พันธมิตรชาวสีรุ้ง! โจ ไบเดน ประกาศยกเลิกนโยบายละเมิดสิทธิกลุ่ม LGBTQ+ ในสหรัฐ
ทันทีที่โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐเข้าสาบานตนรับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เขาก็ได้ลงนามใน “คำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี” เพื่อยกเลิกหลาย ๆ นโยบายของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลาง
หลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ในปี 2017 รัฐบาลของเขาได้ยกเลิกนโยบายของบารัก โอบามา ที่มีคำสั่งให้โรงเรียนปกป้องนักเรียนข้ามเพศจากการถูกเลือกปฏิบัติ หลังจากนั้น ทรัมป์ก็ได้ประกาศนโยบายห้ามคนข้ามเพศเข้าร่วมกองทัพสหรัฐ ต่อมาก็ได้มีคำสั่งให้นักโทษข้ามเพศ ต้องถูกขังในเรือนจำตามเพศกำเนิดของพวกเขา ก่อนที่กระทรวงการเคหะและพัฒนาเมืองสหรัฐจะประกาศนโยบายที่อนุญาตให้บ้านพักคนไร้บ้านที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง สามารถจัดให้คนข้ามเพศอยู่ในที่พักตามเพศกำเนิดได้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของไบเดนได้ยกเลิกนโยบายทั้งหมดของทรัมป์เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งรวมถึงคำสั่งพิเศษที่ระบุให้ใช้คำตัดสินของศาลสูงสหรัฐ ในคดี Bostock v. Clayton County ที่มีคำสั่ง ห้ามนายจ้างเลือกปฏิบัติต่อพนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศ ตามกฎหมายสิทธิพลเมืองสหรัฐ (Civil Rights Act) ปี 1964 ลักษณะ 7 (Title VII) และมีผลบังคับใช้กับทุกกรณีที่มีเหตุแห่งเพศเข้ามาเกี่ยวข้องในกฎหมายของรัฐบาลกลาง กล่าวคือ กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศจะไม่ถูกเลือกปฏิบัติในด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา ระบบสาธารณสุข และการจ้างงาน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไบเดนยังได้ลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อยกเลิกนโยบายห้ามกลุ่มคนข้ามเพศ (Transgender) สมัครเข้าร่วมกองทัพสหรัฐของทรัมป์ โดยมีพลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ
“ประธานาธิบดีไบเดนเชื่อว่า อัตลักษณ์ทางเพศไม่ควรเป็นอุปสรรคในการเข้ารับราชการทหาร และจุดแข็งของอเมริกาจะพบได้ในความหลากหลายของประเทศ” เจน พีสากี้ โฆษกประจำทำเนียบข่าว กล่าว
การยกเลิกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายของไบเดน ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับชาวอเมริกันเท่าไรนัก เนื่องจากไบเดนแสดงออกว่าให้การสนับสนุนสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ มาอย่างยาวนาน
