี โดยมีการจดทะเบียนสมรส แต่ไม่มีลูกด้วยกัน ทั้งคู่มีอาชีพเป็น รปภ. อยู่ที่ จ.ชลบุรี พ่อเลี้ยงมีลูกติด 3 คน แม่มีลูกติด 2 คน โดยตนเป็นคนโต ซึ่งเมื่อเดือน ธ.ค.63 ตนได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่บ้านพ่อเลี้ยง อยู่กับลูกๆ ของพ่อเลี้ยง 3 คน ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนแม่และพ่อเลี้ยงไปอยู่ห้องเช่า ที่ จ.ชลบุรี

ซึ่งตนทราบว่าแม่และพ่อเลี้ยงมักมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจ จึงได้คุยกับแม่ ขอกลับไปอยู่กับย่า ที่ จ.ระยอง

ต่อมาวันที่ 18 ม.ค 64 แม่ปวดท้องเข้าโรงพยาบาล พ่อเลี้ยงจึงได้กลับมาเก็บของให้แม่ และได้เจอโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องของแม่ ซึ่งแม่ซื้อเก็บไว้ให้น้อง พ่อเลี้ยงได้เปิดดูเจอว่าแม่แชทคุยกับคนอื่นจึงโมโห เมื่อแม่กลับมาจากโรงพยาบาล จึงถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย แต่ตนไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายแม่หนักขนาดนี้

และเช้าวันที่ 19 ม.ค 64 พ่อเลี้ยงได้พาแม่กลับมาที่บ้านที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่ย่ามารับตนกลับ จ.ระยอง แต่ตอนนั้นตนยังไม่เห็นบาดแผลของแม่ กระทั่งวันที่ 20 ม.ค. พ่อเลี้ยงได้วิดีโอคอลมาหาป้า และทำร้ายร่างกายแม่ให้ป้าดู สภาพใบหน้าและตามร่างกายของแม่ฟกซ้ำมาก และพ่อเลี้ยงยังขู่จะเอามีดปาดคอแม่ กล้อนผมแม่ให้ดูอีก ตนกลัวว่าแม่จะเป็นอันตรายถึงชีวิตขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยแม่ด้วย

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรับตัวมาแล้ว ได้ให้มาพักที่มูลนิธิฯ ก่อน โดยในวันพรุ่งนี้ จะพาตัวไปตรวจร่างกายที่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ส่วนจะดำเนินคดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ได้รับบาดเจ็บเอง เพราะมีการจดทะเบียนสมรสกับทางฝ่ายชาย แต่ผู้ที่แจ้งขอความช่วยเหลือมานั้นเป็นลูก ที่ทนไม่ได้ที่เห็นแม่ถูกทำร้ายร่างกาย