คณะก้าวหน้า เปิดตัวผู้สมัครนายกเล็กนครเชียงใหม่ ลุยศึกเลือกตั้งเทศบาล 28 มี.ค.
กลุ่มเชียงใหม่กว่าและคณะก้าวหน้า เปิดตัวผู้สมัครนายกเทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ (24 ม.ค.) ซึ่งก็คือ นายธีรวุฒิ แก้วฟอง ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) วันที่ 28 มี.ค.
นางสาวเยาวลักษณ์ วงศ์ประภารัตน์ สมาชิกคณะก้าวหน้า และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า หลังจากตนได้ฟังนโยบายของนายธีรวุฒิแล้ว ในฐานะคนเชียงใหม่ก็รู้สึกตื่นเต้นและเชื่อว่าน่าจะเป็นความหวังให้กับพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่และ จ.เชียงใหม่ ได้เลย ทั้งยังมองว่าคนเชียงใหม่จะมีโอกาสในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น
การเปิดตัวครั้งนี้ไม่พบว่ามีการเปิดเผยนโยบายใดๆ ออกมา ซึ่งนายธีรวุฒิบอกว่าจะเปิดเผยหลังจากมีการสมัครกับเจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ก.พ. และการเปิดเผยนโยบายในขณะนี้ยังเร็วเกินไปและเกรงว่าอาจถูกเลียนแบบได้
เมื่อเข้าไปสำรวจในแฟนเพจเฟซบุ๊กของกลุ่มเชียงใหม่กว่า พบว่าเพิ่งมีความเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ส่วนการเคลื่อนไหวในเพจดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ (25 ม.ค.) คือการตั้งคำถามเกี่ยวกับ "พื้นที่สาธารณะ" ในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ตอบโต้การป้ายห้ามประชาชนเล่นสเก็ตบอร์ดที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ของคณะผู้บริหารเทศบาลชุดปัจจุบันเมื่อวันอาทิตย์ (24 ม.ค.) ซึ่งการห้ามเล่นสเก็ตบอร์ดดังกล่าวได้รับเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์
ระหว่างการเปิดตัวดังกล่าวมีผู้เขียนคำถามว่าจะพัฒนาเทศบาลนครเชียงใหม่ให้เป็นมหานครคล้ายกับกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยาได้หรือไม่ นายธีรวุฒิตอบคำถามนี้ว่า ตนมองว่าเชียงใหม่ก็ควรมีทิศทางเป็นของตัวเอง ซึ่งอาจแตกต่างจาก 2 เมืองดังกล่าว แต่ถ้าหากประชาชนต้องการให้เป็นคล้ายกับ 2 เมืองนี้ ก็ต้องฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก
ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านวิดีโอคอลในงานดังกล่าวว่า เทศบาลนครเชียงใหม่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นศูนย์กลางของ จ.เชียงใหม่ และเท่ากับว่าเป็นศูนย์กลางของภาคเหนือด้วย แม้มีพื้นที่เพียงประมาณ 40 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรเพียงมากกว่า 100,000 คน แต่เป็นพื้นที่ที่มีงบประมาณเยอะมาก ถึง 1,600 ล้านบาทต่อปี เท่ากับว่านายกเทศมนตรีและผู้บริหารเทศบาลจะต้องบริหารงบประมาณราว 6,000 ล้านบาทต่อวาระ 4 ปี
หัวหน้าคณะก้าวหน้ารายนี้ ที่เคยเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อไปว่า เทศบาลนครเชียงใหม่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เพราะเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนา ไม่ใช่แค่นั้นยังเป็นพื้นที่ที่มีสถาบันการศึกษาเยอะ จึงเป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งไม่ได้มีแต่คนเชียงใหม่เท่านั้นที่มาเรียน แต่ยังมีคนรุ่นใหม่จากทั่วประเทศและต่างประเทศมาเรียนและทำงานด้วย